Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
21 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
เที่ยว เม้าท์ เรนเนียร์

เออแน่ะ เรียกพ่อนู๋นับร้อยหน อยากไปเที่ยวเม้าท์เรนเนียร์ด้านจุดชมวิวซันไรส์ เป็นจุดที่อยู่ตรงข้ามกับจุดพาราไดซ์ ซึ่งพวกเราไปเที่ยวกันมาเมื่อ สองปีที่แล้ว พ่อไม่สนใจเลย จนกระทั่ง มีเด็กอินเทอร์นที่ทำงาน ทำงานเสร็จจะกลับดีซี วันอาทิตย์นี้ พ่อนู๋รีบจัดทริปเม้าท์เรนเนียร์ให้ทันใจเลย

พ่อใจดีมาก นัดพี่แอร่อนตั้งแต่เช้าตรู่ พ่อขับรถหลงหลายเลี้ยวเหมือนกัน เป็นเพราะพูดมากขณะขับรถ จีพีเอส ยังเอามะอยู่อ่ะ คิดดู
เรื่องที่พูดส่วนใหญ่จะเป็นประวัติเก่าๆ ของพ่อที่แม่ฟังมาหลายรอบละ ตั้งแต่ตอนจีบกันใหม่ๆ มันฟังดูดีมากเลยแหละ แต่ฟังหลายๆ รอบ ชักเอียน 55 ยิ่งถึงช่วงที่พ่อเล่าความสามารถในการเลี้ยงพี่โทโมเอะ และพี่มากิเอะนั้น แม่แทบจะหลุดหัวเราะออกมา ต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปบอกพี่แอร่อนว่า ตอนนี้ พ่อแก่มากแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่รีพีทตัวเอง มรรคณิชานี่ เมด บาย ไทย อย่างเดียวล้วนๆ

อือม์ แม่รู้ละ สิ่งเดียวที่นู๋ได้มาจากพ่อเต็มๆ คือ นิสัยพูดจนเฉาของนู๋แล



ทางเดินจุดซันไรส์แคบมาก แต่ได้อารมณ์อลังการดี ข้างขวาเป็นวิวยอดเม้าท์เรนเนียร์ที่ปกคลุมด้วยหิมะ คนเมาเดินไม่ได้เด็ดขาด จะหล่นลงข้างทางที่เป็นเหวแน่นอน เวลานักท่องเที่ยวจะเดินสวนกัน จึงต้องมีมารยาท ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหลบข้างทางให้กัน ส่วนข้างซ้ายเป็นวิวทิวเขาหน้าร้อน มีต้นสน ทะเลสาป และหิมะเป็นหย่อมๆ นิดๆ สวยกันคนละแบบ ถ้ามีแรงชื่นชน ไม่หอบแฮ่กๆ เป็นหมาหอบแดด

ระยะทางเดินของวันนี้ จากจุดจอดรถไปถึง จุดชมวิว "ทะเลสาบน้ำแข็ง" ก็แค่ 3.8 ไมล์ เกือบจะเดินไปไม่ถึงแล้วละ เพราะนู๋ออกลายเสียก่อน ทำท่าจะไม่ยอมไปเอา พอถึงจุด sourdough แม่มองลงไป เห็นหย่อมน้ำแข็ง เหมือนแอ่งทะเลสาป ก็ถามพ่อว่า เนียะถึงแล้วนิ
พ่อบอก ไม่ใช่ต้องไปอีก 1 ไมล์ นี่เราใกล้ถึงแล้วนะ ตกลงไปหรือไม่
แม่ตอบฉะฉาน ไปสิ แต่เธอต้องเป็นคนดูมรรคณิชานะ
จริงๆ ประกาศแบบนี้มาตลอดทาง แต่ไม่ได้รับความสนใจ
พ่อทำเป็นหัวเราะหึๆ
แม่เลยบอกว่า เนียะดูหย่อมตรงนี้ไปก็เหมือนกัน ไม่ต้องไปแล้ว ฝรั่งที่นั่งหอบแดดแถวนั้นฮากันครืน กับท่าที่แม่พยายามชะโงกมองอีกฟากของภูเขา

นะ
ใครจะห้ามพ่อนู๋ได้ พ่อเค้าก็หน้าด้านๆ เดินไปอยู่ดีแหละ

ความซวยจึงตกที่แม่ ต้องเอานู๋ใส่หลัง เดินขึ้นเขา แหม๋ ความหลังสมัยไปเที่ยวแคนาดา ไหลเข้ามาในหัวทันที ผิดกันแค่ ตอนนี้ นู๋น้ำหนักขึ้นมาในรุ่นไลท์เวทแย้ว

แม่ว่า ที่นู๋เหนื่อยกว่าปกติ เพราะนู๋เดินไปพูดไปแน่ๆ แถมพอแม่บอกว่า หัวใจแม่เต้นแรงเชียว นู๋ก็ได้ช่อง มีเรื่องบ่นเพิ่มอีกเรื่อง ไม่บ่นเปล่า พยายามเรียกใครต่อใครมาจับหัวใจนู๋อีก ครั้นแม่เข้าไปพิสูจน์ (จับด้านขวา)
"ไม่เห็นเป็นไรนิ ปกติดี"
"โอ๊ย แม่ หัวใจใครอยู่ข้างขวากันละ"
แน๊ มานรู้จักอนาโตมีด้วยเร๊อะ

พอแม่จับนู๋ขึ้นหลัง แม่เลยจุ๊ปาก ประมาณว่า หากขึ้นนู๋ยังพล่ามต่อ แม่จะเหวี่ยงนู๋ลงเขาไปเด๋วนั้นเลย

ดีใจจริง ที่พ่อหน้าด้าน
เพราะพอมาถึงจุดชมวิว "ทะเลสาบน้ำแข็ง" แม่ถึงกะอุทาน มันสวยงามมากจริงๆ เหมือนยืนดู ทะเลน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ยังไงยังงั้น น้ำทะเลสีฟ้าสวยสดใสตัดกับน้ำแข็งสีขาว
แม่ลูกโดนเรนเจอร์เตือนเล็กน้อย เพราะดันไปยืนถ่ายรูปเลยก้อนหิน ซึ่งขอบอกว่า ดูยากมาก และเห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นเค้าก็ยืนกัน ทำไมมาดุเอาแต่แม่ลูกคู่เราละเน๊อะ แต่แม่ไม่โกรธนะ ร่วมมือเต็มที่ เพราะต้นไม้ต้นหญ้าบางต้นของที่นี่ กว่าจะสูงขึ้นมาได้แต่ละ "มิลลิเมตร" ใช้เวลาเกือบร้อยปีก็มีนะ

อยากอยู่ดูนานๆ (แบบพักเหนื่อยไปด้วย) แต่นู๋ไม่ร่วมมือ พ่อก็รู้ตัวด้วยแหละ ว่า งานนี้ลูก (และคุณนายแม่) ไม่ไหวจะเคลียร์แย้ว เพราะระหว่างทางแม่ใจดีให้น้ำดื่มเยอะแยะ นู๋เลยต้องไปห้องน้ำอย่างมาก บ่นมาตั้งแต่หลักกิโลแรกแล้วละ แม่จัดแจงรอปลอดคน แล้วเรียกให้นู๋ยองๆ ลงไป นู๋ไม่ยอมทำเด็ดขาด เรียกยังไงก็ไม่ยอม

ในที่สุด ขากลับ เราเปลี่ยนแผน เป็นแผนที่แม่แกล้งคิดดังๆ มาตลอดทาง คือ แม่ลูกเดินกลับไป ศูนย์นักท่องเที่ยวด้วยกัน ปล่อยให้พ่อกับพี่แอร่อนเดินกลับไปทางเดิมไปเอารถ

ระหว่างทางเดินลงเขา นู๋ลดอิทธิฤทธิ์ลงไปมาก ไม่รู้เพราะเราเดินตามหลังคนขาพิการ หรือเปล่านะ (ขาขาดข้างหนึ่ง ใส่ขาปลอมมา ดูแล้วอึดมากเลย ขนาดคนขาดี เวลาเดินลงขั้นบันไดเขา น้ำหนักที่หยั่งลงไปยังปวดเมื่อยซ้า) นู๋เลยเริ่มจะมีจิตสำนึก พอนู๋จะเริ่มกลับไปวีน แม่ก็ชวนคุยเรื่องตลกๆ ก็รู้สึกจะช่วยให้นู๋กลั้นฉี่ได้เยอะเหมือนกัน

ลงเขาได้ วิ่งเข้าห้องน้ำก่อนเลย
พอสบายช่วงล่างปุ๊บ แม่พาไปร้านอาหารของศูนย์ บรรยากาศไม่ค่อยดี ดำๆ มืดๆ สวยงามสู้ที่พาราไดซ์ไม่ได้ แต่นักท่องเที่ยวต่างเหนื่อยกันมา ก็มีที่พึ่งแค่ที่นี่ แม่จัดแจงเข้าแถว ซึ่งยาวมั่กๆ เพื่อซื้อน้ำหวานๆ และชิพให้นู๋กินพอเรียกพลังงานกลับมาบ้าง
แน่นอน
พลังงานกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะนู๋เริ่มจ้อไม่หยุด และออกปากชวนแม่ไปดูที่ศุนย์ข้อมูล ไม่ใช่อะไรหรอก นู๋เล็งจะช็อปปิ้งนะเซ่ ร้ายเจงๆ

ยังเดินดูข้อมูลไม่หมด พ่อก็มาก่อน หอบแฮ่กๆ เชียว เอ้า กลับๆๆ

สงสารแต่พี่แอร่อน พรุ่งนี้ต้องเดินทาง ดันมาทรมานแข้งขาตัวเองซะงั้น


Create Date : 21 สิงหาคม 2554
Last Update : 21 สิงหาคม 2554 12:37:45 น. 4 comments
Counter : 730 Pageviews.

 
สวัสดีครับ แวะมาทักทายครับผม
อิอิ


โดย: konseo วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:12:55:35 น.  

 
โอ๊ย..เข้ามาชื่นชมความรักของแม่ที่มีต่อหนูจริงๆเลย น้านุ้ยก็เชื่อว่าตอนนี้หนูต้องตัวใหญ่ตัวยาวและหนักกว่าเดิมมากมาย ว่าแล้วก็เป็นห่วงเจ๊จัง มีปวดหลังหรือเปล่านั่น จริงๆตั้งแต่เริ่มอ่านมาได้ไม่กี่บรรรทัดยังคิดเลยว่าทางราบเรียบหนูยังเกี่ยงงอนไม่ค่อยยอมเดิน นี่ไปเดินทางที่เป็นเม้าท์เทิ่นหนูจะเดินหรือนั่น ว่าแล้วก็ทายถูกจริงๆ น้านุ้ยอยากเห็นหนูอึดขึ้นอีกหน่อย แม่จะได้ไม่ลำบากเน้อ ลองดูนะ สู้ๆนะ


โดย: นาริจัง IP: 180.144.115.212 วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:11:22:20 น.  

 
แรกๆ ก็คิดว่าเกี่ยงงอนอยู่เหมือนกัน + มรรคเป็นเด็กวิวเพาวเวอร์ต่ำ (ถึงต่ำสุด) เลยยอมแพ้ง่ายๆ วันนั้น พี่ก็สงสารลูกด้วย คิดว่า ก็คงมีส่วนเมื่อยมั่กๆ ด้วย เพราะเราผู้ใหญ่ยังเมื่อยเลย ถึงได้ยอมแบกภูเขา 55

มรรคโตแล้วเห็นน้านุ้ยเขียนงี้ คงซึ้งน่าดูเลย

ตอนที่ไปพักในร้านอาหาร พี่ซื้อชิพให้กิน เค้าชอบมาก พอพี่แบมือขอชิ้นนึง ชีรีบเอาถุงหลบ "นู๋กลัวแม่กินหมด" (เพราะมรรคเห็นซีนแม่ดวกชิพบ่อยๆ 55)
พี่ก็หัวเราะหึๆ บอกว่า
"ต๊าย มะกี๊ไม่น่าแบกลงเขามาด้วยเร้ย"
โชคดีมั่กๆ พูดแค่นี้ จิตสำนึกด้านดีเริ่มทำงาน เจียดมาให้พี่กินด้วยกัน ขนาด พอใกล้จะหมด ยังยื่นให้แม่กิน พี่งี้ รู้สึกซึ้งสุดขีด เพราะชีต้องตัดใจอย่างมากเลยนะนั่น


โดย: มรรคณิชา วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:51:35 น.  

 
เฮ้อ หายไปนานคิดถึงนะคะนี่

นู๋มรรคเป็นเด็กมารยาทดีแล้วก็สุภาพด้วยอ่ะ เด็กฝรั่งแถวนี้เห็นผมทองตาสีฟ้ามานั่นนะตัวร้ายเลย ยิ่งเจอในซุปเปอร์มาเก็ตแล้วด้วยแล้วอยากเอามันฝรั่งยัดปาก อุ๊ย แหะๆ กลายเป็นบ่น

อ๋อยว่าคุณตาต้องเขียนหนังสือภาษาไทย ฮาวทู เด็กลูกครึ่งไทย เลี้ยงยังไงดีมัียคะ จะขอลายเซ็นต์เอามานอนไว้ก่อน จะได้ไม่นอย

แอบเห็นคุณแม่สองคนคุยกันหนุงหนิง ไม่น่าเชื่อว่าบล๊อคแก๊งค์จะช่วยให้คนหลายๆคนที่อยู่คนละซีกโลกมาเจอกันเป็นเพื่อนกันได้นะคะ :)


โดย: มารน้อย IP: 87.114.213.248 วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:4:19:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มรรคณิชา
Location :
Sleepless in Seattle United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีคะ
นู๋ชื่อ มรรคณิชา.... เรียกนู๋เต็ม ๆ นะคะ เพราะนู๋ไม่มีชื่อเล่นคะ ... อยากรู้จักนู๋ ก็ต้องตามไปช่วยอ่าน ช่วยคอมเม้นต์นะคะ แม่นู๋จะได้มีกำลังใจ
แก้ไขเพิ่มเติมคะ....
มีคุณน้า คุณพี่ หลายคนมักถามคุณแม่เสมอๆ ว่า "ชื่อของนู๋ แปลว่าอะไร"
บอกเลย ไม่เล่นตัว...อิอิ
มรรค มาจากคำว่า "มรรค 8" ในศาสนาพุทธไงคะ...คุณแม่คงอยากเห็นนู๋เป็นเด็กดี...แถมเวลาสะกดเป็นภาษาปะกิต คุณแม่ใช้ชื่อคุณพ่อสะกดซะเลย...งานนี้ คุณพ่อหน้าบานคะ
ส่วน ณิชา แปลว่า บริสุทธ์
พอมารวมกะ "มรรค" ชื่อนู๋เลยเก๋กู๊ดซ้า

แก้ไขเพิ่มเติม (อีก 5/29/2011)
แขกเค้ามีดาราหญิงชื่อ มานิชา คล้ายชื่อนู๋มากเลย แรกๆ แม่ก็ปลื้มหรอกนะ แต่หลังๆ ชักหวั่นไหว เพราะเพื่อนร่วมงานของพ่อชื่อนี้เปี๊ยบ เป็นตัวป่วนที่ทำคุณพ่อปรี๊ดส์บ่อยๆ

แม่พบว่า เด๋วนี้ เวลาเรียกมรรคณิชาเต็มๆ คือการทำเสียงเข้ม ในเหตุการณ์ปกติ แม่เรียกนู๋ ว่า "ลูก" "นู๋" หรือ ไม่ก็ "ชิชา" "ชา"
Friends' blogs
[Add มรรคณิชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.