รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
เมษายน 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
5 เมษายน 2563
 
All Blogs
 

ในการปฏิบัติธรรม จะพบว่าตัวจิตนี้มี 2 ส่วน

ผมจะเขียนในแง่ของการปฏิบัติธรรม  จะไม่อ้างอิงตำราใด ๆ 
จุดประสงค์เพื่อความเข้าใจในการปฏิบัติธรรมของนักภาวนา
ถ้านักภาวนาพบได้ จะได้ไม่สงสัย
ส่วนจะเหมือน หรือ ต่างไปจากตำราอย่างไร หรือไม่ 
ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน
ขอบคุณครับ
****
AAA..ตัวจิตนั้นจะมี 2 ส่วน 
จิตส่วนที 1 ทำหน้าที สร้างขันธ์ ขึ้นมาเพื่อใช้ในทางโลก ส่วนนี้  ถ้าท่านอ่านเรื่องใน blog ทีผมเขียน
ผมจะเรียกจิตส่วนนี้ว่า  จิตพลังงาน
*
จิตส่วนที่ 2  ทำหน้าที่ รู้  ซี่งการรู้ของจิตส่วนนี้ จะเป็นการรู้สภาวะธรรมทีเป็นปรมัตถธรรม
ไม่ใช่รู้เรื่องราวทางโลก  เช่น รู้ว่า ชายคนนี้คือพระเอกหนังทีชื่อ... การรูเ้อย่างนี้ไม่ใช่จิตส่วนนี้
แต่การรู้แบบนี้ เป็นการรู้สมมุติ ซี่ง จิตทีรู้สมมุติ ก็คือ สัญญาขันธ์ ทีจิตส่วนที 1 สร้างขึ้นมา
***
BBB..อะไร คือ การทำให้จิตส่วนใดทำงาน
จิตส่วนที 1 ทำงาน เมื่อจิตมีตัณหา
จิตส่วนที่ 2 ทำงาน เมื่อจิตมี สัมมาสติ ทีมีสัมมาสมาธิประกอบอยู่ในจิตด้วย
***
CCC..สภาวะจิตของปุถุชนเป็นอย่างไร
ในปุถุชน ตั้งแต่เกิดมา  ตัณหา จะเกิดมาพร้อม เพราะมนุษย์ต้องดำรงค์ชีพ
อยู่ในโลกใบนี้ ต้องกินอาหาร ต้องหนีภัยทีเข้ามาและอื่นๆ  
เมื่อจิตส่วนที่ 1 ทำงาน  จิตส่วนนี้ จะสร้างขันธ์ 5 ขึ้นมา
คนจึงพูดจากันได้รู้เรื่อง รู้ว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้ชีวิตอยู่ต่อไปได้
*
ในขณะเดียวกันใน ปุถุชน
จิตส่วนที่ 2 จะไม่ทำงาน หรือ ทำงานน้อยมาก ๆ 
เพราะ ปุถุชน ไม่มีสัมมาสติ ไม่มีสัมมาสมาธิ  จิตส่วนที 2 จึงไม่ทำงาน
*
ในภาษาธรรม จะเรียกอาการแบบนี้ทีจิตส่วนที่ 2 ไม่ทำงานว่า จิตถูกโมหะครอบงำอยู่
ดังนั้น ในปุถุชน ส่วนใหญ่ของชีวิต จิตส่วนที 1 ทีสร้างขันธ์ 5 ขึ้น จึงทำงานอยู่ตลอดเวลา
เมื่อมีการกระทบสัมผัสเข้ามาทางอายตนะ จิตส่วนที 1 จึงปรุงแต่งต่อเป็นอารมณ์
ขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นอารมณ์ของอาการ พอใจ หรือ ไม่พอใจ
***
DDD...จิตของพระอริยบุคลลเป็นเช่นไร
พระอริยบุคคล มี 4 ระดับ แต่ทุกระดับนั้น 
จิตส่วนที่ 2 จะทำงานเสมอ ( ขอให้สังเกต จิตส่วนที่ 2 นี้ ปุถุชน แทบไม่ทำงานเลย )
การทำงานของจิตส่วนที่ 2 นี้
ถ้าทำงานได้มาก คือ จิตมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เกิดอยู่ได้บ่อย ได้นาน
ใครอยู่ได้นานกว่า ได้บ่อยกว่า ก็จะเป็นพระอริยบุคคลขั้นทีสูงกว่า
สำหรับ พระอนาคามี จิตมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ทีมั่นคงมาก อยู่ได้นาน แทบไม่ขาดตอน
เพียงแต่ พระอนาคามี ยังไม่มีปัญญามากพอ ทีจะรู้วิธี การหยุดการทำงานของจิตส่วนที่ 1 ลงไปได้
ต้องทำอย่างไร
ซี่ง พระอรหันต์นั้น จะมีวิชาทีหยุดการทำงานของจิตส่วนที 1 ได้
พร้อมกับการมีจิตส่วนที่ 2 มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ทีทำงานได้ตลอด ไม่ขาดตอน

วิชาทีพระอรหันต์ได้มา อันเป็นวิชาทีหยุดจิตส่วนที่ 1 ไม่ทำงาน และ ให้จิตส่วนที่ 2 ทำงานเต็มที
ไม่ขาดตอน เมื่อได้วิชานี้ ก็คือ การได้ นิพพาน แบบไม่มีขันธ์

สำหรับ พระอริยบุคคล ทีไม่ใช่พระอรหันต์  จะได้แต่ นิพพาน แบบมีขันธ์
เมื่อ จิตส่วนที่ 1 ทำงานอยู่ และ จิตส่วนที่ 2 ก็ทำงานอยู่ด้วยพร้อมกันไป
ซี่ง เมื่อจิตทั้ง 2 ส่วนทำงานพร้อมกัน แต่ทั้ง 2 ส่วนต้องอยู่เป็นอิสระต่อกัน  
จึงเป็น นิพพาน แบบมีขันธ์ 

****
EEE ..จะพบว่า องค์ธรรมทีสำคัญทีสุด เพื่อการเข้าสู่พระอริยบุคคล คือ
การให้จิตส่วนที่ 2  มี สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เกิดขึ้น นั่นเอง
*
สัมมาสติ ทีสำคัญต่อการพัฒนาเข้าสู่พระอริยบุคคล ก็คือ อาณาปานสติ
การทีมีสัมมาสติ ทีต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน ถึงมีอะไรเข้ามาขัดขวาง ก็คือ การมีสัมมาสมาธิทีมั่นคง
*
พระอริยบุคคล ทีไม่ใช่พระอรหันต์  สัมมาสมาธิ ไม่มั่นคงมากพอ ยังมีขาดช่วง
เมื่อมีอะไรเข้ามาขัดขวางอยู่
แต่ใน พระอริยบุคคล ทีเป็นพระอรหันต์ นั้น สัมมาสมาธิ จะมั่นคงมาก ไม่ขาดช่วง
หรือ อาจขาดช่วงบ้าง แต่จะขาดช่วงเพียงระยะเวลาสั้นๆ เหมือนแสงฟ้าแลบ ทีเกิดขึ้นวั๊บ การขาดช่วงก็เกิดขึ้น แล้วกลับมาติดต่อใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว
จึงดูประหนี่งว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ของพระอรหันต์นั้น ไม่ขาดช่วงเลย

****
FFF...ความเป็นไตรลักษณ์ของจิตส่วนที่ 1 จะทำให้ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ของจิตส่วนที่ 2 มั่นคง
ตั้งมั่นมากขึ้น  ตรงนี้เป็น Key ทีสำคัญในการยกระดับจาก ปุถุชน ไปเป็น พระอริยบุคคล
และ การยกระดับของพระอริยบุคคล จากขั้นที 1 ไปสู่ขั้นทีสูงกว่า
ล้วนแล้วแต่เกิดจาก การทีจิตส่วนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ รู้ ปรมัตถธรรม ไปรู้ความเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 ทีถูกสร้างขึ้นมาจากจิตส่วนที่ 1

ถ้านักภาวนาไม่เข้าใจ key นี้ มักทำการฝีกฝนโดยการกดจิตให้นิ่งเป็นฤาษี
แล้วก็เข้าใจว่ สิ่งทีตนทำนั้น คือ จิตนิ่ง นี่คือ สิ่งทีพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้แก่ชาวพุทธ

****

GGG...อริยสัจจ์ 4 อันเป็นแก่นของพุทธศาสนา มีกล่าวไว้
*
อริยสัจจ์ 4 ข้อที่ 1  ทุกข์ นั้นให้รู้ ซึ่ง ทุกข์ ก็คือ ขันธ์ 5 ทีถูกสร้างมาจากจิตส่วนที่ 1 นั่นเอง
เมื่อพบทุกข์ของขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์ได้ ก็คือ การพบจิตส่วนที 1 แล้ว
*
อริยสัจจ์ 4 ข้อที่ 2 ตัณหา ให้ละเสีย ซี่ง ตัณหา นี่เอง คือ สิ่งทีทำให้จิตส่วนที่ 1 สร้างขันธ์ 5
ขึ้นมา เมื่อจิตส่วนที 1 สร้างขันธ์ 5 ขึ้นมาเพราะมีตัณหา ก็คือ มีทุกข์เกิดขึ้น ตามอริยสัจจ์ 4 ข้อที่ 1
*
อริยสัจจ์ 4 ข้อที่ 3 นิโรธ คือ อาการทีไม่ทุกข์ หรือ การไม่มีตัณหา เมื่อไม่มีตัณหา
จิตส่วนที่ 1 ก็สร้างขันธ์ 5 ไม่ได้ เมื่อไม่มีขันธ์ 5 ทุกข์อริยสัจจ์ ก็ไม่มี
ดังนั้น นิโรธ หรือ การไม่มีตัณหา จึงไม่มีทุกข์ เพราะเหตุนี้
*
อริยสัจจ์ 4 ข้อที่ 4 มรรค 
เมื่อพระอริยบุคคล ระดับ พระอนาคามี พบทุกข์อริยสัจจ์ แล้ว หยุดตัณหาได้แล้ว
ก็จะพบนิโรธ และ เข้าใจในการสิ้นตัณหาว่า ปฏิบัติอย่างไร คือ การสิ้นตัณหา
เมื่อสิ้นตัณหาได้ ก็คือ พบมรรค หรือ นิพพาน แบบไม่มีขันธ์ หรือ สุญญตา ตาม พุทธศาสนา ฝั่งมหายาน

 




 

Create Date : 05 เมษายน 2563
0 comments
Last Update : 5 เมษายน 2563 10:21:44 น.
Counter : 1248 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.