จะรู้ได้อย่างไรว่า จิตแยกตัว
คำว่า จิตแยกตัว ที่ผมมักพูดเสมอ ๆ ก็คืออาการที่ จิตผู้รู้ แยกตัวออกมาเป็นผู้รู้ ผู้ดู สภาวะธรรมที่เกิดขึ้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักภาวนาใหม่ๆ ก็คือ นักภาวนาใหม่ ๆ มองไม่เห็นจิตผู้รู้ ก็เลยไม่รู้วา สิ่งที่ตนเองกำลังฝีกฝนอยู่นั้นได้เดินตรงเข้าสู่ทางแห่งมรรคหรือไม่
ในการฝีกฝนการภาวนาที่ผมกล่าวถึงเสมอ ๆ ก็คือ นักภาวนาเพียงรู้สึกตัวธรรมดา ไม่ต้องอยากรู้ ไม่ต้องอยากเห็นอะไร ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องจ้อง ไม่ต้องบริกรรม ไม่ต้องคิดอะไรเลยในสมอง แล้วปล่อยให้อายตนะทำงานของเขาไปตามธรรมชาติ กล่าวคือ ตาก็มองเห็นได้อยู่ หูก็ได้ยินเสียงได้อยู่ จมูกก็สามารถรับกลิ่นได้อยู กายก็สามารถรู้อาการต่าง ๆ ทีเกิดขึ้นที่กายได้ เช่น รับรู้อาการสั่นไหวที่เกิดขึ้นที่ร่างกาย รับรู้อาการคัน อาการกระทบสัมผัสที่เกิดขึ้น หรือ อาการร้อนเย็นที่เกิดขึ้นได้ หรือ ถ้านักภาวนาท่านใดสามารถรับรู้อาการทางใจได้ด้วยก็ได้ แต่นักภาวนาใหม่ๆ มักไม่สามารถรับรู้อาการทางใจนี้ได้ ก็ไม่่เป็นไร ผ่านเรื่องใจไปก่อนได้ ถ้าท่านอยู่ในอาการอย่างนี้ ละก็ จิตผุ้รู้ แยกตัวออกมาแล้วละครับ เพียงแต่ว่า ท่านมองไม่เห็นจิตผู้รู้เท่านั้นเอง
อาการอย่างนี้ ถ้าพููดง่าย ๆ ก็อาจพูดได้ว่า รู้ทั่ว ๆ รู้กว้าง ๆ ไม่เจาะจง ก็ได้
เมื่อท่านฝีกในการรู้ทั่ว ๆ ไม่เจาะจงอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จิตจะมีกำลังตั้งมั่นมากขึ้นเอง เมื่อจิตตั้งมั่นได้มากพอ เวลานักภาวนาเกิดความคิดขึ้น นักภาวนาก็จะเห็นความคิดที่เกิดขึ้นได้ และ เห็นความคิดเกิดดับเป็นไตรลักษณ์เสียด้วย การเห็นความคิดเป็นไตรลักษณ์อย่างนี้ นี่คือ จิตแยกตัวที่เด่นชัดมากขึ้น และ ในบางโอกาส นักภาวนาอาจเห็นตัวจิตผู้รู้ได้ที่แยกตัวออกมาแล้วไปเห็นความคิดเป็นไตรลักษณ์ได้
ในการสอนภาวนาในประเทศไทย มีบางสำนักสอนให้รู้อย่างเดียว เช่นรู้ลมหายใจก็รู้ลมอย่างเดียว สอนให้บริกรรมเร็ว ๆ ผมไม่ขอตอบนะครับว่า ทำอย่างนั้นจะเป็นการสร้างเหตุให้จิตแยกตัวได้หรือไม่
แนะนำอ่าน เรื่อง รู้ที่สมดุลย์ รู้ที่ไม่สมดุลย์
Create Date : 06 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 6 ตุลาคม 2555 18:26:27 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2619 Pageviews. |
|
|