รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2564
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 มิถุนายน 2564
 
All Blogs
 
การทำ อาณาปานสติ เมื่ออยู่ในห้องปรับอากาศ - สำหรับมือใหม่

1..บทความนี้ จะเป็นการแนะนำให้มือใหม่ในด้านการภาวนา ฝีกฝนการทำอาณาปานสติ เมื่อยู่ในห้องทีมีความเย็นของอากาศ เช่น ในห้องปรับอากาศที่มีอากาศเย็น

2...สิ่งทีควรทำความเข้าใจกันก่อนในการฝีกฝนอาณาปานสติ
อาณาปานสติ นั้น เป็นการ รู้ได้ด้วยจิตว่า ขณะนั้นกำลังมีการหายใจเกิดขึ้นอยู่
ซึ่งการรู้ด้วยจิตแบบนี้ จะต้องเป็นการรู้ทีเป็นไปเอง ไม่ใช่ไปสนใจไปรู้ในสิ่งนั้น ๆ 
ยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ เช่น ถ้าท่านกำลังนั่งอ่านบทความนี้อยู่ในห้อง ถ้าท่านกำลังมีสติ เมื่อท่านอ่านบทความนี้ไป
หูท่านจะต้องได้ยินเสียงของสิ่งแวดล้อมไปด้วย เช่น ถ้าท่านอยุ่ในห้องปรับอากาศ ท่านก็จะได้ยินเสียงของเครื่องปรับอากาศไปด้วย แต่ท่านไม่ได้สนใจเสียงนั้นเลย เพราะท่านกำลังสนใจในบทความทีกำลังอ่านอยู่
.
ท่านรู้ได้ว่า มีเสียงได้ยินอยู่ แต่ท่านไม่สนใจเสียงนั้น นั่นแหละ คือ อาการของการมีสติได้เกิดขึ้นแล้ว  ถ้าทำนองเดียวกัน ถ้าท่านสามารถรุ้ว่า กำลังมีการหายใจ เกิดขึ้นอยู่ โดยท่านไม่ได้ใส่ใจ นั้นคือ การมีอาณาปานสติ  เพื่อให้สดวกในการอธิบายใน Blog ของผุ้เขียนนี้ ผู้เขียนได้ตั้งศัพท์ขึ้นมาคำหนี่ง เพื่อใช้แทนการรู้ทีไม่ได้ใส่ใจแบบนี้ว่า การรู้ทีเป็นแบบ Secondary
.
นักภาวนามือใหม่หลายๆ  คน ทีพยายามทำการฝีกฝน อาณาปานสติ ด้วยการพยายามไปรุ้ลมหายใจแบบรู้ลมเข้าไปตรงๆ เลย ท่านมือใหม่เหล่านั้น จะพบกับอาการหายใจทีไม่เป็นธรรมชาติ รู้สึกอึดอัด นี่เพราะการพยายามรู้ลมหายใจโดยตรงนั้น ผลจึงออกมาแบบนี้เองทีไม่เป็นธรรมชาติ ทำแล้วอีดอีด ไม่สบายกายนัก  แต่ถ้าท่านรู้ลมหายใจให้เป็นแบบ Secondary ได้ ท่านจะพบได้ถึงความเป็นธรรมชาติ ไม่อีดอีดเลย

เมื่อใดทีท่านสามารถทำ อาณาปานสติ แบบ Secondary ได้ ตอนนั้น ท่านกำลังมีสติอยู่
อายตนะทุกอย่างของท่านจะทำงานได้ ท่านก็จะสามารถรุ้ได้ด้วย กล่าวคือ ตาก็มองเห็นได้ หูก็ได้ยินได้ จมูกก็ได้กลิ่นได้ ผิวกายก็รู้สัมผัสได้ และ อายตนะอื่นๆ ก็รุ้ได้ครบหมด

3..มาเริ่มทำการฝีกฝนกัน
A...ท่านจะนั่งทำ หรือ นอนทำ หรือ ยืนทำ ไม่ใช่ปัญหา แต่ใหม่ๆ  ไม่ควรเดินทำ
แต่ถ้าท่านเก่งแล้ว ถึงเดิน ท่านก็ทำได้ แต่ถ้ายังไม่เก่ง ก็ยังทำไม่ได้
B..สมมุติว่า ท่านนั่งทำ ท่านจะนั่งบนเบาะ บนพื้น บนเก้าอี้ ก็ได้ ไม่ใช่ปัญหา
แต่ขอให้เมื่อนั่งแล้วไม่ลำบากกายก็ใช้ได้แล้ว  เมื่อท่านนั่งเรียบร้อย จะหลับตาหรือลืมตา ก็ใช้ได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องหลับตาทำทุกครั้งไป  ท่านควรทดลองดูเองว่า ถ้าท่านหลับตา หรือ ลืมตา แบบใด ท่านทำได้ดีกว่า ก็ให้ทำแบบนั้นไป
C...เมื่อท่านนั่งได้สบายแล้ว ต่อไป ให้หายใจเข้าแรง ๆ แล้วปล่อยลมออกตามธรรมชาคิ ให้ทำสัก 2-3 ครั้งก่อน แล้วต่อไป ขอให้สังเกตให้ดี  ท่านจะพบว่า เมื่อท่านหายใจเข้า ท่านจะสามารถ รู้สีก ได้ถึงความเย็นของอากาศปรากฏขึ้นในรูจมูกของท่าน ( เพราะท่านอยู่ในห้องทีมีความเย็นของเครื่องปรับอากาศ  )  แต่พอท่านปล่อยลมหายใจออก ท่านจะพบว่า ความเย็นของอากาศได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่เย็นเหมือนตอนหายใจเข้า ขอให้ท่าน จับความเย็น นี้ให้ได้ก็พอ โดยไม่ต้องไปสนใจว่า ความเย็นนี้อยู่ทีรู้จมูก ขอให้รู้สีกได้ถึงความเย็นทีจับได้ก็พอโดยไม่มี รูจมูก เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เมื่อท่านหายใจออก ไม่ต้องไปใส่ใจว่า มันจะร้อนกว่าตอนหายใจเข้า ขอเพียงจับความเย็นได้
ตอนหายใจเข้าก็พอ
เมื่อท่านจับความเย็นได้แล้ว ต่อไป ให้ท่านหายใจเข้าแรง ๆ ต่อไปสัก 3 ครั้ง แล้ว จับทีความเย็นนี้ไปเรื่อยๆ   เมื่อครบ 3 ครั้งแล้ว ต่อไป ท่านไม่ต้องหายใจแรงๆ  อีก แต่ ให้เพียง รู้สึกได้ถึงความเย็นทีจับได้นี้ โดยไม่ต้องไปสนใจว่า มันเย็นในรูจมูก เพียงท่านรู้สีกได้ถึงความเย็นนี้อย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ  การหายใจทีต่อเนื่องทีเป็นธรรมชาติ ก็จะเกิดขึ้นต่อไปได้เอง  
.
ในตำราอาณาปานสติ ได้เขียนไว้ว่า หายใจเข้า ก็รู้ว่าหายใจเข้่า หายใจออก ก็รู้ว่าหายใจออก
ขออย่าได้ทำการรู้แบบทีเขียนในตำรา เพราะ การทำอาณาปานสติแบบ Secondary นั้น
คนทำต้องไม่ไปรู้ทีลมหายใจตรง ๆ  และในวิธีที่เขียนอธิบายนี้ ก็คือ ให้ไปรู้สึกทีความเย็นทีจิตจับได้  เมื่อเราสนใจความเย็นทีจิตจับได้  การรู้ได้ถึงความเย็นนี้ จะเป็น Primary ก็เกิดขึ้น
ซี่ง Primary นี้ จะเป็นตัวสร้างเหตุ ให้มีสติไปรู้ อาณาปานสติทีเป็น Secondary อีกทอดหนี่ง
ตราบใด ทีท่านยังรู้ได้ถึง ความเย็นไม่ขาดตอน ก็จะมีอาณาปานสติทีเป็น Secondary เกิดอยู่ต่อไปอย่างไม่ขาดตอนเช่นกัน

การที่มีอาณาปานสติทีเป็น Seondary นี้แบบไม่ขาดตอน นั่นคือ ท่านกำลังฝีกฝน การมีสมาธิพร้อมกับการมีสติไปด้วยในคราวเดียวกัน  การฝีก ให้มี สติและสมาธิ พร้อมกันในคราวเดียวกันนี้
ถ้าท่านสามารถฝีกฝนได้จนชำนาญมาก ๆ  ท่านก็สามารถเข้าสู่ มรรค8 ได้ต่อไป
.
4...สิ่งทีเขียนในข้อ 3 เป็นการฝีกฝนเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ในการภาวนา ถ้าสติของท่านมั่นคงมากพอ  จิตจะสามารถเดินวิปัสสนาต่อไปได้เอง โดยทีท่านไม่ต้องไปทำอะไรในการเดินวิปัสสนา
การเดินวิปัสสนาสำหรับผู้ฝีกฝนกรรมฐานใหม่ๆ นั้น จะเป็นการรู้เห็นไตรลักษณ์ของความคิดหรืออารมร์ปรุงแต่งทีเกิดขึ้นทีอยู่ในชีวิตประจำวันของตัวท่านเอง ถ้าท่านเห็นไตรลักษณ์นี้ได้บ่อยๆ  ก็บ่งบอกว่า การฝีกฝนภาวนาของท่านมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

แต่ถ้าท่านฝีกฝนไป แต่ไม่สามารถรู้เห็นไตรลักษณ์ของความคิดหรืออารมณ์ปรุงแต่งได้ 
ก็แสดงว่า การฝีกฝนของท่านยังไม่มีความก้าวหน้า  ขอให้ท่านมีความเพียรหมั่นฝีกฝนต่อไปเรื่อยๆ  แล้วสักวันหนี่ง ท่านจะสามารถรู้เห็นคาามคิดหรืออารมณ์ปรุงแต่งของท่านได้อย่างแน่นอน.

 


Create Date : 01 มิถุนายน 2564
Last Update : 19 สิงหาคม 2564 9:05:19 น. 0 comments
Counter : 891 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.