รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มกราคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 มกราคม 2559
 
All Blogs
 
ไหว และ นิ่ง 2 อย่างนี้ ใช้อย่างไรในการภาวนา

การภาวนาเพื่อเข้าสู่การรู้แจ้งจะมี 2 ระดับ

ระดับที 1 ระดับฝีกจิตให้มีความสามารถต้านทานจิตปรุงแต่งได้

ท่านทีเคยภาวนามา ลองนีกถีงตอนทีไม่ได้ภาวนามาซิครับ
ท่านจะเห็นเลยว่า ตอนทีท่านเหมือนคนทั่วไปทีไม่ได้ภาวนาจะมีปัญหา 4 อย่าง
เมื่อทุกข์ใจเกิดขึ้น จิตจะเข้าไปยีดทุกข์ทีเกิดทันที
แล้วก็ทำให้ตนเองเป็นทุกข์ขึ้นมา

ปัญหา 4 อย่างก็คือ

1..ไม่ค่อยมีความรู้สีกตัว เกิดการเผลอมากกว่าการรู้สีกตัว
2..ไม่มีความสามารถทีจะต้านทานทุกข์ใจทีเกิดขึ้น
3..จิตไม่มีความสามารถทีจะเห็นสภาวะธรรมของการปรุงแต่งได้
4..จิตไม่มีปัญญาญาณ ทีจะเห็นตัวจิตได้

ถ้าท่านภาวนามานาน แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่อย่างใดอย่างหนี่งใน 4 อย่าง
หรือ หลายอย่างใน 4 อย่างนี้ ท่านจะอยู่ในระดับนี้ทั้งสิ้น

สำหรับนักภาวนาทียังอยู่ในระดับนี้ วิธีการฝีกฝนนั้น
ผมแนะนำให้ฝีกฝนการรู้ทีเป็นแบบ ---ไหว--- ไม่ใช่ --นิ่ง
เพราะการรู้ --ไหว--นี่แหละ รู้แบบไม่ยีดติดการไหว
จะทำให้จิตมีพลังสัมมาสมาธิทีตั้งมั่นมากขึ้น
ในขณะทีการรู้ ---นิ่ง--ไม่ตอบโจทย์ของบุคคลในระดับนี้เลย
เพราะเป็นการรู้แบบไปกดให้นิ่งนั่นเอง ไม่ใช่นิ่งทีเกิดเองด้วยธรรมชาติ

ระดับที 2 ระดับการฝีกเพื่อการรุ้แจ้งในอริยสัจจ์ 4
เมื่อนักภาวนาผ่านระดับที 1 มาได้ หมายความว่า นักภาวนาจะมีคุณสมบัติ
ทีทำลายปัญหาทั้ง 4 ข้อในระดับที 1 ได้แล้ว
นักภาวนาจะเกิดความสามารถทางจิตขึ้น 4 อย่างดังนี้

A..ไม่ค่อยเผลอ มีความรู้สีกตัวทีเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องทำอะไรก็เป็นแบบนี้ได้เอง
B..จิตจะมีความสามารถในการต้านทานการปรุงแต่งทางจิตได้ดี ทุกข์ลดลงอย่างมากถีงมีการปรุงแต่งขึ้นมาก็ตาม
C..จิตมีความสามารถเป็นอย่างยิ่งทีเห็นจิตปรุงแต่งทีเป็นไตรลักษณ์ได้
D..จิตมีปัญญาญาณ มีความสามารถทีเห็นตัวจิตได้แล้ว

เมื่อนักภาวนามีคุณสมบัติของทุกข้อใน A ถีง D
นักภาวนาจะพบเองว่า จิตปรุงแต่งจะไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก
ถีงเกิดได้ ก็จะสลายตัวลงเป็นไตรลักษณ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
ซี่งต่างกับในระดับที 1 ทีว่า จิตมีการปรุงแต่งเกิดอยู่เสมอ เกิดนาน ๆ ดับสลายได้ยาก
เมื่อมีการรับรู้เข้ามาทางอายตนะต่าง ๆ

การทีจิตไม่ค่อยปรุงแต่งนี่แหละ ทีนักภาวนาจะเห็นได้ด้วยปัญญาญาณ
และนีคือ --ความนิ่ง--ทีเกิดขึ้น นิ่งเพราะจิตมีปัญญาญาณ และ สัมมาสมาธิทีตั้งมั่น
เป็นการนิ่งทีไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ใช่นิ่งเพราะไปกดข่มจิตเอาไว้ดังทีกล่าวไว้ในระดับที 1

การเห็นความนิ่งนี่เอง เมื่อเป็นไปตามธรรมชาติ ย่อมจะทำให้เข้าใจในอริยสัจจ์
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อย่างแจ่มแจ้ง เข้าใจในปฏิจสมุปบาท
ทำให้เข้าใจในธรรมชาติและเป็นผุ้หลุดออกจากกองทุกข์ได้อย่างแท้จริง





Create Date : 19 มกราคม 2559
Last Update : 19 มกราคม 2559 13:48:53 น. 0 comments
Counter : 1349 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.