กิจกรรมอัดแน่นทั้งวันเลยจ้า
ส่งนู๋เสร็จ แม่ไปเลือกซื้อหมอนใหม่ ที่ร้านรอส มาเปิดแทนร้านลินินที่เจ๊งไปตั้งแต่เศรษฐกิจทรุด 2-3 ปีก่อน กว่าจะเลือกได้ถูกใจ แม่กอดรัดฟัดเหวี่ยงหมอนไปหลายใบเลย แปลกดี รุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่มันแน่นไม่เหมือนกันอ่ะ
เลือกเสร็จข้าวของพะรุงพะรัง คิดดู หมอนสี่ใบใหญ่ กะของช้อปปิ้งอื่นๆ แต่ทางร้านไม่ให้เอาคาร์ตออกนอกร้านอ่ะ เค้าทำเสาสูงๆ ไว้ เหอ เหอ ดีนะ ร้านเปิดใหม่ เค้าเอาใจลูกค้า เลยช่วยถือของมาส่งที่รถ คาร์ตมีเสาเนียะ เหมือนของร้านดอลล่าร์สโตร์เลย งี้แหละ ร้านคนจน เค้ากลัวคนจนเอาคาร์ตแถมกลับบ้านไปด้วยแน่ๆ
ซื้อเสร็จก็เหาะไปฝั่งตรงข้าม เอาเงินไปฝากเป็นทุนการศึกษาของนู๋ และแวะซื้อไก่มาหนึ่งกล่อง กะจะปิคนิคที่แคมป์ของนู๋
นับว่า เป็นความคิดที่ประเสริฐศรีมณีเด้ง เพราะไนโตรนิค ลืมแพคอาหารมา แม่เลยชวนให้ปิคนิคด้วยกันเสียเลย ได้มีโอกาสขุดคุ้ยประวัติเพื่อนพี่มากิเอะด้วย อิอิ พี่นิคขยันจริงๆ หางานพิเศษมากมาย เพราะไม่มีเงินเรียนคอลเลจ แม่เลยรู้สึกดีใจมั่กๆ ที่วันนี้ ได้มีโอกาสเลี้ยงอาหารกลางวันพี่เค้า ๆ ก็เกรงใจนะ กินไปนิดเดียว แม่ต้องยัดเยียดให้เอาใส่แบคแพคไปเพิ่ม เผื่อหิว เด๋วทำงานไม่ไหว
อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าเปิด สบายจริงๆ ตกบ่าย พานู๋ไปชมการแสดง เรื่อง Mask of the rain forest แสดงโดยคุณลุงแอฟฟริกันสองคน คนนึงแสดงเหมือนเดี่ยวไมโครโฟน อีกคนคอยตีกลอง
คุณลุงแสดงได้ฮาจริงๆ ฮาทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ทั้งยังสอดแทรกวัฒนธรรมแอฟฟริกันเข้ามาอย่างแนบเนียน เนื้อเรื่องหลักๆ เกี่ยวกันนิทานแอฟริกัน ตอนท้ายก็มีโชว์เต้นรำด้วยหน้ากาก เออ จริงๆ ไม่ใช่แค่หน้ากาก แต่คุณลุงลงทุนคอสตูมทั้งตัว เห็นแล้ว แม่อยากลุกมาเป็นแอฟริกันม่าง อิอิ หน้ากากอันแรก เป็นหน้ากากคน เต้นมันส์
หน้ากากอันที่สอง เป็นหน้ากากนก คุณลุงทำเสียงนก ได้เพราะมาก เห็นลีลาแล้ว ทำให้เชื่อจริงๆ ว่า เป็นนกออกมาเต้น
หน้ากากอันสุดท้าย เป็นมอนสเตอร์ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากเด็กๆ ได้ลั่น เพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้ ออกมาตัวเตี้ย ความสูงประมาณผู้ใหญ่ครึ่งตัวเท่านั้น
แต่พอเต้นไปๆๆ สัตว์ประหลาดตัวสูงขึ้นๆๆ จนเกือบจะแตะรางไฟบนเพดานเลย
ขึ้นมาบนรถ แม่ถามนู๋ว่า เค้าทำไงนะถึงตัวสูงขึ้นได้ ตะแรกนู๋ตอบว่า "เค้าเขย่งขา" เหมือนที่นู๋พยายามทำ เวลาแม่วัดส่วนสูง "เอ เขย่งยังไงมันก็คงได้แค่ 2-3 นิ้ว ใช่ไหมลูก" เอ้า คิดหนักเลยทีนี้ ในที่สุด นู๋ก็ได้คำตอบ "เค้าซ่อนบันไดไว้ข้างในคะ"
ถึงบ้านแม่เร่งๆๆ ทำกับข้าว เตรียมไปปิคนิค กะครอบครัวเพื่อนๆ นู๋ที่โรงเรียนใหม่ ก่อนลงมือ ก็เท็กซ์ข้อความไปเตือนพ่อสักนิดส์ ทำกับข้าวเสร็จ ก็โทรไปจิก นั่นแน่ ไม่ยอมรับมือถือเร๊อะ นี่เลย แม่ตามไปจิกที่เบอร์ออฟฟิศ พ่อรับสายอารมณ์เสีย บอกว่า งานยุ่ง แต่เด๋วจะไป เอ้า แม่ลูกก็รอไปๆๆๆ เกือบชั่วโมง ไมยังไม่มา ในที่สุด พ่อโทรเข้ามา "เธออยู่ไหนอ่ะ" "อ้าว ก็นั่งรออยู่ที่บ้านนี่ไง" ตอบไปแล้วแม่ก็ถึงนิพพานทันที พ่อขับรถตรงไปที่พาร์คเลยละสิเนียะ
เฮ้อ พ่อลมเสียสุดๆ ปิดสายไปเลย
อ้าว ความผิดใครละเนียะ แม่รีบตาลีตาเหลือกออกรถแบบขวัญกระเจิง เพราะไม่รู้จักทาง และมันจวนเวลาเลิกงานแล้วด้วย เค้าเลิกกันทุ่มนึง นี่มันหกโมงก่าๆ แระ บุญพระรักษา แม่ไม่หลงใหลไปทางอื่นเลย
ไปถึงน้าจูเลีย แม่ของจินเจอร์ ออกมาต้อนรับขับสู้ตามเคย เพื่อลดความประหม่า แต่นั่นแหละนะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ยังไงๆ เราก็ต้องโซเชียลด้วยตัวเราเองนะ
แม่งัดเอายากิโซบะมาเรียกความสนใจ ก็เห็นเค้าเฉยๆ กันนะ เดาว่า เพราะเรามาตอนงานจะเลิกเนียะ เค้าคงอิ่มกันหมดแล้ว ที่ไหนได้ แม่เม้าท์กะน้าจูเลียไปสักพัก หันมา ยากิโซบะหม้อยักษ์เหลืออยู่จิ๊ดดดเดียว แม่แอบคิดในใจ "กินของฉันไปแล้ว ช่วยกันให้ความอบอุ่นลูกฉันด้วยเด้อ"
ขากลับ แม่คิดสงสารนู๋อยู่เหมือนกัน เคยเป็นจุดสนใจที่อีตัน ต้องมาเริ่มต้นใหม่ เอานะ ลูก สู้ๆๆ
Create Date : 29 กรกฎาคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2554 11:41:04 น. |
Counter : 766 Pageviews. |
|
|
|
ข้อความก๊อบมาจากเพจที่แล้ว
"ฮือๆ เกลียดแลปท๊อบตัวนี้ พิมพ์ๆไว้หายไปไหนอ่า
เอาใหม่ๆ ไนโตรนิคนี่มีชิวิตคล้ายๆกะปีเตอร์ พาร์คเกอร์นะคะ สไปเดอร์แมน เรียนเก่งแต่จน แล้วก็สนใจเรื่องวิทยาศาสตร์ (อ่านนิดเดียวตีความไปโน่น)
แล้วตกลงนู๋มรรคเรียนที่ไหนคะ หรือว่าอ๋อยตกข่าว เค้าปล่าวน๊า แต่นู๋มรรคน่ารัก เรียบร้อย กระตืนรือร้นที่จะเรียน ไปอยู่ที่ไหนๆก็มีแต่คนรักแหละค๊า
บุญรักษาค่ะ"
ขออภัยค่ะ ความเสร่อไม่เข้าใครออกใคร