Bloggang.com : ข้าน้อยคาราวะ :

บันเทิงเริงจีน462:ทาเคชิ Nature Life/ปริศนาลับราชวงศ์ถัง3/เมืองคานส์#78/จิ๋นซีมูฟวี่'26/สายลับสองเงา

หมอกมืดครึ้มปกคลุมเหนือวังทองคำ
เสียงเฟิงหมิงดังกึกก้องสะเทือนสวรรค์
สวมดาบคู่กาย ฝ่าหมอกกล้าอย่างองอาจ
แสงอัญมณีดั่งหยกส่องประกายเคลื่อนไหวดั่งดวงดาว
CR:@bbbeee_my

อีกหนึ่งแนวสืบสวนคดีราชวงศ์ถังเหมือนกัน สืบกันจุก ๆ อันนี้น่าจะแอ๊บแรงบันดาลใจมาจากเรื่องก่อนหน้ารึป่าวจ้ะ ชวนกันสืบแบบคู่รัก กว่าจะรักกันก็ฟาดกันยับซะก่อน เรื่อง The Mysterious Case of Tang Palace ของสำนักยูคู นางเอกไป๋ลู่ ควงคู่กับ หวังซิงเยว่ โปสเตอร์แรกเปิดออกมา ดึงดูดสายตาอยากรู้อยากเห็นคดีหลอน พระนางยืนอยู่บนสะพาน ด้านล่างเป็นน้ำที่เต็มไปด้วยซากศพโครงกระดูก แล้วใส่ดีเทลความหลอนไว้อีกมากมายในวงล้อนั่น แล้วเราก็จินตนาการต่อว่าวงล้อพิศวงนั่น น่าจะมีอะไรซ่อนไว้ซักอย่าง สงสัยไปเรื่อยแหละ 🧐😆 ก่อนชมเบื้องหน้า ให้ชมเบื้องหลังก่อน ดูก็รู้ว่าใครคือหัวหน้ากรมสืบสวน 😂

คาแรกเตอร์นางเอก ไป๋ลู่ ถูกใจใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นลุคคุณหนูคนงาม ลุคใต้เท้าสืบคดี จับดาบ ขี่ม้า ยิงธนู บู๊ฉ่ำ ๆ ตกลงใครพระเอกใครนางเอก ปรับเปลี่ยนอารมณ์ตามแม่นางไม่ทัน 😂

คาแรกเตอร์พระเอก หวังซิงเยว่ ถ้าดูบ่อยก็คุ้น ๆ คอสตูมสมัยถัง มาแนวนี้ต้องเรียกใต้เท้าเซียว รับบทเป็น เซียวฮวายจิ่น น่าจะอยู่ศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลปกครอง ศาลเยาวชน หรือ ศาลเจ้า ใต้เท้าเซียวพาท่านแม่ไปไหว้พระ ไม่มีความลับไร 🤣

ขยับ=ออกกำลังกาย แต่ถ้าผู้ชายคนนี้ขยับ = สปอตไลท์ทำงานทันที ทาเคชิ คาเนชิโร่ หรือ จินเฉิงอู่ ออกจากการจำศีลมารับงานโฆษณา (เม้นท์ที่จีนคือ ลุงกลับมาเปิดกิจการแล้ว สรรพนามแรง) 😄 แบรนด์นี้เค้าน่าจะส่งมืออาชีพมากล่อมเกลี้ย พระเอกฟังแล้วไม่เพลีย ตอบรับเล่นโฆษณากันเลย ภาพที่ออกมาน่าจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ในตอนนี้ของทาเคชิมาก ๆ เพราะว่าพ่อชอบอยู่กับธรรมชาติ ท้องฟ้าใส ใบไม้เขียว อาหารสุขภาพ ค่อย ๆ จิบชาอย่างช้า ๆ เราไม่รีบ แต่บ้านรออยู่ 😂 แล้วหุ่นนายแบบ ไม่ว่าจะใส่อะไรสไตล์ไหนมันลงตัวดูดีไปซะหมด ไม่ว่าพ่อจะใส่แค่เชิ้ตสบาย ๆ หรือพ่อจะใส่สูทมานั่งปลูกต้นไม้ คงได้ร้อนชิบ 😂 โฆษณาเป็นคอนเซ็บต์ Nature Life แล้วชั้นคือคนที่นั่งอยู่บนจักรยานที่ทาเคชิจูงไง โฆษณาออกเรียบร้อย มีแค่พระเอกกับจักรยานค่ะ อิส่วนเกินไม่เกี่ยว 😆

มีการพูดถึงภาพยนตร์เรื่อง Sons of the Neon Night ที่ทาเคชิถ่ายทำไว้ตั้งแต่ปี 2017 มาถึงตอนนี้เรียกว่าเก่าเก็บละ เอาเข้าพิพิธภัณฑ์เลยละกัน 😂 หนังไม่ได้ฉาย แต่มีจัดนิทรรศการซะงั้น พวกเราดูหนังพอทเทรดแบบใส่กรอบรูปแทนแล้วกัน รูปนี้ตั้งหน้าบ้านแล้ว 😂

ทาเคชิ ผู้ไม่ปรารถนาที่จะออกสื่อเมื่อไม่มีงาน press เหมือนบุรุษลึกลับตลอดเวลา ทาเคชิเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ถ้าวันหนึ่งได้แต่งงานและมีลูก เขาอาจจะเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่จริงจังกับการเป็นผู้นำครอบครัว พร้อมจะดูแลลูกเมีย ทำงานเสร็จกลับบ้านมากินข้าวที่บ้านทุกวัน และช่วยภรรยาเลี้ยงลูก" (นึกภาพเสียงเด็กกระจองอแง คุณพ่อทาเคชิกำลังเปลี่ยนผ้าอ้อม) 🤣 ยิ่งทำตัวลึกลับเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งสนใจมากขึ้นเท่านั้น มารู้จักทาเคชิให้มากขึ้นกับคำถาม 6 ข้อ

เรียบเรียงข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.zaobao.com.sg/entertainment/story20250408-6137340

1.ทาเคชิเป็นคนญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ?
พ่อของทาเคชิ คาเนชิโร่ เป็นคนญี่ปุ่น และแม่เป็นคนไต้หวัน ทาเคชิ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล "ผู้สร้างภาพยนตร์ไต้หวันดีเด่นแห่งปี" ในงานประกาศรางวัลม้าทองคำครั้งที่ 45 จากภาพยนตร์เรื่อง "The Warlords" แต่ภายหลังเขาถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากเขาเป็นพลเมืองญี่ปุ่น

ทาเคชิเกิดที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2516 (1973) และไม่ได้กลับไปญี่ปุ่นจนกระทั่งอายุ 18 ปี ประวัติของทาเคชิ คาเนชิโร่ บรรยายไว้ดังนี้ “พ่อของฉันเป็นคนญี่ปุ่นและมักเดินทางไปมาระหว่างญี่ปุ่นและไต้หวันเพื่อทำธุรกิจปลาไหล ส่วนแม่และฉันตั้งรกรากอยู่ในไทเป” ทาเคชิ คาเนชิโร่ เข้าเรียนในโรงเรียนญี่ปุ่นและโรงเรียนานาชาติ แต่เขาพูดภาษาไต้หวันกับแม่ของเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเรียนภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นในช่วงหลังเลิกเรียน

นามสกุลจริงของทาเคชิ คาเนชิโร่คือ “คินชิโระ” และชื่อจริงของเขาคือ “ทาเคชิ” ชื่อ "Wu" ที่พ่อตั้งให้เขาจริงๆ แล้วมีความหมายพิเศษ เนื่องจากทาเคชิ คาเนชิโร่ เกิดวันที่ 11 ดังนั้น การนำเลข 10 มาบวกกับ 1 จึงกลายเป็น "士" และเมื่อนำชื่อ "Wu" มาใช้รวมกันก็หมายถึง "นักรบ"

2.คุณเข้าวงการบันเทิงเพื่ออยากมีเงินซื้อมอเตอร์ไซค์ใช่ไหม?
ปีพ.ศ. 2532 (1989) ทาเคชิได้ถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มโซดา ซึ่งกลายเป็นผลงานชิ้นแรกของเขาในวงการบันเทิง มากับความสูง 180 ซม. เบ้าหน้าหล่อเข้มฟ้าประทาน (ความหล่อที่ไม่ต้องพยายาม) ความบังเอิญที่ได้มาถ่ายโฆษณา พอดีว่าคุณแม่ของเพื่อนร่วมชั้นเรียนทำงานที่บริษัทโฆษณา แม่เลยแนะนำให้มาถ่ายโฆษณา ตอนนั้นอายุ 17 อยากได้เงินซื้อมอเตอไซต์ แต่ไม่อยากรบกวนเงินครอบครัว เลยตัดสินใจถ่ายโฆษณา ปี 1991 ได้มาเป็นนักแสดงถ่ายละครทีวี และปี 1992 ได้ออกอัลบั้มเพลงชุดแรก "Heartbreaking Night"

ปี 1994 ภาพยนตร์เรื่อง "Chungking Express" (ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจให้โลกตะลึง ซึ่งชั้นก็ดูไม่รู้เรื่องค่ะ) 🤣 ทำให้ทาเคชิเป็นที่รู้จักในฐานะดาราจอเงิน เขารับบทเป็นนักสืบในเรื่องนี้ ภาพยนตร์คลาสสิกเรื่องนี้ได้รับคำชมจากนิตยสาร Time ของอเมริกาว่าเป็น 1 ใน 100 ภาพยนตร์ที่เป็นอมตะที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โลก" กำกับโดย หว่องกาไว นำแสดงโดย เหลียงเฉาเหว่ย, หลินชิงเสีย,หวังเฟย และทาเคชิ คาเนชิโร่

ทาเคชิได้พบกับผู้กำกับหว่องกาไวครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี มีบางคนพยายามพูดกับหว่องกาไวว่า ทาเคชิเป็นคนหัวดื้อและแสดงหนังไม่ได้หรอก แต่หว่องกาไวยังคงเชื่อมั่นในตัวเอง และพูดอย่างไม่ลังเลว่า เขาเป็นผู้ชายที่หล่อ ภาษากายของเขาดีมาก เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ผู้กำกับหว่องกาไวบอกให้ทาเคชิเลิกเป็นนักร้อง ทำไมถึงต้องเลิกร้องเพลง หว่องกาไวบอกว่าโตแล้วควรจะแสดงหนังดีกว่า

ผู้กำกับ Peter Chan (เฉินเข่อซิน) พูดถึงทาเคชิว่า ครั้งแรกที่ผมได้เห็นทาเคชิแสดงเรื่อง “Chungking Express” ผมรู้สึกตื่นเต้นหลังจากได้ดูเรื่องนี้ (ส่วนอิชุ้นคิดว่าดูไม่รู้เรื่อง) 😂 จนถึงทุกวันนี้ ยังคงคิดว่าทาเคชิ ดูดีที่สุดในตอนนั้น นักแสดงนำคนอื่นต่างก็อยู่่ในวัย 30 กันหมดยกเว้นทาเคชิ ดังนั้นผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีภาพยนตร์เรื่องไหนที่จะเหมาะกับเด็กหนุ่มในวัย 20 จนกระทั่งผมทำเรื่อง "Perhaps Love" บทหนังเรื่องนี้เขียนขึ้นมาเพื่อทาเคชิ หลายคนที่ได้เจอทาเคชิครั้งแรกต่างรู้สึกกลัว แต่ถ้าได้รู้จักเขาจริง ๆ ทาเคชิเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ และเป็นคนฉลาดมาก

3.เขาเป็นคนเรียบง่ายขนาดไหน?
ทาเคชิ คาเนชิโร่ เคยกล่าวไว้ว่า “ผมไม่สนใจที่จะบริหารชื่อทาเคชิ คาเนชิโร่ ดังนั้นคุณคงไม่เห็นผมบ่อยนัก คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผมเป็นใคร สิ่งสำคัญคือต้องเห็นบทบาทที่ผมเล่น” สำหรับเขา ต่อหน้าคนอื่นเขาคือทาเคชิ คาเนชิโร่ ในฐานะนักแสดงแถวหน้า และเมื่ออยู่เบื้องหลังคนอื่น เขาเพียงต้องการใช้ชีวิตตามแบบของตัวเอง

ชีวิตส่วนตัวของทาเคชิ คาเนชิโร่ ค่อนข้างน่าเบื่อ และแม้ว่าเขาจะอยู่ในวงการบันเทิงที่มีความหลากหลาย แต่เขาก็ไม่มีเพื่อนมากนัก เมื่อเทียบกับการเข้าสังคม เขาชอบอยู่บ้านเพื่อกินข้าว อ่านหนังสือ ดูหนัง และที่สำคัญที่สุดคือเล่นวิดีโอเกม เขาติดเกมมากถึงขั้นลืมเวลากินเวลานอน

ผู้กำกับปีเตอร์ ชาน เปิดเผยว่าเขาใช้เวลานานมากในการโน้มน้าวทาเคชิ ให้มาถ่ายทำภาพยนตร์กับเขา และครั้งหนึ่งทาเคชิ เคยปฏิเสธคำเชิญไปทานอาหารเย็นเพราะเขามีนัดกับใครบางคนเพื่อเล่นวิดีโอเกม

ครั้งหนึ่งมีคนถามเขาว่าเขาวางแผนจะให้รางวัลตัวเองอย่างไรหลังจากเสร็จสิ้นการโปรโมทภาพยนตร์ ทาเคชิตอบว่า "ไม่ต้องมีใครให้ความสนใจผมเลย นั่นคือรางวัลที่ดีที่สุด"
😳

4.ทาเคชิเป็นคนช่างคุยระหว่างทำงานหรือเปล่า?
โดยปกติแล้วทาเคชิ จะไม่ค่อยช่างพูด แต่เขาจะกลายเป็น "เด็กอยากรู้อยากเห็น" เมื่อเขาเริ่มทำงาน ผู้กำกับปีเตอร์ ชาน เคยให้สัมภาษณ์ว่า "ผมเข้าใจว่าทำไมผู้กำกับหลาย ๆ คนถึงบอกว่าการทำงานร่วมกับทาเคชิไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาเป็นเจ้าแห่งการถามคำถาม" เมื่อปีเตอร์ชานขอให้ทาเคชิ รับบทเป็น หลินเจี้ยนตง ในเรื่อง “Perhaps Love” เพื่อให้ตัวละครดูมีชีวิตชีวา ทาเคชิ ก็ถามว่า “ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้” ในเกือบทุกบรรทัด

นอกจากนี้ ผู้กำกับ จอห์น วู ยังชื่นชมทัศนคติในการทำงานของทาเคชิอีกด้วย ในการถ่ายทำฉากเรืออัปปางในเรื่อง “The Crossing” (หนังที่ให้อารมณ์แบบเรือไททานิค อันนี้เรือสำราญจีนล่ม และตัวละครทาเคชิก็จบลงด้วยความเศร้า) พวกเขาต้องแช่ตัวในสระน้ำขนาดใหญ่ท่ามกลางความหนาวเย็นนานหลายชั่วโมง และทาเคชิก็ลงมือแสดงด้วยตัวเอง ผู้กำกับยังชื่นชมความจริงใจและความหลงใหลของเขาที่มีต่อภาพยนตร์ด้วยว่า "แม้ว่าเขาจะต้องแสดงร่วมกับนักแสดง extra เขาก็จะช่วยให้นักแสดงเหล่านั้นร่วมแสดงไปด้วยกันอย่างดีที่สุด"

5. ทาเคชิเป็นคนประหยัดสุด ๆ มั้ย?
ในฐานะเทพบุตรแห่งเอเชีย ความสามารถในการทำเงินของทาเคชินั้นจัดว่าเป็นกอบเป็นกำมาก แต่ในชีวิตจริง เขาเป็นคนธรรมดามาก เขามีเสื้อผ้าและรองเท้าผ้าใบเพียงไม่กี่ชุด และไม่เรื่องมากเรื่องอาหารการกิน ครั้งหนึ่ง ผู้กำกับปีเตอร์ ชาน เคยเชิญทาเคชิ ไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในญี่ปุ่น หลังรับประทานอาหารเสร็จ ทาเคชิ ก็พูดกับเขาว่า “คราวหน้าผมจะพาคุณไปร้านอาหารอีกแห่ง อาหารก็อร่อยเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่าเยอะ” (ของถูกและดีต้องถามคุงทาเคชิ) 😆

6. นอกจากการแสดงแล้ว คุณยังชอบทำอะไรอีก
ทาเคชิเข้าสู่วงการเพลงในปี 1991 และก้าวจากตำแหน่งผู้ช่วยบันทึกเสียงของเฉินเซิงจนกลายมาเป็นลูกศิษย์ของเขา ทาเคชิค่อยๆ สะสมทักษะการสร้างสรรค์ดนตรีเพิ่มขึ้นมากมาย อัลบั้มแรกของเขา "Heartbreaking Night" (ใครมีเทปอะเนี่ย ทันสมัยที่ซู้ดด) 😂 มีเพลงที่ทาเคชิแต่งเองในอัลบั้มด้วย และอัลบั้มต่อมาก็มีผลงานของเขาเองรวมอยู่ด้วย เพลงที่ทาเคชิแต่งถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มของเฉินเซิงด้วย ปี 1997 อาจารย์เฉินเซิงเห็นทาเคชิกำลังนอนเล่นกีตาร์อยู่บนโซฟา และฮัมทำนองเพลงเป็นภาษาญี่่ปุ่น หลังจากฟังแล้วคิดว่าฟังดูดี ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์เลยได้จุดประกายแต่งเพลงด้วยกัน

ภาพอดีตปี 1993 ทาเคชิ คาเนชิโร่ เพิ่งเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา และได้ฉลองวันเกิดครบ 20 ปีร่วมกับคุณพ่อ ทาเคชิวัยละอ่อนในชุดยูกาตะ หล่อวัวตายความล้มแล้วคู้นนน เขาเป็นหนุ่มเอเชียที่น่ารักและหล่อมาก ราวกับว่าเขาเดินออกมาจากหนังสือการ์ตูน

เมื่อทาเคชิก้าวเข้าไปสู่โลกภาพยนตร์ เรียกได้ว่ากลายเป็นหนึ่งในดารานำชายที่ร้อนแรงที่สุดคนหนึ่งของเอเชียในเวลานั้น วงการฮอลลีวู้ด และวงการภาพยนตร์ฝั่งยุโรปมารุมจีบทาเคชิไปเล่นหนังด้วยมากมาย ดารารุ่นใหญ่ ๆ ต่างอยากร่วมงานกับเขา เสนอบทหนังมาเชิญชวนทาเคชิไปร่วมงานด้วย ซึ่งภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับทาเคชิเลย เพราะเจ้าตัวพูดได้หลายภาษาอยู่แล้ว หนึ่งในนั้นมีภาพยนตร์เรื่อง The Last Samuri ของทอม ครูซ รวมอยู่ด้วย แต่ทาเคชิปฏิเสธ เพราะบทที่ฝั่งฮอลลี่วู้ดมักจะให้นักแสดงชาวเอเชียแสดง มักจะเป็นตัวร้ายหรือเป็นตัวละครที่มาแนวนักสู้กังฟู ในสายตาของชาวตะวันตกมองเพียงว่าชาวตะวันออกหน้าตาเหมือนกันหมด (เพราะฉะนั้นจะไม่เสียเวลาเดินทางไปอเมริกา เพราะไม่ว่าง จะกลับบ้านไปเล่นวีดีโอเกม เข้าใจด้วยนะทู้กคน) 🤣

CR: เรียบเรียงบทความจาก https://www.msn.com/zh-cn/news

สืบคดีกันแบบจุก ๆ แขวนรอไว้เลยจ้า <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> เมื่อก้าวเข้าสู่เกมส์แห่งความท้าทายตั้งแต่ภาคแรก มาสู่วังวนสืบคดีภาค 2 ไปเที่ยวแถบตะวันตก และถลำถลึกจนมาถึงภาค3 The Strange Tales of Tang Dynasty III มุ่งหน้าสู่ฉางอัน (ปริศนาลับราชวงศ์ถังเส้นทางสู่ฉางอาน)

เสริมสร้างบรรยากาศด้วยการเปิดกล้องซีซั่น 3 กันก่อน เปิดที่เหิงเตี้ยนประมาณ ต.ค. 2024 ภาพมารัว ๆ (ถ้าเคยอัพไว้ ก็จำไม่ได้ ทำการบ้านรอบสองเลยละกาน) ทีมงานคุณภาพกับการไขคดีประหลาดแห่งราชวงศ์ถัง พวกเรา 5 คน จะไม่พรากจากกัน 😂 หยางสวี่เหวิน หยางจื้อกัง กัวซีเหวิน ซุนเสวียะหนิง และ เฉินช่วง ขาดใครคนใดคนหนึ่ง เราจะไปต่อไม่ด้ายยย... ขาดใจถ้าไม่มีเธอ 🤣

ภาค 3 มีตัวละครใหม่มาเพิ่มด้วย สาวสวยชื่อ สวี่เจียฉี มาร่วมงานในภาค 3 นางจะมาดี หรือนางจะมาร้าย ต้องคอยดูภาค 3 เท่านั้น (ปล.ภาพนางแต่งชุดโบราณ ไม่ใช่ตัวละครของเรื่องนี้ ให้เห็นหน้าตาสวย ๆ ของนาง)

ตัวละครหลักทั้ง 5 คน จะมามอบอุ่นไอรักพิศวงให้กับทุกคนเหมือนเดิม (เพิ่มเติมคืออายุ) ครั้งนี้จะมาผจญภัยกับเรื่องพิศวงที่เมืองฉางอัน เมืองที่เจริญรุ่งเรืองและสวยงามในยุคราชวงศ์ถัง นอกจากสืบคดีแปลก ๆ แล้ว เรื่องการแย่งชิงอำนาจก็มีให้ลุ้น ยาพิษต้องเข้าแล้วมั้ย 😅

เปิดตัวโปสเตอร์แรก (ไม่แน่ใจเปิดไว้ก่อน) แจกอุปกรณ์การเรียนก่อน "พู่กัน" เอาไว้เขียนไม่น่าจะมีอะไรไปมากกว่านั้น แต่นี่จะให้เป็นพู่กันธรรมดาได้ยังไง เพราะพู่กันเพียงอันเดียว สามารถบรรยายความแปลกประหลาดทั้งหมดในโลกนี้ได้ แค่พู่กันกับหมึกก็เป็นเรื่องเนอะ 😂

หลังจากลัดเลาะกองถ่าย ปริศนาลับราชวงศ์ถังภาค 3 เส้นทางสู่ฉางอัน ที่โรงถ่ายเหิงเตี้ยน แม่ส่งทีมนักข่าวไปสืบมาค่ะ แม่ได้ล้วงข้อมูลในหลาย ๆ ด้านมาฝากกัน พบว่าทีมงานยังแข็งแกร่ง ฝ่ายผลิตและฝ่ายเขียนบท (ฝ่ายนี้เราว่าสำคัญที่สุด) เปิดเผยว่า ในภาค 3 นี้ ผู้ชมยังได้พบกับความตื่นเต้น แปลกใหม่ และความซับซ้อนของคดี การไล่ล่าหาความจริง เจอกับความพลิกผันหลายครั้ง (งานเข้าแล้วพวกเรา นั่งเดาฆาตกร)🤣 หยางจื้อกัง ผู้รับบท ซูอู๋หมิง ลูกศิษย์เอกของท่านตี๋เหรินเจี๋ย เปิดเผยว่า ในภาค 3 จะมีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงมากกว่าสองภาคแรก ตัวละคร ซูอู๋หมิง มีความสุขุม และมีสติในการไขคดีมากขึ้น ดูเหมือนว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่สุดท้ายควบคุมไม่ได้ และตัวละครมักจะอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ผู้ชมยากที่จะเดาตอนจบได้

หยางจื้อกัง กล่าวว่า ในละครมีปีศาจ และสัตว์ประหลาดหลายชนิด ล้วนดูน่ากลัว แต่ความจริงไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวไปกว่าจิตใจของมนุษย์ ใจของคนเปลี่ยนแปลงได้ และธรรมชาติของคนก็ซับซ้อน แต่ค่านิยมของละครต้องเชิดชูการทำความดี และลงโทษคนที่ทำความชั่ว ส่วนตัวผมเองกับบทบาท ซูอู๋หมิง เป็นบทที่รอคอยมานานหลายสิบปี เหมือนได้รับพรที่พระเจ้าประทานให้ (พี่แกไม่นึกไม่ฝันว่าบทนี้จะหล่นใส่หัว เปรียบเสมือนพรอันมั่งคั่ง) แสดงมาตั้งแต่ภาคแรก จนตอนนี้สร้างถึงภาค 3 อายุเกือบจะห้าสิบ นับว่าการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไม่ได้เปล่าประโยชน์แล้วจริง ๆ

คุณลุง เฉินช่วง หนึ่งในทีมนักแสดงนำ 5 คน กล่าวในมุมมองของตัวเองว่า ตัวละครและภาพลักษณ์ของตัวละครในภาค 3 ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก เพราะถ้านักแสดงเล่นจนโอเว่อร์เกินไป คนดูอาจรู้สึกว่ายอมรับไมได้ ดังนั้นทีมนักสืบ 5 คน ที่จะได้เห็นในภาค 3 พวกเรายังคงคุ้นเคยกับตัวละคร ซูอู๋หมิง ยังเป็นลูกศิษย์ของตี๋เหรินเจี๋ย ที่ฉลาด จริงใจ และจิตใจดี มีความใส่ใจในสถานการณ์โดยรวม และไม่วุ่นวายเมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย (ตกลงว่าไม่ได้ส่งแกไปฝึกวิทยายุทธก็เท่านั้นเอง) 😆 ตัวละคร หลูหลิงเฟิง ยึดมั่นในคุณธรรม กล้าหาญ น่าเกรงขาม กล้าที่จะลงมือทำ ตัวละคร เผยสวี่จวิน เป็นคุณหนูแข็งแกร่งและอ่อนโยน ฉลาด กล้าที่จะรักกล้าที่จะเกลียด ตัวละคร เฝ่ยจี เป็นหมอรอบรู้ที่ชอบดื่มสุรา และชอบกินไก่ ช่วยชีวิตคน ตัวละคร อิงเถา เป็นจอมยุทธหญิงที่กล้าหาญ มีความโหด และไม่พูดมาก

ความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละคร ซูอู๋หมิง และ หลูหลิงเฟิง ยังคงดำเนินต่อไป (บางวันก็ง้อ บางวันก็งอน) 🤣 ความเห็นของ หยางสวี่เหวิน "ความขัดแย้งของสองตัวละคร ถือว่าสำคัญ เพราะถ้าไม่ขัดแย้ง มีแต่ราบรื่น ซี่รี่ส์ทั้งเรื่องก็เหมือนกับการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด พอตายแล้วก็จบ ๆ กันไป แต่สองคนต้องมีการทะเลาะถกเถียงเพราะความเห็นต่างมันทำให้เรื่องมีสีสัน" ความเห็นของ หยางจื้อกัง "ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดจากความแตกต่างทางชนชั้น การเปิดตัวครั้งแรกของ ซูอู๋หมิง เป็นนายอำเภอของเมืองฉางอัน ส่วน หลูหลิงเฟิง เป็นแม่ทัพนายพล และต่อมามีการเปิดเผยความจริงว่าเขายังเป็นองค์ชาย เพราะเป็นลูกชายขององค์หญิง ช่องว่างระหว่างตัวละครทั้งสองทำให้เกิดความขัดแย้งในความคิดและบุคลิกภาพ ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะพัฒนาไปอย่างไร (ไม่ต้องคิดเยอะ)😂 ให้ติดตามในซีซั่นที่ 3

มาฟังทีม Art director เขาเล่าว่า งานศิลปะของซีซั่นที่ 2 เมื่อเดินทางไปตะวันตกจะให้ความรู้สึกเหมือนได้ท่องเที่ยวตลอดทาง สำหรับซีซั่นที่ 3 มุ่งหน้าสู่เมืองฉางอัน เมืองนี้เสมือนจิตวิญญาณของต้าถัง งานศิลปะที่ออกแบบจะนำเสนอถึงความเจริญรุ่งเรืองในยุคราชวงศ์ถัง ในส่วนของการใช้โทนสีของสถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตในตลาด จะใช้สีสันที่สดใสกว่า 2 ภาคแรก อาคารบ้านเรือนจะโออ่าสง่างาม การตกแต่งทิวทัศน์จะใช้วัสดุให้ใกล้เคียงกับของจริงให้มากที่สุด

ทีมเสื้อผ้าหน้าผม กล่าวว่า โทนสีของเสื้อผ้าหน้าผมยังรักษาไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่จะอัพเกรดขึ้นเล็กน้อย เพิ่มจำนวนชุดของนักแสดง สีเสื้อผ้าของซุนเสวียะหนิงจะปรับสีให้เป็นบานเย็น (แต่แม่จะเย็นไม่ไหวนี่สิ) 😂 นักแสดงสาว กัวซีเหวิน ที่รับบท เผยสวี่จวิน บอกว่าในซีซั่น 3 ฉันจะกลับไปบ้านเกิดที่เมืองฉางอันในฐานะบุตรสาวของเสนาบดีใหญ่ เพราะฉะนั้น คุณหนูเผยสวี่จวินจะต้องมีภาพลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น ดังนั้นทีมเสื้อผ้าจึงเพิ่มชุดคุณหนูให้กับตัวละคร (เป็นลูกคุณหนูต้องสวยงามตามคดีความค่ะ)🤣

ทีมบู๊มาหรือยังคร๊า ? กำลังละลิ่วลอยลมจากบนหลังคามาโน่นนน........🤣 คนดูรอชมฉากต่อสู้บู๊เดือดเลือดพลุ่งพล่าน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หลูหลิงเฟิง (แอบ ๆ มององค์ชายอย่าให้เขารู้ตัว) 😆 พระเอกนักสืบฝ่ายบู๊ของเรารับบทหนักอีกเช่นเคย หนักชุดเกราะที่ต้องใส่มากกว่า 30 ปอนด์ พร้อมอาวุธที่หนักไม่แพ้ชุด (เขามีสลับของจริงกับของปลอมใช้ในฉากอะนะ ถ้าซูมขอจริง ถ้าเบลอ ๆ แกรจะปลอมเรื่องของแกรเหอะ) 🤣 พระเอกเปิดเผยว่าถ่ายฉากแอ็คชั่นฉากนี้อย่างเดียว ใช้เวลาถ่าย 13 วัน ทีมผลิตใช้กล้องคุณภาพสูงที่สามารถจับภาพเคลื่อนไหวแบบ 360 องศา มองเห็นทุกมุมอย่างชัดเจน (ที่ผ่านมา ไม่เคยกระพริบตาเวลาดูฉากบู๊ พอดีพ่อตวัดดาบไวกว่าแสง เพราะงั้นอิชุ้นดูไม่ทัน) 😂

ไม่ต้องบรรยายกันละ พระเอกต้องผ่านการฝึกหนักมาขนาดไหนกับการแสดงซีรี่ส์แต่ละเรื่อง เหนื่อยแทบขาดใจ หนูอยากกลับบ้าน 🤣

แซ่บเบา ๆ กับบรรยากาศขึ้นคาน เหอ ๆ บรรยากาศที่เมืองคานส์ ฝรั่งเศส เทศกาลหนังนานาชาติที่ฟาดฟันประชันพรมแดงในทุก ๆ ปี จนลืมไปว่านี่งานประกวดหนังค่ะ ไม่ใช่ประกวดเนื้อหนังมังสาค่าคุณเลดี้เซเลบทั้งหลาย 😆 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 78 ที่อิชุ้นไม่ได้ไปเดินพรมแดง ก็ไม่ได้ไปยุ่งกับพรมเค้าหรอกค่ะ ยุ่งกับพรมเช็ดเท้าที่บ้านก็พอแล้ว 😆 มาแซ่บกับเรื่องแรก หนังฮ่องกงจากฝีมือผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นใหม่ แต่เราก็เห็นเขามานานละ ชื่อ Juno Mak ม่ายจุนหลง เรื่อง Sons of the Neon Night (ใครกันน้าเป็นเทพบุตรไฟนีออน จ่ายค่าไฟครบแน่นวน) 😂 ดารานำในเรื่องนี่อย่างตัวพ่อกันมาเล้ย กู่เทียนเล่อ ทาเคชิ คาเนชิโร่ (จินเฉิงอู่) เหลียงเจียฮุย ส่วนนำฝ่ายหญิงคือ เกาหยวนหยวน ภาพยนตร์ได้สบเนตรสะดุดตากรรมการเมืองคานส์ ได้รับเกียรติให้ฉายตอนเที่ยงคืน (ตื่นมาดูหนังกันเถิดชาวโลก) อวยยศว่าเป็นภาพยนตร์ Midnight Screening Unit แห่งคานส์ในปี 2025

พี่หลุยส์กู่บอกว่าดีใจและตื่นเต้นที่ภาพยนตร์ได้เข้ารอบสุดท้ายของเทศกาลหนังเมืองคานส์ (เป็นอันว่าบอสกู่ยังไม่ได้ผ่าตัดตาชิมิ เพ่กู่ได้มาเดินโลด ณ พรมแดงกันอีกครั้ง) เพ่กู่ชมผู้กำกับ Juno ว่าเป็นคนที่อดทนมาก ตัวละครของผมต้องอยู่บ้านคนเดียวกับแมว (ได้ข่าวว่าบทพี่กู่คือแซ่บค่ะ อาชีพฆาตกร) ผู้กำกับให้ผมเลี้ยงแมวเอง เลี้ยงจนรู้สึกรักเขาครับ เขาเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักมาก (แมวที่ว่าก็ไม่ได้เห็น) ส่วนเฮียเหลียงเจียฮุย แกไม่ได้ตั้งใจมาแดนซ์ แค่อยากออกกำลังกายบนพรมแดงเฉย ๆ 😂 บทที่ได้รับนับว่ายาก ในอดีตการเล่นเป็นเพียงการแสดง แต่เรื่องนี้การแสดงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้เข้าใจตัวเองและทุกสิ่งที่ต้องเผชิญดีขึ้น ส่วนพ่อคุณทาเคชิ ไม่ได้มาแชร์ประสบการณ์ตัวละครให้พวกเราฟัง เพราะไม่ได้มาร่วมงาน งือ ๆ Sadly ไปติดไฟแดงแยกไหนอยู่เนี่ย ถึงไม่ได้มา เอาเป็นว่ากลับไปดูโฆษณาแทนแล้วกัน

CR: https://www.worldjournal.com/wj/amp/story/121233/8747638
ชมบรรยากาศกลางคืนมามากไปแล้ว มาชมบรรยากาศกลางวันมาน้อยแต่มาก ฮ่าาา...นี่ตรูจะรายงานอัลไร ปาร์ตี้โฟโต้ ถ่ายรูปรัว ๆ สู้แฟลชรัว ๆ ตามประเพณีศรีเมืองคานส์ ภาพยนตร์มาคู่กับบทวิจารณ์จากเว็บไซต์สกรีนเดลี่ คอมเม้นท์ว่าจังหวะของเรื่องไม่มีความต่อเนื่อง รูปแบบการเล่าเรื่องอยู่ระหว่างความลึกลับและน่าสับสน ทำให้ยากต่อการเข้าใจ (สรุปได้ว่าดูไม่รู้เรื่องแบบหนุก ๆ จ้า) 😂 สำหรับฉากเด่น ๆ ที่น่าจดจำมี 3 ฉาก อันแรกเป็นฉากที่ทาเคชิ คาเนชิโร่ ปรากฎตัวตอนนอนหลับในอุโมงค์ ฉากที่สองคือคอสเวย์เบย์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และฉากที่สามคือฉากงานศพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังทางศิลปะของภาพยนตร์ (เน้นศิลป์ค่ะ ไม่เน้นเรื่อง เพราะดูแล้วไม่รู้เรื่อง ปิดไฟดูป่าว) 🤣😎

นางเอก เกาหยวนหยวน โพสต์เริ่ด ๆ เอวเอสกับชุดราตรีทรงหางปลา...ปลาทู เออไม่ใช่ เป็นชุดโอกูตูร์คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ของ Georges Hobeika และสร้อยคอแซฟไฟร์ของ Chaumet ทุกองค์ประกอบคือดีย์งามมาก นางสวย นางบอกว่าบทบาทที่แสดงในเรื่องนี้ เป็นบทที่ห่างไกลจากตัวเองมาก มันช่างซับซ้อน แต่ทรงพลัง ฉันได้ดูหนังแล้วรู้สึกแปลก ๆ แต่นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการเพราะได้เห็นตัวเองในเวอร์ชั่นใหม่ ขอบคุณผู้กำกับที่ช่วยให้ทำหน้าที่ได้สำเร็จ

รูปนี้ได้แขวนไว้ที่ฝาบ้านใครแล้วหรือยัง? ถามเองตอบเองว่ายัง (ถ้าเอามาแขวนได้ ตำรวจน่าจะมาตาม) 🤣 เพราะก่อนหน้าที่ภาพยนตร์จะได้คัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายของเทศกาลหนังเมืองคานส์แล้วไปฉายโชว์ชาวโลกตอนเที่ยงคืน บริษัทได้จัดนิทรรศการสุดพิเศษโชว์ความอาร์ตตัวพ่อ คนเล่นก็อาร์ต คนกำกับก็อาร์ต ชื่อนิทรรศการ Sons of the Neon Night Exhibiton จัดเมื่อเดือน เม.ย. 2025 แล้วทีมก็พากันไปเมืองคานส์ พ.ค. นั่นแล เรื่องนี้มีความแหวกแนวไม่เหมือนใคร เพราะนอกจากสร้างไปนานแล้ว ก็ไม่ได้ออกฉาย (แหวกแนวคือเก็บไว้ให้ฝุ่นขึ้นก็ดี) 🤣 แหวกอีกอย่างคือโลกแห่งภาพยนตร์ตีคู่มากับโลกแห่งศิลปะ เราไปด้วยกันได้ม๊ายย ได๋ค้าบ ภาพที่เป็นปูนปั้นคาแรกเตอร์ของตัวละครหลักทั้ง 5 คน ได้ช่างปั้นผู้ซึ่งเป็นประติมากรชาวสเปนชื่อว่า Eudald de Juana Gorriz (รบกวนอ่านให้เป็นสเปน) 😆

เมืองคานส์ยังไม่จบจ้า มาแซ่บมาสวยกันต่อกับสามเซเลบไทยแลนด์ สาวตรงกลางคือขุ่นแม่ชมพู่ อารยา เจ้าแม่พรมแดงประจำเมืองคานส์ที่ไปในฐานะพรีเซนเตอร์ของแบรนด์รอลีอัล ปีนี้เพิ่มมาอีกสอง ณิชา กับ เบ็คกี้ เลือกส่องความสวยตามใจชอบใจชม

สะดุดตาซิสคนนี้ค่า คือยังสืบไม่ได้ว่ามาพรมแดงได้ไง แต่ชุดซิสก็เรียบหรูวิบวับจับหางปลาได้สวยงาม โดยที่ไม่โดนออกข่าวว่าโดนเชิญออกอะนะ และลุคพรมแดงปล่อยผมระดับจักรวาลกับชุดราตรีสีม่วงของ Tony Ward SS24 ใครจะเชิญซิสออกจากพรมได้ลงคอ เพราะซิสเป็นฮูหยินเอกแห่ง The Glory ชื่อไทยเป็นนิยาย "สตรีเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง" เป็นซีรี่ส์มาแรงแบบเงียบ ๆ ต้นปี 2025 แนวดราม่ามหากาพย์การล้างแค้นที่น่าติดตามได้จนจบ บทไม่พังเท่าไหร่ ดูจบไปแล้วพักใหญ่ ลืมบอกชื่อจริงของซิส เวินเจิ้งหรง ได้ฝากฝีมือการแสดงในเรื่อง The Glory (สตรีเช่นข้าหาได้ยากยิ่ง) เอาไว้ได้อย่างอะเมซซิ่งมาก ๆ เป็นตัวละครที่มีทั้งความอ่อนโยนและแข็งแกร่ง เวลาซิสใจดีมีเมตตา ลูกสาวของซิสจะอบอุ่นใจอย่างที่สุดที่ได้เจอแม่ แต่เวลาซิสโกรธขึ้นมา มันคือภูเขาไฟระเบิดดี ๆ ทั้งลูกสาว ทั้งคนรับใช้ ทั้งสามี ทั้งเมียน้อย เข้าหน้าไม่ติด สู้ความเกรี้ยวกราดของฮูหยินบ่ไหวค่า 😂

เล่าตัวละครฮูหยินเอก หรือเมียหลวงไปแล้ว อดไม่ได้จริง ๆ สามี กับ ลูกสาว ขอตามมาด้วย ถ้าไม่สรรเสริญความชั่วตัวละครพ่อเห็นทีจะผิด ร้ายตัวพ่อที่แท้ทรูอยู่นี่แล้ว ผู้นำสกุลจวง (พ่อนางเอก) ขึ้นชื่อว่าเป็นบัณฑิตใหญ่ รับราชการในวังแต่มิใช่ตำแหน่งใหญ่โต พ่อผู้มีจิตใจบิดเบี้ยวคดเคี้ยวเลี้ยวลดยิ่งกว่าเถาวัลย์พิษพันปี จะเอาพ่อเปรียบกับอะไรถึงจะสาสม 😂 ฉากหน้าเป็นพ่อผู้แสนดีสุดบรรเจิด พูดจาอ่อนน้อม ประนีประนอม ฉากหลังแฝงไว้ด้วยความโหดจิตผิดมนุษย์ รับใช้ขุนนางกังฉินเบียดเบียนชาวบ้าน ไม่เคยรักใครแท้จริงนอกจากตัวเองเท่านั้น เป็นพ่อผู้สร้างวีรกรรมอันแสนชั่วร้าย ชูป้ายไฟให้ท่านพ่อค่ะ 🤣

คุณหนูสามสกุลจวง (เฉินตูหลิง) ชื่อ จวงหานเยี่ยน เป็นลูกสาวของฮูหยินเอกที่กล่าวมาแต่แรก คุณหนูสามผู้มีฉายา ผีเท้าแดง (ฟังดูแสลงใจ) ชีวิตไม่ได้สุขสบาย เพราะตั้งแต่เกิดถูกส่งไปอยู่ชนบท อยู่กับสามีภรรยาสารเลว ฝีมือใคร? พ่อบังเกิดเกล้าผู้แสนดีส่งไปค่ะ พ่อเป็นฆาตรกรฆ่าปู่ตาย (พ่อตัวเอง) โยนความผิดไปให้ลูกสาวที่เกิดจากเมียเอก พอเกิดมาก็ทำให้ท่านปู่ตาย ใส่ร้ายใส่ความว่าเป็นผีเท้าแดง (กาลกิณีว่างั้น) พรากลูกพรากแม่กันไปนับแต่นั้น ฮูหยินเอกอยู่เหมือนตายทั้งเป็น ใช้ชีวิตบนรถเข็น อิพ่อไม่ได้ใส่ใจ เพราะมีเมียน้อยคอยเอาใจอยู่แล้ว เมื่อคุณหนูสามเติบโต นางกลับมาสกุลจวงเพื่อทวงความยุติธรรม ทวงศักดิ์ศรี ทวงทุกสิ่งอย่างคืน พ่อแท้ ๆ กับ คุณหนูสามสกุลจวง เปิดฉากห้ำหั่นเฉือดเฉือนกันสุดฤทธิ์ ใครจะว่านางอกกตัญญู นางโนสนโนแคร์ เพราะตัวละครเป็นนางเอกสู้คนและมีสติปัญญา ถูกจริตอิชุ้นมากค่า

นางเอก Tiffany ถังเยียน (เป็นฉูฉู่ ในหนังฟงอวิ๋นฯ ภาค 2) ปีนี้ก็พาเอวบางร่างน้อยมาเดินพรมแดงอีก ชมแอ่นช้อปกับนางได้บนพรมแดงและงานปาร์ตี้ที่คานส์

ออร่าสาดแสงมาแต่ไกล สวยผุดผ่องสง่างามในชุดสีขาว นางเอกสาว โจวเย่ (ผลงานนักรบพเนจรสุดของฟ้า,ขจรรักนิรันดร์กาล และที่ยังไม่ฉาย Legend of the Female General) โจวเย่ที่เมืองคานส์รอบ premiere of "Nouvelle Vague" มากับชุดราตรีสีขาวของ Alexis Mabile 2025 เครื่องประดับ Tasaki Nouvelle Ere นางน่าจะเป็นราชินีลอรีอัลฝั่งจีน

พระเอกคนนี้มาแกรนด์โอเพนนิ่งพิธีเปิดเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 78 เจ้าชายแบรนด์ลอรีอัลฝั่งจีน กงจวิ้น โบกมือให้ผู้คน โพสต์หล่อสู้กล้องเมืองคานส์กันอีกครั้ง ชุดที่ใส่มานี่ก็บรรจงตัดเย็บเนรมิตมาเพื่อคุณกงจวิ้นโดยเฉพาะ เป็นชุดของดีไซเนอร์ Stefano Pilati เครื่องประดับ Messika ดีไซเนอร์ที่อออกแบบชุดให้กงจวิ้นใส่เดินพรมแดง กล่าวว่า "ฉันได้รับแรงบันดาลใจจากภาพของผู้คนในประวัติศาสตร์เมืองคานส์ที่สวมเสื้อผ้าเป็นทางการแต่มีสไตล์ที่โดดเด่นและบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกเขา ไม่เพียงแต่ปฏิบัติตามมารยาทเท่านั้น แต่ยังทำลายกิจวัตรปะจำวัน และแสดงเสน่ห์ส่วนตัวที่ไม่ธรรมดา สไตล์ที่หลากหลายของกงจวิ้น ทำให้เขาเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตีความแนวคิดการสร้างแบบจำลองของฉัน
CR: @Neupil0428

ออกจากโลกแห่งคานส์ มาปรับอารมณ์สู่โลกแห่งซีรี่ส์เรื่องล่าสุดของ กงจวิ้น The Dark of River รับบท ซูมู่อวี่ นักฆ่าร่มสังหารแห่งนทีนิลกาฬ คุณจวิ้นคนเดียวเปลี่ยนคอสตูมไม่หวาดไม่ไหว หล่อไม่ไหว ฉายเมื่อไหร่ ปังแน่ อิชุ้นคิดเผื่อล่วงหน้า 😆

นางเอกสวยไม่บันยะบันยัง แคสติ้งนักแสดงได้สวยงาม หวังฉู่หรัน หลี่หงอี้ และ เหยียนอัน และบทฮ่องเต้เป็น สวีเจิ้งซี อุต๊ะบร๊ะเจ้า ดีงามไปไหน พอเห็นชื่อ ผกก. อิหยังฮ่วย !! กลัว ! กลัวเหมือนชื่อ กัวจิ้งหมิง 😂 แคสติ้งน้านจัดว่าดี แต่ถ้าบทพัง ไปไม่รอด ชั้นคงต้องให้อภัยใช่มั้ย หมดกะลามังใจไปนิดนุง แต่ถ้าสนุกกว่าที่คิด จะมาบอกเล่ากันอีกที คลอดมาแค่โปดสะเต้อก่อน เรื่อง Hidden Shadow ชื่อไทยยังไม่เป็นทางการ ให้ชื่อตามเค้าไปว่า "เล่ห์ลับสองเงา" เส้นเรื่องความเด่นอยู่ที่ตัวนางเอก ได้สาวสวย หวังฉู่หรัน มารับบทสองตัวละคร หนึ่งร่างสองวิญญาณ ร่างแรกเป็นจอมยุทธหญิงสายลับแห่งราชวงศ์ชื่อ อันจิ่ว บุคลิกเย็นชาและแข็งแกร่ง ก่อนมาเป็นสายลับ ชีวิตนางผ่านอะไรมา และเกิดเรื่องร้ายอะไรกับชีวิตนาง ร่างสองเป็นแนวสาวคุณหนูอ่อนหวาน ชื่อ เหมยจิ่ว บุคลิกอ่อนโยนและเปราะบาง อาจารย์ผู้สอนวรยุทธให้กับสาวสายลับคือพระเอก เขาคือผู้รู้ความเป็นมาของอันจิ่ว อาจารย์กับลูกศิษย์จะรักกันกี่โมง จะรอดูนะคร้าบ นี่เป็นครั้งแรกที่อิชุ้นจะเข้าไปส่่องฝีมือของพระเอกหน้าตี๋ หลี่หงอี้ ตัดจบดื้อ ๆ รอส่องก่อน ตอนนี้เข้าคิวฉายถึงไหน ปากซอยใหญ่ยัง 😁

หวังฉู่หรัน คนสวย ขายาว หุ่นนางแบบ เบ้าหน้าฟ้าประทาน อยากรู้ว่าคนสวยกินอะไรรือคะ แอบไปส่องมา ก็หนูสูงมากับข้าวไข่เจียว เหยาะซอสอีกนิดเดียว สวยเริ่ดแบบนี้ค่า😆

นาทีนี้ฝั่งฮ่องกงต้องยกนิ้วให้ผู้ชายคนนี้ คุณเรย์ฟง Raymond Lam หลินฟง ร้องเพลง 7 วัน 7 คืน 7 รอบ กับงานคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบหลายปีที่แฟนคลับต่างรอคอย เรียกว่าน้อยนักที่จะมีสกิลสามารถหลายอย่างพร้อมสรรพในคน ๆ เดียว ร้องเล่นเต้นพิธีกรแถมเป็นคุณพ่อด้วย (อวยหลายอย่าง) 😄 คอนเสิร์ตที่ชื่อว่า Glow with the Flow 2025 เพื่อนพ้องพี่น้องเพื่อนฝูงเมียและลูก มาชมมาให้กำลังใจกันอย่างมากมาย รอบสุดท้ายขอเปิดตัวบอสกัปตันฮ่องกงรับจบ เฮีย Louis Koo กู่เทียนเล่อ (เมื่อกี้เพ่กู่ยังอยู่เมืองคานส์) เพ่กู่ทอร์นาโดแอบมีความมาร์เวล รับงานฟินาเล่ตลอดนะค่ะเพ่กู่ 😂 Opening ด้วยเพลงธีมที่คุ้นหู กรี๊ดสนั่นลั่นโรง เพลงเรื่อง "เจาะเวลาหาจิ๋นซี" รอบนี้คู่ดูโอ้ ลูกศิษย์จ้าวผาน หรือ อิ๋งเจิ้ง กับ อาจารย์เซี่ยงเส้าหลง พร้อมใจประสานเสียงมอบความบันเทิง จบแล้วชมหนังสั้นกันด้วยฮะ หลินฟง=อิ๋งเจิ้ง กู่เทียนเล่อ=เซี่ยงเส้าหลง

เซี่ยงเส้าหลง : ถวายบังคมฝ่าบาท ทรงพระเจริญหมื่น ๆ ปี ขออภัยที่หม่อมฉันมาสาย เพราะว่านั่งเครื่องย้อนเวลาไปปี 2015 ในที่สุดได้กลับมาหาฝ่าบาท โอ้ก็อช ! ทำไมฝ่าบาทถึงเปลี่ยนไป๋มากขนาดนี้

อิ๋งเจิ้ง : ข้าโกนหนวด และทำตัวกลมกลืนกับยุคสมัยแล้วท่านอาจารย์เซี่ยง

เซี่ยงเส้าหลง : ทำไมผมของฝ่าบาทถึงได้เป็นสีอย่างนั้นล่ะ ?

อิ๋งเจิ้ง : สีผมมันเป็นเทรนด์ ข้าเปลี่ยนชื่อแล้ว ไม่ได้ชื่อ อิ๋งเจิ้ง แต่ชื่อ Raymond Lam

เซี่ยงเส้าหลง : โชคดีที่ไม่ได้ชื่อ.... (มุกอัลไล หัวเราะกันทั้งโรง) 🤣

นอกจากเป็นงานคอนเสิร์ตแล้ว ยังเป็นงานแถลงข่าวหนังไปด้วยอีก อิ๋งเจิ้ง กับ อาจารย์เซี่ยงเส้าหลง หนุ่มลงไปอีกกี่ปี 😆 ประกาศบนเวทีว่าหนังเรื่อง Back To the Past เจาะเวลาหาจิ๋นซีเวอร์ชั่นภาพยนตร์จะออกฉายต้นปีหน้า 2026 ช่วงตรุษจีน (อย่าได้หลอกอย่าให้รอกันถึงอายุ 60) 🤣 หลังประกาศ เสียงทั้งโรงฮือฮากันอีกครั้ง ทุกคนพร้อมกันหรือยังที่จะย้อนเวลากลับไปยุคราชวงศ์ฉิน การต่อสู้ระหว่างเซี่ยงเส้าหลงกับจักรพรรดิจิ๋นซีเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง คราวนี้จะมีตัววายร้ายคนไหนที่จะเข้ามาเป็นตัวแปร ไม่ได้คิดว่าหนังจะต้องออกมาดีเริ่ดอะไรเลย น่าจะเป็นอารมณ์คิดถึงละครที่เป็นตำนานแห่งยุค 2000 ของทีวีบีฮ่องกงที่สร้างไว้ได้เปรี้ยงมาก ๆ ภาพยนตร์พร้อมที่จะดึงความทรงจำของทุกคนออกมา คงจำตอนจบกันได้ว่าเซี่ยงเส้าหลงไม่ได้กลับไปยุคปัจจุบัน อยู่สร้างครอบครัวกับภรรยา 2 คน และมีลูกชาย 1 คน ส่วนจิ๋นซียอมไว้ชีวิตเซี่ยงเส้าหลง และกลับไปทำหน้าที่ครองราชบัลลังก์เป็นจิ๋นซีฮ่องเต้ และการกลับมาอีกครั้งในแบบภาพยนตร์จะต่อยอดเนื้อเรื่องออกไปอย่างไร เซี่ยงเส้าหลงจะกลับไปยุคปัจจุบันได้ไหม เพราะชีวิตครอบครัวจะไม่ปลอดภัยจากการคุกคามของจิ๋นซี

Create Date : 08 มิถุนายน 2568

0 comments

Last Update : 8 มิถุนายน 2568 11:23:47 น.

Counter : 288 Pageviews.

(โหวต blog นี้)

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณAnanya Amy_1994, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณดอยสะเก็ด