รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
28 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
จะเน้นแต่สมาธิก็ไม่ได้ จะเน้นแต่ปัญญาก็ไม่ได้

การภาวนาน้้น ครูบาอาจารย์บางคน จะพูดว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย
มันไม่มีตัวตนอยู่แล้ว ถ้าไปทำซิ ตัวตนจึงจะมี

ท่านพูดก็ถูกของท่านครับ แต่ไม่ถูกสำหรับคนอื่น
เพราะอะไร....

คนทั่ว ๆไปนั้น เนื่องจากจิตคุ้นชินกับตัณหาอยู่แล้ว คุ้นแบบไม่รู้ตัวด้วยว่า
จิตมีตัณหาเจือปนอยู่ แถมโมหะก็เกิดเกือบตลอดเวลาทีตื่นอยู่
ถ้าไม่ทำอะไรเลย จะไม่มีทางเกิดอาการของการไม่มีตัวตนได้เลย

คนทั่ว ๆ ไปจึงต้องเริ่มต้นที่สัมมาสมาธิก่อน ฝีกฝนเข้าไป ฝีกให้มาก ๆ
ฝีกบ่อยๆ ฝีกเสมอ ๆ อย่าเกียจคร้าน ตอนฝีกนี่ถีงแม้ว่าจะมีความจงใจ
ฝีกฝน เมื่อจงใจทำ ความมีตัวตนย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ถ้าไม่ฝีกเลย ก็จะกลับไปอยู่กับโมหะ อยู่กับตัณหา การพัฒนาจะไม่มี

ดังนั้น....จึงต้องเลือกการฝีกไว้ก่อน เพื่อสกัดกั้นโมหะ และ ตัณหา
เมื่อฝีกฝนไปสักระยะ จิตเริ่มมีความเคยชินกับการฝีกได้บ้างแล้ว
ตอนนี้แหละ นักภาวนาจะเกิดปัญญาในเบื้องต้นขึ้นได้
ปัญญาเบื้องต้นนี้ เกิดเพราะจิตเริ่มมีสัมมาสมาธิ แล้วไปเห็น
ไตรลักษณ์ของกิเลสได้อย่างจัง

เมื่อเกิดปัญญาในเบื้องต้นขึ้น ปัญญานี่แหละจะไปส่งเสริมให้สัมมาสมาธิตั้งมั่นขึ้นอีก
นิด แล้วเมื่อสัมมาสมาธิตั้งมั่นขึ้นอีกนิด ก็จะส่งเสริมให้เห็นไตรลักษณ์ของกิเลสได้มากขึ้น ได้บ่อยขึ้น เมื่อเห็นไตรลักษณ์ของกิเลสมากขึ้นอีก ก็จะส่งเสริมให้สัมมาสมาธิตั้งมั่นขึ้นไปอีก แล้วก็วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ

จะเห็นว่า ถ้านักภาวนาจะมุ่งเน้นแต่ทำสมาธิอย่างเนียวแน่น
กดข่มไม่ปล่อยให้กิเลสเกิดขึ้นในจิตใจได้เลย
ปัญญาจะไม่เกิดขึ้น เพราะกิเลสไม่เกิดให้จิตเห็น
แต่ถ้านักภาวนาฝีกฝนสัมมาสมาธิ แล้วปล่อยให้กิเลสเกิดในจิต
ได้ดังทีได้อธิบายไว้ข้างบนแล้ว ปํญญาจะเกิดได้ จนขบวนการของ สัมมาสมาธิ >>>เอื้อให้เกิดปัญญา >>>> การเพิ่มขึ้นของสัมมาสมาธิ >>> เอื้อให้เกิดปัญญามากขึ้น มากขึ้น จนนักภาวนาเกิด *ญาณเห็นจิต* ได้

เมื่อนักภาวนาเกิด *ญาณเห็นจิต*ได้แล้ว ก็จะพบความจริงเองทีว่า
ถ้าไม่ทำอะไรเลย นั้นคือ ความไม่มีตัวตนจะแสดงออกมา
แต่ถ้าไปทำนั่นแหละ ความมีตัวตนจึงจะแสดงออกมา
อย่างทีครูบาอาจารย์ท่านนั้นได้พูดไว้

นี่คือ ขบวนการแห่งการพัฒนากำลังสัมมาสมาธิ พัฒนาปัญญาของจิต เพื่อความไม่ทุกข์

ไม่ใช่ทำแต่สมาธฺิ แต่ไม่เดินปัญญา หรือ มุ่งแต่ปัญญา แต่ไม่ทำสมาธิเลย

ซี่งสมาธิและปัญญา ต่างก็เกื้อหนุนซี่งกันและกันไปตามลำดับ จนถีงจุดหมายปลายทางแห่งการไม่ทุกข์


Create Date : 28 กันยายน 2557
Last Update : 28 กันยายน 2557 19:19:58 น. 0 comments
Counter : 1760 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.