กรกฎาคม
เริ่มต้นทำงานที่ใหม่มาได้ 1 เดือนแล้ว ชีวิตที่นี่เป็นชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ได้วุ่นวายเหมือนวันก่อนๆตอนที่อยู่ กทม. วันแรกที่ได้เป็นอิสระ วันนั้นรู้สึกว่า ตัวเองว่างแปลกๆ อยากมีปัญหา มีเป้าหมายให้ได้ทำงานไปถึงจุดๆนั้น รู้สึกไม่ชอบชีวิตต่างจังหวัด เพราะมันเรื่อยเปื่อยเกินไป เลยพยายามหาอะไรต่างๆ มาให้ตัวเองทำแก้เบื่อ เรียนสิ่งที่อยากเรียน ทำสิ่งที่อยากทำ เริ่มต้นอยากฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเผื่อต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ยังหาครูไม่ได้ ครูฝรั่งที่หาได้ก็คิดค่าสอน ชั่วโมงละตั้ง 1000 บาท (จะแพงไปถึงไหน) สุดท้ายคิดว่า ทำไมเราต้องพึ่งคนอื่นๆ ประกอบกับที่คุยกับพี่ๆที่นี่ สรุปแล้วคงจะฝึกกับการดู series และหาหนังสือมาอ่านเองสอบ IELTS หรือ TOEFL เพิ่มเอง คราวนี้ฝึกดู series ต้องพยายามไม่อ่าน subtitle ไม่รู้ว่าจะรู้เรื่องรึป่าว สงสัยต้องอ่านเรื่องย่อไปก่อน (*,*)" สิ่งที่ช่วยทำให้ไม่เบื่อมากนักในตอนเย็นก็คือการออกกำลังกาย โชคดีที่มี fitness ใกล้ๆที่พัก คิดว่าอยากไป ใส่ถุงเท้ารองเท้า เดิน 2 นาทีก็ถึง วันแรกเล่น elliptical เป็นเครื่องออกกำลังกายที่เดินเป็นรูปวงรีไม่กระแทกหัวเข่า จำได้ตอนเคยเล่น fitness เมื่อ ประมาณเกือบสิบปีก่อน trainer บอกว่าเดินกะเจ้าเนี่ย 20 นาที ก็ถือว่าดีมากแล้ว ควรทำทุกวัน วันแรกเลยขึ้นไปเล่นเจ้านี่ก่อนเลย นาทีแรกผ่านไปโอเค เริ่มมีหัวใจเต้นตึก ตึก นาทีที่สองเริ่มหันไปดูนาฬิกาว่ากี่นาทีแล้ว...ตกใจ แค่ 2 นาทีเองเหรอ นาทีต่อๆมา หันไปดูทุก 30- 40 วินาที จนครบ 5 นาที หอบแฮ่ก แล้วไปเล่นยกดัมเบลล์ลดต้นแขน รู้สึกตัวเองไม่ฟิตเอาซะเลย นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายจริงจังมากี่ปีเนี่ย (เฉลย 7 ปี) ตอนนี้อยู่ตัวกับการวิ่งสายพานและ elliptical นี่รวมๆกัน 40-50 นาที หนึ่งเดือนผ่านไปได้ผล มีคนที่ไม่ค่อยได้เจอกันพอมาเจอบอกว่า ผอมลง น้ำหนักลงไปประมาณ 2 กก. บวกกับกินข้าวเย็นน้อยลงด้วย เนื่องจากไม่ค่อยมีอาหารล่อตาล่อใจเหมือนที่ กทม. คนกินด้วยก็ไม่อยู่ ออกกำลังกายก็เหนื่อยแล้ว เลยทำให้นน.ลง ถ้าเอาส่วนสูง ลบด้วยนน. ให้เหลือ 110 ก็คงต้องลดอีก 3 กก. แต่ตอนนี้ก็รู้สึกดีล่ะ มันจะอ้วนในบางส่วนก็ช่างมันเห้อะ กิจกรรมต่อมาเป็นการเรียนดนตรี จะเรียนอะไรดี ไปรร.ดนตรีหยิบอูคูเลเล่ไปด้วย จริงๆเล่น chord พอเป็นแล้ว แต่อยากเรียนต่อยอดพวกเพลงพระราชนิพนธ์ กีตาร์เคยเล่นเป็น (แบบ chord) แต่ก็ทิ้งไปนานแต่ก็อารมณ์ประมาณอูคูเลเล่ และก็ไม่อยากเจ็บนิ้วใหม่ เลยถามคุณครูว่าถนัดเครื่องดนตรีอะไร คุณครูถนัดเปียโน ในใจเคยคิดว่า หืมม ไม่ชอบเปียโนเลย เสียงไม่เพราะเท่ากีตาร์ แค่กดๆใครจำว่ากดอะไรตรงไหนได้ก็คงเล่นได้ คนก็เล่นเยอะ มันไม่แนว เครื่องก็ใหญ่ และก็ดูคุณหนูมากด้วย ไอเราก็ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นแม้จะมีบางคนบอกว่าเหมาะล่ะ " มันสนุกมากนะคะ" เสียงครูบอกต่อท้ายเมื่อเห็นว่าเริ่มลังเล ว่าจะเล่นอะไรดี "คนนู้นก็เล่น คนนั้น คนนี้ก็เล่น" ครูเอ่ยชื่อเพื่อน อะ..ก็ได้ สรุปเลยได้เรียนเปียโน หน้าแรกๆ ก็เบื่อ มันเหมือนเด็กอนุบาล โด เร มี ฟา ซอล ซอล ฟา มี เร โด นั่งไล่มือ แต่พอเรียนๆไปชักยาก แค่ 3-4 คาบ ที่ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้างที่เล่นไม่เหมือนกัน ประสานกัน มันทำไม่ได้ ต้องค่อยๆฝึก ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าสิ่งนี้คือเสน่ห์ของดนตรีชิ้นนี้แล้ว ฟังไปฟังมามันก็เพราะดี ยิ่งเห็นคุณครูเล่นเพลงยากๆให้ฟังยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ รู้สึกชื่นชม คุณครูเก่งจังเลยค่ะ :) ต่อจากนี้ไปคงได้เรียนอีกซักอย่างน้อยหนึ่งปี ก็ต้องเป็นเพลงกันบ้างละวะ อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะทำแต่ยังต้อง build อารมณ์อยู่ ก็คือการถ่ายภาพ เมื่อก่อนจะถ่ายรูปเล่นเยอะมาก ตกเย็นหลังเลิกงานก็ออกแล้ว ไปหน้าบ้าน เดินไปรอบๆ ไปทุ่งนา ไปสะพานรถไฟคนเดียวก็มี ไปถ่ายรูปตอนนั้นมีความสุขกับการได้ถ่ายไปเรื่อยๆ ได้เก็บภาพ (ที่ตัวเองคิดว่าสวย) เข้าไปที่ทำงานเก่า เค้าเห็นว่าชอบถ่ายรูป เวลามีงานมักจะให้เราถ่ายรูปให้ แต่เค้าไม่ได้ถามว่าเราอยากถ่ายรึป่าว คือแนนถ่ายให้ได้ แต่ไม่ชอบถ่ายคน ไม่ชอบการให้คนมากดดันเวลาต้องปรับกล้องนู่นนี้นั่น เข้าใจว่าเค้าคงยิ้มจนเหงือกแห้ง แต่เราก็ไม่ชอบอะไรที่เร็วๆเหมือนกัน พอถ่ายรูปมาไม่ดีก็เซ็งอีก เลยหมดอารมณ์ไป ประกอบกับเรียนเยอะด้วย เลยเลิกออกหากินตอนเย็น ตอนนี้ก็ทิ้งมันมานาน วันก่อนเริ่มเอาไปถ่ายอีก แต่บรรยากาศที่อยู่ใหม่รอบๆนี้ มันยังไม่มีอะไรตื่นตาตื่นใจ จะแอบถ่ายคนก็เกรงใจเค้า ตามมารยาทต้องไปขอเค้าก่อน ก็ไม่กล้าอีก ได้แต่ถ่ายหมาแมวทั่วไปตามเดิม อยากขับรถไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆอีก เดี๋ยวคนที่เป็นห่วงก็จะว่าอีกล่ะ ขี้เกียจทะเลาะ เลยปล่อยอย่างนี้ไปก่อนละกัน มีอารมณ์ค่อยไปถ่ายใหม่นะจ้ะ ตอนนี้เริ่มอยู่ตัวและชอบกับชีวิตแบบนี้ ได้ดูแลตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ต้องเครียด ได้ทำงานที่รักด้วย เมื่อก่อนไม่ได้ถึงกับรัก แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์มาก เลยรักงานนี้ เริ่มชอบชีวิตแบบนี้ คิดอยู่ว่าเมื่อต้องกลับไปทำงานหนักๆอีกครั้ง เพื่อความก้าวหน้า เพื่อชี่อเสียง เพื่อองค์กร เราจะมีความสุขเท่ากับแบบนี้มั้ยแต่ก็แลกกับได้อยู่กับคนนั้นน่ะ มันก็คงคุ้มล่ะ บันทีกความเป็นไปในชีวิตช่วงนี้แค่นี้ก่อน ค่อยเก็บมาเล่าใหม่ พรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ วันนี้ วันแม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปแอบซื้อพวงมาลัยให้แม่ก่อน ต้องนอนแล้วล่ะ
Create Date : 12 สิงหาคม 2556 | | |
Last Update : 12 สิงหาคม 2556 10:57:14 น. |
Counter : 818 Pageviews. |
| |
|
|
|