รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2565
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 ตุลาคม 2565
 
All Blogs
 
จิต คือ อะไร

111...บทความเรื่อง "จิต คือ อะไร" เขียนขึ้นจากที่ผู้เขียนเองได้พบในการภาวนาถึงสิ่งหนี่งที่ปรากฏขึ้นมา   ที่สิ่งนี้ ไม่ใช่ ขันธ์ 5  
เมื่อ ผู้เขียนพบสิ่งนี้ได้ ก็ได้เฝ้าศึกษาเรียนรู้ กลไกการทำงานของสิ่งนี้  เมื่อได้เทียบเคียงกับตำรา ผู้เขียนปักใจเชื่อว่า สิ่งที่ผู้เขียนพบนั้น คือ สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตั้งชื่อเรียกว่า จิต
ถ้าใครที่เป็นนักอ่านตำรา  จะพบว่า  นอกจากคำว่า จิตแล้ว ยังมีหลายคำมากที่เกี่ยวเนื่องจากจิต บางตำรา บางอาจารย์ มีการใช้เชื่อเหล่านี้ แทนคำว่า จิต ไปเลย
จากการสังเกต ผู้เขียนพบว่า เมื่อจิตมีการทำงานเปลี่ยนแปลง ก็จะเกิดอาการหลายอย่างปรากฏขึ้น   ซี่งอาการเหล่านี้  ก็คือ คำหลาย ๆ คำในตำราที่ใช้แทนคำว่า จิต
.
222..สภาวะแท้ ๆ ของจิต เมื่อจิตไม่ได้ทำงาน
ถ้าใครได้อ่านตำรา มหายาน  จะมีคำหนี่งที่ใช้กันมากในตำรา มหายาน ก็คือ คำว่า "จิตเดิมแท้ "
ซี่งหมายความว่า เป็นสภาวะแท้ ๆ ของจิต เมื่อไม่ได้ทำงาน  
ผู้เขียนพบว่า สภาวะแท้ ของจิต เมื่อจิตไม่ได้ทำงาน จะมีสภาพดังภาพข้างล่างนี้



สภาวะของตัวจิตแท้ ๆ จะมี 2 ส่วน  ส่วนตรงกลาง เป็น นิวเคลียส เม็ดขนาดจิ๋วเล็กมาก ๆ 
ที่เห็นได้ยากยิ่ง มีสภาพเป็นเม็ดที่ไม่ชัดนัก จะมัว ๆ ไม่แจ่มใส 
ถีงแม้นักภาวนาจะมี ญาณเกิดแล้ว แต่ถ้า นักภาวนาที่ไม่สังเกตให้ดี หรือ กำลัง ญาณ ยังไม่มากพอ จะไม่มีทางเห็นเม็ดจิ๋วนี้ได้เลย
      เม็ดจิ๋วนิวเคลียส นี้ เท่าที่ผู้เขียนเฝ้าสังเกต เม็ดจิ๋วนี้เป็นพลังงาน เมื่อมันทำงาน ขนาดของมันจะใหญ่ขึ้น  การทำงานทุกครั้ง จะไปสร้าง"ขันธ์"ขึ้น ซี่ง ผู้เขียนขอเรียก เม็ดจิ๋ว นิวเคลียส นี้ว่า จิตพลังงาน

อีกส่วนหนี่งของเม็ดจิต จะเป็นพลังงานความว่างเปล่าที่ล้อมรอบเม็ดนิวเคลียสนี้ไว้
พลังงานนี้ ถ้าได้แผ่ออกมา จะเป็นการแผ่สภาวะ รู้ของตัวจิตออกไป  ยิ่งแผ่กว้างมาก
การรู้ของจิต ก็จะเป็นวงกว้างออกไป   

เพื่อความเข้าใจการแผ่รู้นี้ ขอยกตัวอย่างที่ใกล้เคียงมาก ๆ ในยุคนี้ ถ้าได้อ่าน ก็จะทำให้เข้าใจ
การแผ่รู้ของจิตนี้ได้ ดังนี้
          เรื่องการแผ่รู้ของจิตส่วนนี้  ขอให้นึกถึง Radar ที่สนามบิน เมื่อ Radar ส่งคลื่นแผ่กว้างออกไปทางใด  เมื่อเคลื่อนแผ่ไปถึงที่ใด ก็จะจับภาพสิ่งที่คลื่นแผ่ไปถึงได้  ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่า Radar สนามบิน ตั้งค่าการแผ่คลื่นออกไป 100 กิโลเมตร  เครื่องบินที่บินเข้ามาในรัศมีของคลื่น Radar  ก็จะไปแสดงผลการเห็นได้ที่หน้าจอ ที่หอบังการบินของสนามบิน  แต่ถ้า เครื่องบินอยู่นอกรัศมี 100 กิโลเมตร ภาพเครื่องบินนั้น จะไม่ปรากฏที่หน้าขอของหาบังคับการบิน  
(   ถ้าท่านต้องการดูภาพเกี่ยวกับ Radar สนามบิน สามารถดูได้ โดยคลิ๊กที่ลิงค์ข้างล่างนี้ 
https://www.shutterstock.com/th/image-vector/green-radar-screen-vector-illustration-on-216439570   )

333..กลไกการทำงานของ จิตพลังงาน ที่เป็น เม็ดนิวเคลียส แล้วทำให้่ทุกข์เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
.
เมื่อ เม็ดนิวเคลียส ทำงาน เม็ดนิวเคลียส จะมีขนาดใหญ่โตขึ้น ซี่ง เมื่อเม็ดนิวเคลียส์ใหญ่ขึ้น
ในทางธรรม ก็จะเรียกว่า "รูป"   แต่ถ้าแปลเป็นภาษาธรรม ก็จะเรียกว่า ขันธ์ 
เช่น สมมุติว่า ท่านปวดฟัน ท่านเคยสังเกตใหมว่า จุดที่ปวดนั้น จะเป็นก้อนเม็ดอะไรโผล่ขึ้นมา
นั้่นคือ เม็ดจิ๋วนิวเคลียส ทำงานแล้ว เป็น รูปขึ้นมาแล้ว ภาษาคนก็เรียกว่า กำลังปวดฟัน
การเจ็บปวดอื่นๆ  ในร่างกาย ทุกอย่าง จะเป็นแบบนี้หมด สุดแล้วแต่ว่า จะไปเกิดที่ใด เช่น ถ้าไปเกิดที่ขา ก็เรียกว่า ปวดขา เป็นต้น

นอกจาก เม็ดนิวเคลียส นี้ไปสร้างรูป ที่เป็นอาการเจ็บปวดแล้ว ก็ยังไปสร้างรูป ที่เรียกว่า
/  สัญญา   / สังขาร  /  วิญญาณ อีกด้วย  ยกตัวอย่างเช่น
---- ถ้าท่านไปเห็น เด็กตัวโต กำลังไล่เตะลูกของเราอยู่ที่ตัวเล็กกว่า
สัญญาขันธ์ก็เกิดขึ้นทันที  สัญญาขันธ์ ก็จะทำงานไปทำให้ตัวเราเข้าใจว่า เด็กที่ถูกทำร้าย คือ ลูกของเรา
สัญญาขันธ์ ก็จะทำให้เราเข้าใจอีกว่า การทำร้ายนนี้ อันตรายต่อลูก  ช้าไม่ได้แล้ว ต้องทำอะไรสักอย่างหนี่ง  แล้ว
สังขารขันธ์ ก็เกิดขึ้น เกิดอาการโกรธ แล้วก็มีปฏิกิริยาเกิดขึ้น ทำให้ท่านต้องรีบวิ่งไปช่วยลูกอย่างรวดเร็ว 
.
กลไกทั้งหมดในขันธฺ์ 5 นั้น เกิดจาก เม็ดนิวเคลียส จิตพลังงาน ทำงานขยายตัวใหญ๋ขึ้น
การที่ เม็ดนิวเคลียสขยายตัว มันจะไปดูดพลังงานมาจากการแผ่รู้ ทำให้ รัศมีการแผ่รู้ที่เป็นวงนอก มีขนาดเล็กลงจากสภาวะจิตเดิมแท้ 
(ดูภาพที่ 2 ด้านล่าง) ถึงแม้ว่า รัศมีการแผ่รู้จะหดแคบลงไป เพราะนิวเคลียสทำงานสร้างขันธ์ขึ้นมา  แต่รัศมีการแผ่รู้ยังคงมีอยู่ และ เห็นได้อยู่ ในสภาวะแบบนี้ จิตยังมีสติหลงเหลืออยู่
.
ถ้าการดูดพลังงานของเม็ดนิวเคลียส ไม่หยุด ยังดูดได้ต่อไป จนรัศมีเปลือกนอกของการแผ่รู้ มีขนาดเล็กลง จนเล็กว่า เม็ดนิวเคลียสที่กำลังขยายตัวออกไป  ทำให้ ไม่เห็นรัศมีของการแผ่รู้ได้อีก
ตอนนี้ รัศมีการแผ่รู้ จะไม่ทำงานแล้ว เพราะถูก เม็ดนิวเคลียสที่ขยายตัวใหญ๋ ดูดไปจนมิดแล้ว
ถ้าอาการนี้ เกิดขึ้น ภาษาธรรม ก็เรียกว่า เกิดโมหะครอบงำจิต แล้ว (   ดูภาพที่ 3 ข้างล่าง   )
เมื่อโมหะครอบงำจิตได้ ต่อไป การเกิดขึ้นของกิเลสตัวอื่น ก็เกิดได้ง่ายและมักเกิดตามมาเสมอ


.
เนื่องจากเม็ดนิวเคลียสเดิม ที่เล็ก ๆ จะมีสภาพมัว ๆ ไม่แจ่มใส เมื่อ มันขยายใหญ่ขึ้นและดูด
การแผ่รู้เข้าไปจนหมด ทำให้จิตใจของคนตอนนี้ จะไม่สดใส จะขุ่นมัว และ ใจจะเป็นทุกข์
นี่คือ การเกิดขึ้นของกิเลสในจิต  กลไกการเกิดทุกข์จะเป็นเช่นนี้
.
444...การหลุดพ้นจากการถูก เม็ดนิวเคลียส ครอบงำ เกิดได้อย่างไร
.
ถ้าท่านอ่านข้อ 333 แบบผ่าน ๆ  ผู้เขียนขอแนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านใหม่ ให้เข้าใจก่อน
ว่า การครอบงำของตัวจิตเกิดได้อย่างไร
.
จากข้อ 333 สรุปสั้น ๆ ได้ว่า
การครอบงำของตัวจิตนั้น เกิดมาจาก เม็ดนิวเคลียส ดูดการแผ่รู้ เข้าไปภายใน เม็ดนิวเคลียส
แล้ว เม็ดนิวเคลียส ก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้น เมื่อ การแผ่รู้ ถูกดูด จนเข้าไปในเม็ดนิวเคลัยสหมดเมื่อใด
การครอบงำจิตก็เกิดขึ้นแล้ว
.
การหยุดการครอบงำ ก็ต้องไปแก้ทีเหตุ คือ อย่าให้ เม็ดนิวเคลียส ดูดการแผ่รู้ เข้าไป
เมื่อ เม็ดนิวเคลียส ไม่อาจดูดการแผ่รู้เข้าไปจนมิดได้ ก็จะเกิดภาพดังภาพในข้อ 222 ถึงแม้ว่า 
เม็ดนิวเคลียส จะมีขนาดใหญ๋ขึ้น และ การแผ่รู้ ถูกดูดเข้าไปบ้าง แต่ตราบใด ที่
การดูดการแผ่รู้ ไม่เข้าไปจนหมด 
ถ้าอาการแบบนี้ เกิดขึ้นได้ จะเรียกว่า จิตมีกำลังของ สติ และ สมาธิ ได้เกิดขึ้นแล้วในตัวจิต
กำลังของ สติ และ สมาธิ นี้จะไปต้านทานการดูดของเม็ดนิวเคลียสได้
.
นี่คือ การค้นพบของพระพุทธองค์ในการพบทางแก้ไขทุกข์ที่เกิดขึ้นในตัวคนได้
และ พระพุทธองค์ได้ทรงบอกวิธีการไว้ ในสิ่งที่เรียกว่า มรรค 8 ซี่งมี สติปัฏฐาน 4 เป็นแนวทางฝีกฝนปฏิบัติ
     ถ้านักภาวนาได้ฝีกฝนปฏิบัติตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ อันได้แก่สติปัฏฐาน 4 เป็นเบื้องต้น และ มรรค 8 เป็นเบื้องปลาย ก็จะสามารถหยุดการดูดของนิวเคลียสได้ 
.
ถ้านักภาวนาได้ลงมือภาวนา จนเห็นกลไกการทำงานของจิตได้ ในการดูดพลังงานของเม็ดนิวเคลียส ทำให้เม็ดนิวเคลียสมีขนาดใหญ๋ขึ้น ซี่งเรียกชื่อใหม่ว่า รูป หรือ ขันธ์ ก็ได้
แล้ว การแผ่รู้ได้หายไปเพราะการถูดดูดพลังงานไป ทำให้เกิดทุกข์
และเห็นกลไกของการหลุดออกจากทุกข์ได้ ก็คือ การหลุดออกจากการถูกดูดพลังงานจากเม็ดนิวเคลียสได้  ถ้าเห็นกลไกได้แบบนี้ ก็จะเรียกว่า นักภาวนามีปัญญาญาณ รู้แจ้งเห็นจริงในกลไกของ อริยสัจจ์ 4 / ปฏิจสมุปบาท ได้ ซี่งเมื่ดเกิดการเห็นได้ของกลไกจนกระจ่างแจ้ง ก็จะเรียกว่า มรรค ได้เกิดแล้ว
.
การไม่ยีดมั่นถือมั่นความเป็นตัวตนก็จะเกิดขึ้นเองตามมาอีกขั้นหนี่ง เพราะเห็นจริงแล้วว่า ทุกข์หรือความรู้สีกความเป็นตัวตนนั้น เกิดได้เพราะเหตุใด เมื่อความรู้ความเข้าใจนี้เกิดขึ้นอันเป็นผล
องการภาวนา  นักภาวนาจะพบได้ด้วยตนเอง รู้ได้ด้วยตนเอง
.
555  บทสรุป  จิต คืออะไร
.
จิตคือ ธรรมชาติอย่างหนี่ง ที่มีอยู่แล้วในคนเราทุกคน
เมื่อจิตนี้ ไม่ทำงานสร้างขันธ์  จิตจะมีการแผ่การรู้ที่กว้างใหญ่ 
หรือ จะพูดว่า จิตประภัสสร ก็ได้

แต่ถ้าจิตนี้ ทำงานไปสร้างขันธ์ขึ้นมา  ถ้าขันธ์มีแรงมาก ก็จะดูดการแผ่รู้เข้าไป
จนหมด ทำให้ การแผ่รู้หยุดทำงาน อาการแบบนี้ จะเรียกว่า จิตมีโมหะครอบงำ
เมื่อ จิตถูกครอบงำจากโมหะแล้ว ทุกข์ก็เกิดขึ้นได้ และ กิเลสอย่างอื่นก็เกิดขึ้นตามมาได้
.
บนเส้นทางแห่งการดับทุกข์นั้น
พระพุทธองค์เป็นเพียงผู้บอกทาง  การเดินทางเห็นหน้าที่ของท่าน
ขอนอบน้อมแด่องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น





 


Create Date : 28 ตุลาคม 2565
Last Update : 28 ตุลาคม 2565 12:34:17 น. 0 comments
Counter : 675 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.