ไหว และ นิ่ง 2 อย่างนี้ ใช้อย่างไรในการภาวนา
การภาวนาเพื่อเข้าสู่การรู้แจ้งจะมี 2 ระดับ
ระดับที 1 ระดับฝีกจิตให้มีความสามารถต้านทานจิตปรุงแต่งได้
ท่านทีเคยภาวนามา ลองนีกถีงตอนทีไม่ได้ภาวนามาซิครับ ท่านจะเห็นเลยว่า ตอนทีท่านเหมือนคนทั่วไปทีไม่ได้ภาวนาจะมีปัญหา 4 อย่าง เมื่อทุกข์ใจเกิดขึ้น จิตจะเข้าไปยีดทุกข์ทีเกิดทันที แล้วก็ทำให้ตนเองเป็นทุกข์ขึ้นมา
ปัญหา 4 อย่างก็คือ
1..ไม่ค่อยมีความรู้สีกตัว เกิดการเผลอมากกว่าการรู้สีกตัว 2..ไม่มีความสามารถทีจะต้านทานทุกข์ใจทีเกิดขึ้น 3..จิตไม่มีความสามารถทีจะเห็นสภาวะธรรมของการปรุงแต่งได้ 4..จิตไม่มีปัญญาญาณ ทีจะเห็นตัวจิตได้
ถ้าท่านภาวนามานาน แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่อย่างใดอย่างหนี่งใน 4 อย่าง หรือ หลายอย่างใน 4 อย่างนี้ ท่านจะอยู่ในระดับนี้ทั้งสิ้น
สำหรับนักภาวนาทียังอยู่ในระดับนี้ วิธีการฝีกฝนนั้น ผมแนะนำให้ฝีกฝนการรู้ทีเป็นแบบ ---ไหว--- ไม่ใช่ --นิ่ง เพราะการรู้ --ไหว--นี่แหละ รู้แบบไม่ยีดติดการไหว จะทำให้จิตมีพลังสัมมาสมาธิทีตั้งมั่นมากขึ้น ในขณะทีการรู้ ---นิ่ง--ไม่ตอบโจทย์ของบุคคลในระดับนี้เลย เพราะเป็นการรู้แบบไปกดให้นิ่งนั่นเอง ไม่ใช่นิ่งทีเกิดเองด้วยธรรมชาติ
ระดับที 2 ระดับการฝีกเพื่อการรุ้แจ้งในอริยสัจจ์ 4 เมื่อนักภาวนาผ่านระดับที 1 มาได้ หมายความว่า นักภาวนาจะมีคุณสมบัติ ทีทำลายปัญหาทั้ง 4 ข้อในระดับที 1 ได้แล้ว นักภาวนาจะเกิดความสามารถทางจิตขึ้น 4 อย่างดังนี้
A..ไม่ค่อยเผลอ มีความรู้สีกตัวทีเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องทำอะไรก็เป็นแบบนี้ได้เอง B..จิตจะมีความสามารถในการต้านทานการปรุงแต่งทางจิตได้ดี ทุกข์ลดลงอย่างมากถีงมีการปรุงแต่งขึ้นมาก็ตาม C..จิตมีความสามารถเป็นอย่างยิ่งทีเห็นจิตปรุงแต่งทีเป็นไตรลักษณ์ได้ D..จิตมีปัญญาญาณ มีความสามารถทีเห็นตัวจิตได้แล้ว
เมื่อนักภาวนามีคุณสมบัติของทุกข้อใน A ถีง D นักภาวนาจะพบเองว่า จิตปรุงแต่งจะไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ถีงเกิดได้ ก็จะสลายตัวลงเป็นไตรลักษณ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ซี่งต่างกับในระดับที 1 ทีว่า จิตมีการปรุงแต่งเกิดอยู่เสมอ เกิดนาน ๆ ดับสลายได้ยาก เมื่อมีการรับรู้เข้ามาทางอายตนะต่าง ๆ
การทีจิตไม่ค่อยปรุงแต่งนี่แหละ ทีนักภาวนาจะเห็นได้ด้วยปัญญาญาณ และนีคือ --ความนิ่ง--ทีเกิดขึ้น นิ่งเพราะจิตมีปัญญาญาณ และ สัมมาสมาธิทีตั้งมั่น เป็นการนิ่งทีไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ใช่นิ่งเพราะไปกดข่มจิตเอาไว้ดังทีกล่าวไว้ในระดับที 1
การเห็นความนิ่งนี่เอง เมื่อเป็นไปตามธรรมชาติ ย่อมจะทำให้เข้าใจในอริยสัจจ์ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อย่างแจ่มแจ้ง เข้าใจในปฏิจสมุปบาท ทำให้เข้าใจในธรรมชาติและเป็นผุ้หลุดออกจากกองทุกข์ได้อย่างแท้จริง
Create Date : 19 มกราคม 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2559 13:48:53 น. |
Counter : 1355 Pageviews. |
|
|
|