รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 มีนาคม 2560
 
All Blogs
 
สติ สมาธิ ปัญญา เป็นอย่างไร

AAA... สติ

สติ จะมี สติทางโลก และ สติทางธรรม (บางก็เรียก สัมมาสติ หรือ สติในองค์ )

1..เมื่อเผลอ หรือ หลงไป สติทางธรรมจะว๊าบจิต ทำให้หลุดการเผลอ หลุดการหลงได้ ถ้าใครมีดวงตาเห็นธรรมเกิดแล้ว จะเห็นแสงว๊าบสั้น ๆ เร็วมาก เหมือนแสงไฟจากกล้องถ่ายรูปเกิดขึ้น
การเกิดว๊าบ ทำให้หลุดเผลอ หลุดการหลงได้ ตรงนี้เป็นสติทางธรรม

2..สติเป็นตัวประกอบในจิตผู้รู้ ทำให้รู้ได้ทีโลกภายใน ตรงนี้ นีคือสติปัฏฐาน 4 ทีรู้ทีโลกภายใน ซี่งตรงนี้เป็นสติทางธรรม

3..สติ เป็นตัวควบคุมให้ทำหน้าทีการงานไม่ผิดพลาด ตรงนี้เป็นสติทางโลก
เช่นขับรถอยู่ ก็ขับรถไปตามหน้าที จิตไม่เฉไฉไปทางอื่น

4..สติ ไม่ใช่ ความรู้สีกตัว 2 สิ่งนี้ไม่เหมือนกัน
ความรู้สีกตัว เป็นอาการทีไม่เผลอไป เช่น ไม่ใจลอย
เมื่อเกิดความรู้สีกตัวขึ้น จะทำให้จิตมีความสามารถในการรับรู้ได้
ซึ่งการรับรู้ได้นี้ จะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ

**4.1 การรับรู้ด้วยอายตนะ ตาเห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น กายรุ้สัมผัส เป็นต้นซึ่งเป็นการรับรู้สิ่งต่างๆ ในโลกภายนอก
**4.2 การรับรู้ด้วยตัวจิต เป็นการใช้ สติ และ ญาณ ในการรับรู้โลกภายใน


ดังนั้น เมื่อความรู้สีกตัวอยู่ เกิดพร้อมกับ สติ
จิตจะรู้ได้ทั้งโลกภายนอก และ โลกภายใน

BBB...ปัญญา

ปัญญา คือ การยอมรับ การเข้าใจธรรม

เรื่องปัญญา จะเข้าใจยากสักหน่อย ผมจะยกตัวอย่างให้เข้าใจมากขึ้น

ตัวอย่างเรื่องการยอมรับ...
สาว ๆ มักห่วงไม่สวย พอสาว ๆ เห็นใบหน้าเริ่มเหี่ยวย่นมีริ้วรอย ถ้ามีปัญญาก็ยอมรับความจริงว่าของมันต้องเหนี่ยวเป็นธรรมดา ก็จะไม่กลุ้มใจทีหน้าเหี่ยวย่น

ส่วนการเข้าใจธรรม เช่น เข้าใจเรื่องไตรลักษณ์ เรื่องอนัตตา เรื่องสุญญตา เรื่องเหตุและปัจจัย เรื่อง สมมุติ ปรัมัต เป็นต้น การเข้าใจนี้ จะเกี่ยวเนื่องกับ ปัญญา 3 อย่างทางตำรา คือ สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภาวนามยปัญญา

ในการแบ่งพระอริยบุคคล ก็มาจากตรงนี้ ปัญญามาก หรือ ปัญญาน้อย
แต่ปัญญาของพระอริยบุคคล ทีว่ามากน้อย ต้องมาจากภาวนามยปัญญาเท่านั้น


CCC...สมาธิ
สมาธิมี 2 อย่าง คือ มิจฉาสมาธิ และ สัมมาสมาธิ
ซี่ง 2 อย่างนี้ ต่างกันอย่างไร
ขอให้อ่านในเรื่องที link นี้ เรื่อง
เรื่องของ สมาธิ ภาค 1 -ลักษณะของสัมมาสมาธิ มิจฉาสมาธิ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=02-07-2010&group=8&gblog=53

คำว่า สมาธิ ทีจะกล่าวต่อจากนี้ จะเป็นเรื่องของ สัมมาสมาธิ เท่านั้น

สมาฺธิคือ อาการที่จิตตั้งมั่น จิตไม่ขยับตัวไหลออกเมื่อถูกแรงดึงของตัณหา ดังนั้น สมาธิจะทำงานต้องมีแรงดึงของตัณหา ถ้าไม่มีแรงดึง สมาธิไม่ต้องทำงาน
ในกิจกรรมสอนการภาวนา ผมสอนให้ดูทีวีพร้อมรู้สีกทีกายไปด้วย ในขณะทีดูทีวี จะมีแรงดึงของตัณหา คือ ตาทีไปมองทีวี นี่มีแรงดึง ถ้าดูทีวี แล้วยังรู้กายได้ นี่แสดงว่า ตอนนั้น มีสมาธิอยู่ ถ้าดูทีวี แล้ว จิตไหลไปยังทีวี กายจะรู้ไม่ได้ แต่มีเรื่องราวของทีวีเท่านั้น นี่คือ การหลุดของสมาธิ
แนะนำอ่านเพิ่มเติมเรื่อง ชักกะเย่อ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=07-2009&date=28&group=1&gblog=68


Create Date : 26 มีนาคม 2560
Last Update : 24 มิถุนายน 2560 8:29:09 น. 0 comments
Counter : 1218 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.