รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2565
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 พฤศจิกายน 2565
 
All Blogs
 
การบริกรรม มี 2 แบบ

11..เรื่อง การบริกรรม  มีหลายสำนักสอนให้ทำบริกรรมในการปฏิบัติสติปัฏฐาน
บทความนี้ ผู้เขียนต้องขออภัยต่อทุกสำนักที่สอนการบริกรรม
ถ้าข้อเขียนของผู้เขียนเกิดไปขัดแย้งกับคำสอนของสำนักเข้า
.
จุดมุ่งหมายที่เขียนเรื่องนี้ขึ้น ก็เพื่อแบ่งปันประสบการในการใช้วิธีการบริกรรม
ในการปฏิบัติสติปัฏฐาน

22...วิธีการบริกรรม มี 2 แบบ 
แบบที่ 1  น่าจะเรียกว่า ท่องคำบริกรรม เพราะเป็นการท่องจริง ๆ ของปาก
แบบนี้ นักภาวนามือใหม่ มักทำกัน เพราะ ทำกันได้ง่าย เหมือนใช้ปากท่อง
คำอะไรสักอย่างหนี่ง
การบริกรรมแบบท่องด้วยปากนี้ จะเกิดความเครียด ท่องไปมาก ๆ ก็จะเหนื่อย
และท่องไม่ไหว ก็หยุดท่องไปเองเพราะเกิดทุกข์ขึ้นมาจากการท่อง  
.
แบบทั่ 2   แบบนี้ มือใหม่จะทำไม่ได้  แต่เป็นการใช้ จิตในการบริกรรม
แบบนี้ จะไม่ใช้ปากท่องเลย  ปากยังคงหุบสนิท แต่จิตนั้นได้บริกรรม
ออกมาตามที่ ผู้ปฏิบัติจะใช้สติกำกับการบริกรรม

อาการของแบบที่ 2 นี้ จะมีลักษณะที่ว่า ผู้ปฏิบัติ สามารถเหมือนได้ยินคำบริกรรม
แต่ไม่รู้ว่า คำบริกรรมอยู่ที่ไหน ดูประหนี่ง คำบริกรรมนี้จะลอย ๆ เหมือนเสียง
ที่ล่องลอยมาจากสวรรค์ ให้ได้ยิน 
การบริกรรมแบบนี้ จะไม่เครียด ไม่เหนื่อย จะบริกรรมได้ตลอดถ้าต้องการบริกรรม
และ เมื่อบริกรรมแบบนี จะพบว่า จะสามารถ
รับรู้ลมหายใจได้สดวกดีอีกด้วย ลมหายใจก็ไหลลื่นดี ไม่อีดอัดเมื่อไปรู้ลมหายใจเข้า
.
การบริกรรมแบบนี้ จึงเป็นการปลุกจิตให้ตื่นขึ้นมาได้
ทำให้จิตมีสติ เพื่อไปรู้อาการของสติปัฏฐานได้ต่อไป

33..แล้วจะพัฒนาการบริกรรมจากแบบที่ 1 มาเป็นแบบที่ 2 ได้อย่างไร
เรื่องนี้ ผู้เขียนไม่สามารถตอบได้   
เมื่อผู้เขียนสนใจการปฏิบัติธรรมใหม่ๆ  ผู้เขียนก็เคยท่องคำบริกรรม
ตามแบบที่ 1  เพราะผุ้เขียนไม่รู้จัก การบริกรรมแบบที่ 2 
เมื่อปฏิบัติแบบที่ 1  ผู้เขียนเกิดอาการอึดอัดมากเมื่อท่องบริกรรม
ผุ้เชียนก็เลิกท่องคำบริกรรมไป  แล้ว หันไปเจริญสติปัฏฐาน
ในแนวเคลื่อนไหวไปมา  จนเกิดความรู้ความเข้าใจในสติปัฏฐาน
มากขึ้น ผูํเขียนก็พบกับการบริกรรมแบบที่ 2 ได้เองแบบฟลุ๊ก  ๆ ขึ้นมา
เมื่อพบแล้ว ผู้เขียนก็พบว่า การบริกรรมแบบที่ 2 ถ้าทำได้ละก็
จะช่วยในการฝีกฝนสติปัฏฐานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
.
สำหรับนักภาวนาที่ภาวนาแล้วมีอาการเป็นโรคท้องอืด
โรคลมในกระเพาะอาหาร
เกิดอาการปวดท้องเพราะกระเพาะอาหารมีกรดสูง
ก็สามารถใช้ การบริกรรมแบบที่ 2
เพื่อแก้อาการโรคท้องอืดนี้ได้ดีอีกด้วย


Create Date : 28 พฤศจิกายน 2565
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2565 9:23:29 น. 0 comments
Counter : 1090 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.