ยูโทเพียไทย
เศรษฐศาสตร์
เพื่อความเป็นธรรม

 

มีคนคิดว่าชาติจะพินาศถ้าเก็บภาษีที่ดินเท่าค่าเช่าที่ควรเป็น


ผมจึงตอบไปดังนี้ครับ (ยินดีให้เผยแพร่ต่อด้วยความขอบคุณ)

แผนเพิ่มภาษีที่ดินพร้อมกับลดภาษีเงินได้ ภาษีการผลิตและค้าสินค้าและบริการ ตามแนวของเฮนรี จอร์จนั้น ผมให้ค่อย ๆ ทำ ใช้เวลา 30 ปี ใกล้เคียงกับแผนเลิกทาสของพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช เมื่อถึงกำหนด 30 ปีภาษีที่ดินจะเท่ากับค่าเช่าตามที่ควรเป็น และเลิกภาษีเงินได้และภาษีการผลิตการค้าได้หมด ตามแบบที่ Prof. Gaffney คิดไว้สำหรับสหรัฐฯ (The Hidden Taxable Capacity of Land: Enough and to Spare 3 ก.ค. 2008 //economics.ucr.edu/papers/papers08/08-12old.pdf )

การค่อย ๆ เพิ่มภาษีที่ดินเช่นนี้จะไม่ทำให้ราคาที่ดินลดพรวดพราดเหมือนตอนฟองสบู่แตกในปี 2540 ของไทย และปี 2551-52 ในสหรัฐฯ และลามมาก่อความเสียหายในไทยจนทั้งคนรวยคนจนถูกผลกระทบย่ำแย่ไปตาม ๆ กัน แต่ถ้าจะทำตามแผนของผม รัฐบาลก็ต้องเตรียนรับมือเรื่องราคาที่ดินลดเหมือนกัน แม้จะไม่หนักหนาเท่าปี 2540 ซึ่งยังจะเบาลงอีกด้วยผลดีและความเป็นธรรมที่เกิดขึ้นดังนี้

ผลดีของการการมุ่งเก็บภาษีที่ดินแทนภาษีแรงงานและทุน
(ภาษีทั้งหลายเก็บจากสิ่งใด ก็มีผลทำให้สิ่งนั้นแพงขึ้น แต่ภาษีที่ดินมีผลตรงข้าม)
1. ให้เสรีมากขึ้น ลดการถูกเรียกตรวจสอบจากเจ้าพนักงานภาษีของรัฐ เพราะเหลือแต่ภาษีที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

2. คำว่า “มนุษย์เกิดมาเท่าเทียมกัน” เป็นจริงมากขึ้น เพราะภาษีที่ดินแบบนี้ทำให้ทุกคนดุจเป็นเจ้าของที่ดินเสมอภาคกัน ใครทำงาน ใครลงทุน ได้เท่าไรก็เป็นของเขาทั้งหมด โดยตัดความได้เปรียบเสียเปรียบจากการได้ครอบครองที่ดินมากน้อยดีเลวผิดกัน หรือไม่มีที่ดินเลย ออกไปด้วยภาษีที่ดิน

3. การลด/เลิกภาษีจากแรงงานและทุนเช่นนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก ซึ่งดีกว่าแบบของสหรัฐฯ ที่ทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ทำได้เพียงชั่วคราว มิฉะนั้นรัฐบาลจะเป็นหนี้มหาศาล เพราะไม่ได้เก็บภาษีที่ดินแบบที่ผมเสนอมาชดเชย ซึ่งภาษีที่ดินก็เป็นอีกแรงหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

4. ราคา/ค่าเช่าที่ดินจะลด เพราะที่ดินไม่เสียเปล่ามากมายมหาศาลจากการเก็งกำไรเก็บกักปิดกั้นไว้ (ไปไหน ๆ ก็เห็นแต่ที่ดินมีเจ้าของแล้ว) แต่จะเปิดออกเพื่อหาประโยชน์ให้คุ้มกับที่จะต้องเสียภาษีที่ดิน รวมทั้งให้เช่า หรือทำประโยชน์เอง หรือมิฉะนั้นก็ขายให้แก่ผู้ที่เห็นทางหาประโยชน์ การทำประโยชน์ก็มักต้องหาคนมาทำงานให้ เจ้าของที่ดินต่างคนต่างต้องทำอย่างนี้ ก็เกิดแข่งขันกันเอง การว่างงานจะลด ค่าแรงจะเพิ่ม ผลตอบแทนต่อการใช้ทุนก็เพิ่ม

5. ซ้ำแรงงานและทุนไม่ต้องเสียภาษีทางตรงจำพวกภาษีเงินได้ หรือเสียน้อย จึงมีรายได้สุทธิเพิ่ม

6. สินค้าจะมีราคาถูก เพราะการลด/เลิกภาษีทางอ้อมจำพวกภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรสรรพสามิต และอากรขาเข้า ความสามารถแข่งขันกับต่างประเทศจะสูงขึ้นด้วย และต่างชาติจะนิยมมาลงทุนและเที่ยวไทย แบบฮ่องกง สิงคโปร์ (ที่เป็นปัญหาก็คือแรงงานต่างด้าวจะทะลักเข้าไทย ต้องป้องกันให้ได้ผลมากกว่าปัจจุบัน)

7. เกิดความคล่องตัวในการย้ายถิ่นฐาน เพราะทั้งที่ดินและบ้านจะมีราคา/ค่าเช่าถูกลง และหาได้ง่ายขึ้น ที่ดินในเมืองจะได้รับการใช้ประโยชน์มากขึ้น มีบ้าน แฟลต คอนโดให้เช่ามากขึ้น ค่าเช่าต่ำลง ปัญหาการเดินทางเช้าเข้าเมืองเย็นกลับออกนอกเมืองที่ติดขัดอัดแอเสียเวลามากจะบรรเทาลง ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรมหรือชุมชนแออัดในเมืองจะบรรเทาลงเช่นเดียวกัน

8. กรณีพิพาทขัดแย้งแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินจะลดลงมากโดยอัตโนมัติ (ถ้าเก็บภาษีที่ดินเท่าค่าเช่าศักย์ ราคาที่ดินจะเป็นศูนย์หรือเกือบศูนย์ คนเราจะเลือกซื้อที่ดินให้เหมาะกับความต้องการได้ง่าย แม้ราคาที่ดินจะเป็นศูนย์ เอาเป็นหลักทรัพย์ค้ำกู้ไม่ได้ แต่การซื้อขายที่ดินเองก็คงไม่ต้องกู้แล้ว และก็จะทำให้คนเรากู้หนี้เพื่อลงทุนอย่างอื่นเกินตัวไม่ได้ ถูกหลักเศรษฐกิจพอเพียง)

การเก็บภาษีที่ดินเพิ่ม และเลิกภาษีอื่น ๆ มีความเป็นธรรม
1. ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ต้องมีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและทำกิน เพราะถ้าไม่มี เขาตาย

2. ไม่มีมนุษย์คนไหนลงแรงหรือลงทุนผลิตหรือสร้างที่ดินขึ้นมา จึงไม่ควรมีใครอ้างว่ามีสิทธิ์ในที่ดินเหนือผู้อื่น

3. มูลค่าของที่ดินส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะที่ดินย่านชุมชนซึ่งมีราคาสูง) เกิดจากกิจกรรมของส่วนรวมที่แยกไม่ออกว่าเป็นของคนไหนเท่าไรและจากภาษีที่เก็บเอาไปสร้างสิ่งสาธารณูปโภค แต่ที่แน่ ๆ คือมูลค่าที่ดินไม่ได้เกิดจากบุคคลในฐานะเจ้าของที่ดิน (ยกเว้นการเก็งกำไรที่ดิน) เจ้าของที่ดินอาจลงแรงลงทุนก่อสร้างดัดแปลงและทำการผลิตหรือค้าในที่ดินของตนเอง แต่ที่ทำเช่นนั้นเขาทำในฐานะผู้ลงแรงและหรือผู้ลงทุน ซึ่งเขาควรได้รับผลตอบแทนจากการลงแรงหรือลงทุนของเขาเต็มที่ ส่วนประโยชน์จากมูลค่าที่ดินควรเป็นของส่วนรวม (แต่ไม่ใช่เอาที่ดินมาแบ่งกันเพราะที่ดินมีมูลค่าแตกต่างกันตามทำเลและสภาพอื่น ๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งให้ผลตอบแทนแก่การลงแรงลงทุนต่างกัน และจะต้องแบ่งกันไม่รู้จบเพราะคนในครอบครัวมีตายมีเกิดทำให้จำนวนเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ)

4. การซื้อที่ดินมิใช่การลงทุนที่แท้ คือลงทุนผลิตของกินของใช้ (โภคทรัพย์) หรือเครื่องมือช่วยการผลิต (ทุน) แต่เป็นการซื้อสิทธิ์สืบต่อตามกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเพื่ออำนาจเรียกแบ่งผลตอบแทนจากผู้ทำงานและผู้ลงทุน และการเก็งกำไรกักตุนที่ดินกันไว้มาก ๆ ทำให้ที่ดินแพง ค่าแรงต่ำ หางานทำยาก คนจนก็เดือดร้อนยิ่งขึ้น

5. การเก็บภาษีจากรายได้จากการลงแรงลงทุนผลิต (รวมทั้งจำหน่าย) ไม่ยุติธรรม เพราะเป็นการเอาจากแต่ละคนไปบำรุงส่วนรวม แต่ควรเก็บจากมูลค่าที่ดินเพราะมูลค่าที่ดินเกิดจากกิจกรรมของส่วนรวมและสิ่งอำนวยความสะดวกรวดเร็วทั้งของรัฐและเอกชนที่หวังผลกำไร และภาษีมูลค่าที่ดินจะขจัดความได้เปรียบเสียเปรียบกันเนื่องจากการได้ครอบครองที่ดินมากน้อยดีเลวผิดกันออกไปด้วย

เก็บภาษีที่ดินเท่าค่าเช่าที่ควรจะเป็น ค่าเช่ายังมีอยู่ แต่จะลดลงกว่าเดี๋ยวนี้เพราะไม่มีปัจจัยการเก็งกำไร ส่วนราคาที่ดินจะเป็นศูนย์เพราะเจ้าของจะไม่ได้ค่าเช่า (รัฐเก็บภาษีเท่าค่าเช่าที่ควรเป็น ไม่ว่าเจ้าของจะทำประโยชน์ในที่ดินอย่างไรหรือไม่)

ที่ดินมีราคาศูนย์หรือใกล้ศูนย์ คนเราก็ซื้อขายที่ดินกันได้ง่าย การใช้ที่ดินจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นใหญ่หลวง ส่วนการกู้หนี้ยืมสินทำได้ยากเพราะไม่มีที่ดินค้ำประกัน ก็คงต้องใช้วิธีสหกรณ์ช่วย หรือเอาอาคาร เครื่องจักรกลค้ำประกันแทน แต่ก็ดีไปอีกอย่างหนึ่ง คือคนจะไม่ต้องหมดตัวเพราะถูกยึดที่ดินอย่างที่เป็นมาเรื่อย ๆ ในระบบคนกินคนเช่นปัจจุบัน

วิธีของผมคือการนำที่ดินกลับมาเป็นผลประโยชน์แก่ทุกคนเท่าเทียมกัน แทนที่จะเป็นความมั่นคงของบางคน

ถ้าไม่แก้ไขให้เกิดผลดีและความเป็นธรรมเช่นนี้ มนุษย์ส่วนหนึ่งก็จะยังต้องยากจนต่อไป และโลกเราก็จะต้องเผชิญความเสียหายทางการเงินมหาศาลเป็นระยะ ๆ อย่างที่เป็นมาแล้ว เพราะการเก็งกำไรที่ดิน ซึ่งในสหรัฐฯ วัฏจักรฟองสบู่อสังหาฯ จะเกิดราวทุก 18 ปี (//foldvary.net/works/geoaus.html )

จาก สุธน หิญ //utopiathai.webs.com




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 22:31:23 น.
Counter : 551 Pageviews.  

ภาษีเดี่ยวคืออะไรและทำไมเราจึงเร่งให้ใช้

(ยินดีให้เผยแพร่ต่อได้ด้วยความขอบคุณ สุธน หิญ แปล มิ.ย. 53 จากบทความเรื่อง The Single Tax: What It Is and Why We Urge It โดย HENRY GEORGE //www.schalkenbach.org/library/george.henry/SingleTax.htm ตีพิมพ์ใน The Christian Advocate ค.ศ. 1890 และมีการพิมพ์ซ้ำในนิตยสารต่าง ๆ ในสหรัฐฯ และอังกฤษ)

ข้าพเจ้าจะกล่าวสั้น ๆ ถึงหลักการพื้นฐานของสิ่งที่พวกเราผู้สนับสนุนเรียกว่า ภาษีเดี่ยว (Single Tax)
เราเสนอให้ยกเลิกภาษีทุกชนิด ยกเว้นภาษีอย่างเดียวที่คิดจากมูลค่าที่ดิน โดยไม่รวมมูลค่าของสิ่งปรับปรุง (improvements)
สิ่งที่พวกเราเสนอมิใช่ภาษีอสังหาริมทรัพย์ (real estate) เพราะอสังหาริมทรัพย์หมายความรวมถึงสิ่งปรับปรุง ทั้งมิใช่ภาษีที่ดิน เพราะพวกเราจะไม่เก็บภาษีจากที่ดินทุกแห่ง จะเก็บภาษีแต่เฉพาะที่ดินซึ่งมีมูลค่า โดยไม่คิดรวมสิ่งปรับปรุง และจะเก็บตามส่วนกับมูลค่านั้น
แผนของเรามิใช่การเก็บภาษีชนิดใหม่ เพราะเราได้เก็บภาษีมูลค่าที่ดินอยู่แล้วในภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เป็นไปตามนี้ เราเพียงแต่ต้องยกเลิกภาษีทุกชนิด ยกเว้นภาษีอสังหาริมทรัพย์ และยกเลิกภาษีทุกส่วนของภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่คิดจากโรงเรือนหรือสิ่งปรับปรุง ให้เหลือแต่ส่วนที่คิดจากที่ดินเปล่าในขณะนี้เท่านั้น โดยเก็บเพิ่มให้ใกล้เคียงกับค่าเช่าทางเศรษฐกิจทั้งหมด หรือสิ่งที่บางครั้งก็เรียกว่า “มูลค่าที่ดินส่วนที่เพิ่มขึ้นเองโดยมิได้ลงแรงลงทุน” (unearned increment of land values)
ไม่มีข้อสงสัยที่ว่ามูลค่าของที่ดินอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะให้รายได้สาธารณะที่จำเป็นทั้งหมด ทั้งในระดับเทศบาล เทศมณฑล (county) มลรัฐ และระดับชาติ
เพื่อแสดงโดยย่อว่าทำไมพวกเราจึงเร่งให้ทำการเปลี่ยนแปลงนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึง (1) ประโยชน์ (expediency) และ (2) ความยุติธรรม
________________________________________
จากภาษีเดี่ยว เราอาจคาดหวังได้ถึงประโยชน์ต่อไปนี้:
1. ไม่ต้องมีกองทัพเจ้าพนักงานภาษีและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งต้องใช้ในระบบภาษีปัจจุบัน ดังนั้น เงินที่ได้เข้าคลังของรัฐจะมีอัตราส่วนสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับภาษีที่เก็บได้จากประชาชน ขณะเดียวกัน การทำให้ส่วนการปกครองง่ายขึ้นและราคาถูกลง จะมีแนวโน้มทำให้มันบริสุทธิ์ขึ้น ระบบภาษีเดี่ยวจะขจัดบรรดาภาษีซึ่งส่งเสริมการฉ้อฉล การเบิกความที่เป็นเท็จ การให้สินบน และ การฉ้อราษฎร์บังหลวง (fraud, perjury, bribery, and corruption) ซึ่งชักพามนุษย์เข้าหาสิ่งยั่วใจ และซึ่งบั่นทอนสิ่งที่ยากที่สุดที่ชาติของเราจะยอมเสียไป นั่นคือ ความสุจริต และ มโนธรรม (honesty and conscience) โดยที่ที่ดินนั้นแบหราอยู่กลางแจ้ง จะย้ายหนีไปก็ไม่ได้ และประเมินมูลค่าได้ง่ายกว่ามูลค่าของสิ่งอื่น ภาษีมูลค่าที่ดินจึงสามารถจัดเก็บได้โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดและเป็นผลเสียต่อศีลธรรมของประชาชนน้อยที่สุด
2. การผลิตเศรษฐทรัพย์จะเพิ่มขึ้นมหาศาล
ก. โดยการขจัดภาระที่ขณะนี้ตกหนักอยู่กับความอุตสาหะและความมัธยัสถ์ ถ้าเราเก็บภาษีจากบ้าน จะมีบ้านน้อยลงและคุณภาพต่ำลง ถ้าเราเก็บภาษีเครื่องจักรกล จะมีเครื่องจักรกลน้อยลง ถ้าเราเก็บภาษีการค้า จะมีการค้าน้อยลง ถ้าเราเก็บภาษีทุน จะมีทุนน้อยลง ถ้าเราเก็บภาษีเงินออม จะมีการออมน้อยลง ดังนั้นภาษีทั้งปวงที่เราควรยกเลิกก็คือภาษีซึ่งกดถ่วงความอุตสาหะและลดเศรษฐทรัพย์ แต่ถ้าเราเก็บภาษีมูลค่าที่ดิน ที่ดินจะไม่ลดน้อยลง
ข. ตรงกันข้าม การเก็บภาษีมูลค่าที่ดินจะมีผลให้อุตสาหกรรมหาที่ดินได้ง่ายขึ้น เพราะภาษีนี้จะทำให้เป็นการยากขึ้นสำหรับเจ้าของที่ดินที่มีมูลค่า (ซึ่งตนเองไม่สนใจที่จะใช้) ที่จะเก็บกักเอาไว้เฉย ๆ เพื่อหวังราคาที่จะสูงขึ้นในอนาคต ขณะ เดียวกัน การยกเลิกภาษีที่เก็บจากแรงงานและผลผลิตของแรงงานจะเป็นการปลดปล่อยส่วนของการผลิตที่เป็นฝ่ายกระทำ (active) การเก็บภาษีมูลค่าที่ดินจะปลดปล่อยส่วนที่รับการกระทำ (passive) โดยทำลายการสูงขึ้นของมูลค่าที่ดินเพราะการเก็งกำไรและโดยป้องกันการกักตุนที่ดินไว้แทนที่จะให้ที่ดินได้รับการทำประโยชน์ ถ้าเรามองไปรอบ ๆ เห็นที่ดินที่มิได้ใช้ประโยชน์หรือใช้เพียงครึ่งเดียว แรงงานที่ว่างงาน ทุนที่มิได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ไม่คุ้มค่า ก็จะคิดได้ว่าการผลิตเศรษฐทรัพย์จะเพิ่มขึ้นมหาศาลเพียงไรถ้าพลังทั้งปวงแห่งการผลิตได้รับการปลดปล่อยออกมาเพื่อทำการผลิต
ค. การเก็บภาษีจากกระบวนการผลิตและผลผลิตของแรงงานด้านหนึ่ง และการเก็บภาษีมูลค่าที่ดินน้อยเกินไปอีกด้านหนึ่งทำให้เกิดการกระจายเศรษฐทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งสะสมมากขึ้นในมือของไม่กี่คน โชคลาภซึ่งมีขนาดใหญ่โตยิ่งกว่าที่โลกได้เคยเห็นมา ในขณะที่มวลชนของเรากลับยากจนยิ่งกว่าเดิมลงเรื่อย ๆ ภาษีเหล่านี้ตกหนักแก่คนจนมากกว่าคนรวย ด้วยการทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ทุนที่ใช้ในธุรกิจทุกวงการก็ต้องมากขึ้น ดังนั้นทุนใหญ่ก็ได้เปรียบ และทำให้เกิดความได้เปรียบเป็นพิเศษและอำนาจผูกขาดแก่การรวมหัวและการผูกขาด ซึ่งในบางกรณีก็เป็นการจงใจ ในอีกด้านหนึ่ง การเก็บภาษีมูลค่าที่ดินน้อยไปก็ทำให้ผู้คนสามารถทำกำไรได้งดงามด้วยการเก็งกำไรกักตุนที่ดินและการที่ที่ดินมีราคาสูงขึ้น – โชคลาภซึ่งมิได้เกิดจากการเพิ่มใด ๆ ให้แก่เศรษฐทรัพย์ทั่วไปของประชาคมเลย แต่แค่เกิดจากบางคนยึดถือเอาสิ่งที่แรงงานของผู้อื่นสร้างขึ้น
การกระจายเศรษฐทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรมนี้ ในด้านหนึ่ง ได้ทำให้เกิดชนชั้นหนึ่งซึ่งไม่ได้ทำงานและสูญเปล่า (idle and wasteful) เพราะพวกเขาร่ำรวยมากเกินไป และในอีกด้านหนึ่ง ได้ทำให้เกิดชนอีกชั้นหนึ่งซึ่งไม่ได้ทำงานและสูญเปล่าเพราะพวกเขายากจนมากเกินไป มันพรากทุนและโอกาสไปจากผู้คน ซึ่งมิฉะนั้นก็จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพ นั่นจึงทำให้การผลิตลดลงอย่างมาก
ง. การกระจายเศรษฐทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้เรามีเศรษฐีที่รวยเป็นร้อยเท่าในด้านหนึ่ง และคนจรจัดและยาจกในอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดขโมย นักพนัน และกาฝากสังคมทุกชนิด ต้องเสียค่าใช้จ่ายและพลังงานมากมายในการจัดยาม ตำรวจ ศาล คุก และวิธีอื่น ๆ ในการป้องกันและปราบปราม มันปลุกความโลภและการบูชาความมั่งมีและการดิ้นรนอย่างขมขื่นเพื่อการมีชีวิตอยู่ ซึ่งทำให้เพิ่มจำนวนคนเมา ผู้ป่วยโรคจิต และทำให้มนุษย์ผู้ที่ควรจะใช้พลังไปในการผลิตอันสุจริตกลับใช้เวลาและแรงงานของตนไปในการคดโกงและฉกฉวยจากกันเอง นอกจากการสูญเสียทางศีลธรรมแล้ว ทั้งหมดนี้ยังทำให้ต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ซึ่งภาษีเดี่ยวจะช่วยรักษาไว้
จ. ภาษีต่าง ๆ ที่เราจะเลิกนั้นเป็นภาระหนักที่สุดแก่เขตเกษตรที่ยากจน และมักจะทำให้ประชากรและทรัพย์สินย้ายสู่นครใหญ่ ภาษีที่เราจะเพิ่มจะทำลายการผูกขาดที่ดินซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของการกระจายประชากรแบบที่แออัดเกินไปในบางแห่งและกระจายห่างกันเกินไปในแห่งอื่น ๆ ครอบครัวในนครต่าง ๆ ต้องอยู่อาศัยซ้อนกันเพราะมีการกักตุนที่ดินว่างเปล่าไว้จนราคาขึ้นสูงลิ่วจากการเก็งกำไร ส่วนในชนบทพวกเขากระจายอยู่ห่างกันมากเกินไปจนยากที่จะข้องเกี่ยวสัมพันธ์กันทางสังคมและขาดความสะดวกสบาย เพราะแทนที่จะครอบครองที่ดินเพียงเท่าที่จะสามารถทำประโยชน์ได้ ต่างคนก็จะแสวงหาที่ดินให้มากเท่าที่จะสามารถทำได้โดยหวังกำไรจากราคาที่สูงขึ้น และคนต่อ ๆ ไปก็ต้องผ่านเลยห่างออกไป เราจึงมีหลายครอบครัวที่ต้องอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน และครอบครัวอื่น ๆ อาศัยในที่พักในทุ่งหญ้าห่างไกลจากเพื่อนบ้าน นั่นคือ บางส่วนอยู่ชิดกันเกินไปจนเสียสุขภาพทั้งทางศีลธรรม จิตใจ และทางกาย และบางส่วนอยู่ห่างกันเกินไปสำหรับการได้รับอิทธิพลของสังคมที่จะช่วยกระตุ้นและปรับปรุงตน ความสูญเปล่าด้านสุขภาพ ความเข้มแข็งทางใจ และการขนส่งที่ไม่จำเป็น ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง ซึ่งภาษีเดี่ยวจะช่วยรักษาไว้
-------------
ทีนี้กลับไปด้านศีลธรรมและพิจารณาปัญหาความยุติธรรม
สิทธิในทรัพย์สินมิได้ขึ้นอยู่กับกฎหมายที่มนุษย์สร้างขึ้น มนุษย์เองมักจะไม่สนใจและละเมิดกฎหมายเหล่านี้ สิทธิในทรัพย์สินขึ้นอยู่กับกฎธรรมชาติ นั่นคือกฎแห่งพระผู้เป็นเจ้า กฎนี้ชัดเจนและเด็ดขาด และการละเมิดทุกครั้ง ไม่ว่าจะกระทำโดยบุคคลหรือชาติ คือการละเมิดบัญญัติของพระองค์ที่ว่า “เจ้าจงอย่าลักทรัพย์” (Thou shalt not steal.) ผู้ที่จับปลา ปลูกแอ็ปเปิล เลี้ยงลูกวัว สร้างบ้าน ตัดเสื้อ วาดภาพ สร้างเครื่องจักร ย่อมมีกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวในแต่ละสิ่งนั้น ซึ่งทำให้เขามีสิทธิที่จะให้ ขาย หรือทำพินัยกรรมยกให้ใครก็ได้
แต่ใครสร้างโลกซึ่งผู้ใดก็ได้สามารถอ้างกรรมสิทธิ์เหนือโลกหรือส่วนใด ๆ ของโลก หรืออ้างสิทธิที่จะให้ ขาย หรือทำพินัยกรรมยกให้ใครก็ได้ ? โดยที่พวกเราไม่ได้สร้างโลก แต่โลกเป็นเพียงที่พักอาศัยชั่วคราว ที่ซึ่งคนรุ่นหนึ่งมาแทนรุ่นก่อนหน้าเรื่อย ๆ ไป โดยที่เรามาอยู่บนโลก มาอยู่ที่นี่โดยเห็นชัดว่าได้รับพระอนุญาตจากพระผู้สร้างอย่างเท่าเทียมกัน เห็นชัดว่าไม่มีผู้ใดจะได้รับสิทธิพิเศษในกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสิทธิของทุกคนในที่ดินจะต้องเท่าเทียมกันและจะพรากไปไม่ได้ จะต้องมีสิทธิพิเศษในการครอบครองที่ดิน เพราะผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินจะต้องสามารถครอบครองที่ดินได้อย่างปลอดภัยเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแรงงานของเขา แต่สิทธิครอบครองของเขาจะต้องถูกจำกัดด้วยสิทธิเท่าเทียมกันของทุกคน และดังนั้นจึงควรมีเงื่อนไขให้ผู้ครอบครองต้องจ่ายเงินให้แก่ประชาคมเป็นมูลค่าเท่ากับเอกสิทธิ์อันมีค่าพิเศษที่เขาได้รับ
เมื่อเราเก็บภาษีจากบ้าน พืชผล เงินตรา เครื่องเรือน ทุน หรือทรัพย์ในรูปแบบใด ๆ นั่นคือเราเอามาจากปัจเจกบุคคลซึ่งสิ่งอันเป็นของเขาโดยชอบ เราละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน และทำการชิงทรัพย์ในนามของรัฐ
แต่เมื่อเราเก็บภาษีมูลค่าที่ดิน เราเอามาจากปัจเจกบุคคลซึ่งสิ่งอันมิใช่ของเขา แต่เป็นของประชาคม และซึ่งมิสามารถปล่อยให้เป็นของปัจเจกบุคคล โดยไม่เป็นการชิงทรัพย์ของปัจเจกบุคคลอื่น ๆ
ขอให้คิดดูว่ามูลค่าที่ดินคืออะไร มูลค่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับต้นทุนการผลิตเลย ไม่เหมือนกับมูลค่าของบ้าน ม้า เรือ เสื้อผ้า หรือสิ่งอื่น ที่ผลิตด้วยแรงงาน เพราะมนุษย์ไม่ได้ผลิตที่ดิน แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมัน มูลค่าของที่ดินไม่ได้มาจากการใช้แรงงานกระทำต่อที่ดิน เพราะมูลค่าที่เกิดขี้นเช่นนั้นเป็นมูลค่าของสิ่งปรับปรุง (improvement) มูลค่าที่เข้าเกาะติดอยู่กับที่ดินใด ๆ หมายความว่าที่ดินผืนนั้นเป็นที่ปรารถนามากกว่าที่ดินซึ่งราษฎรอื่น ๆ อาจได้รับ และพวกเขายินดีจ่ายมูลค่าพิเศษนั้นเพื่อให้มีสิทธิใช้มัน ดังนั้นเพื่อความยุติธรรม จะต้องมีการเก็บมูลค่าพิเศษนี้มาเพื่อประโยชน์ของทุกคนเพื่อให้ทุกคนได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน

ทีนี้ลองพิจารณาความแตกต่างระหว่างมูลค่าของอาคารกับมูลค่าของที่ดิน มูลค่าของอาคารเกิดจากการใช้แรงงานของบุคคลเช่นเดียวกับมูลค่าของสินค้าหรือสิ่งใด ๆ ที่ถือว่าเป็นเศรษฐทรัพย์ ดังนั้นจึงเป็นของบุคคลโดยชอบ แต่มูลค่าของที่ดินเกิดมีขึ้นตามความเจริญเติบโตและการปรับปรุงดีขึ้นของประชาคมเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นของประชาคมโดยชอบ ที่ดินในนิวยอร์กมีค่าเป็นล้านต่อเอเคอร์ มิใช่เพราะสิ่งที่เจ้าของที่ดินได้กระทำ แต่เป็นเพราะการมีอยู่ของประชากรจำนวนมากทั้งหมด ดังนั้นมูลค่านี้จึงเหมาะที่จะเป็นกองทุนสำหรับออกค่าใช้จ่ายเป็นส่วนรวมของประชากรทั้งหมด เราต้องเก็บมูลค่านี้มาใช้เพื่อการสาธารณะ เป็นการลงโทษปรับฐานก่อให้เกิดการเก็งกำไรและการผูกขาดที่ดินซึ่งจะทำให้เกิดการขาดแคลนเทียมในที่ซึ่งพระผู้สร้างได้ประทานไว้อย่างเหลือเฟือแก่ทุกคนที่เกิดมาเพราะความโอบเอื้อของพระองค์ ดังนั้นการเก็บภาษีจากการใช้แรงงานหรือสิ่งที่แรงงานผลิตจึงเป็นการละเมิดความยุติธรรม และการไม่เก็บภาษีมูลค่าที่ดินก็เป็นการละเมิดความยุติธรรมด้วย
ที่กล่าวนั้นคือเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้เราเร่งให้ใช้ภาษีเดี่ยว โดยเชื่อว่าจะเป็นการปฏิรูปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นพื้นฐานที่สุดของการปฏิรูปทั้งปวง เราไม่คิดว่าการปฏิรูปนี้จะเปลี่ยนสภาพ (nature) ของมนุษย์ มนุษย์จะไม่สามารถเปลี่ยนสภาพเช่นนั้นได้เลย แต่การปฏิรูปจะนำมาซึ่งเงื่อนไขต่าง ๆ (conditions) ซึ่งสภาพของมนุษย์จะสามารถพัฒนาไปในแนวทางที่ดีที่สุด แทนที่จะไปในแนวทางที่เลวที่สุดดังที่เป็นอยู่ขณะนี้ในหลาย ๆ กรณี การผลิตจะเพิ่มขึ้นมหาศาลขนาดที่เราคาดไม่ถึงในขณะนี้ จะเกิดการกระจายเศรษฐทรัพย์อย่างยุติธรรม จะสามารถแก้ไขปัญหาแรงงานและปัดเป่ากลุ่มเมฆดำทะมึนที่รวมตัวกันอยู่เหนือขอบฟ้าแห่งอารยธรรมของเราขณะนี้ ความยากจนอันไม่สมควรจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้จัก ความโลภกระหายกำไรถึงขนาดทำลายจิตวิญญาณจะถูกหยุดยั้ง ผู้คนจะสามารถมีความสุจริต ซื่อส้ตย์ เห็นใจผู้อื่น และมีจิตใจสูงเท่าที่เขาอยากเป็น เป็นอย่างน้อย ความยั่วใจที่จะพูดปด ผิดคำสาบาน ติดสินบน ทำผิดกฎหมาย จะหมดไป ทุกคน แม้แต่คนจนที่สุด จะสามารถเข้าถึงความสะดวกสบาย และการขัดเกลา และโอกาสแห่งอารยธรรมที่ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป ดังนั้นเราจึงเชื่อด้วยความเคารพว่าภาษีเดี่ยวจะถางทางสำหรับการมาถึงของราชอาณาจักรแห่งความถูกต้องและความยุติธรรมนั้น และผลสืบเนื่อง คือการมาถึงของความอุดมสมบูรณ์ และสันติภาพ และความสุข ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้บอกให้สาวกของพระองค์สวดอ้อนวอนและทำงานเพื่อให้ได้มา การที่เรามองหาภาษีเดี่ยวเพื่อให้ทำสิ่งทั้งปวงนี้มิใช่ว่าเพราะมันเป็นการค้นคิดประดิษฐ์ที่ดูว่ามีลู่ทางจะสำเร็จหรือเป็นอุปกรณ์ที่ฉลาดหลักแหลมอะไร แต่เป็นเพราะว่ามันทำให้การปรับแก้ที่สำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานที่สุดของสังคมมีความสอดคล้องกับกฎสูงสุดของความยุติธรรม เพราะว่ามันเป็นการวางส่วนที่สำคัญที่สุดของกฎหมายของเราไว้บนหลักการที่ว่าเราพึงปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกับที่อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา
ข้าพเจ้าอาจจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าท่านผู้อ่านบทความนี้เชื่อเหมือนดังที่ข้าพเจ้าเชื่อ ว่ามีโลกสำหรับเราที่พ้นจากนี้ไป ความจำกัดของเนื้อที่ทำให้ข้าพเจ้าสามารถเขียนได้เพียงแนะบางประการสำหรับคิด ข้าพเจ้าขอเสนอข้อคิดเพิ่มสองข้อเป็นการลงท้าย:
1. จะเกิดผลอะไรขึ้นในสวรรค์เอง ถ้ากลุ่มผู้ไปอยู่ก่อนได้สถาปนาระบบกรรมสิทธิ์เอกชนบนผิวพื้นของสวรรค์ แล้วแบ่งให้เป็นกรรมสิทธิ์เด็ดขาดในกลุ่มของตนเอง เหมือนกับที่พวกเราแบ่งผิวโลก ?
2. โดยที่เราไม่อาจคิดได้ถึงสวรรค์ที่ลูก ๆ ของพระผู้เป็นเจ้าถูกปฏิเสธสิทธิเท่าเทียมกันในพระกรุณาของพระบิดา ดังที่เราปฏิเสธพวกเขาในโลกนี้อยู่ขณะนี้ อะไรคือหน้าที่ที่กำหนดแก่ชาวคริสต์โดยบทสวดประจำวันที่ว่า: “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ พระทัยของพระองค์สำเร็จในสวรรค์อย่างไร ก็ให้สำเร็จในแผ่นดินโลกเหมือนกัน ?” (Thy kingdom come, Thy will be done, on earth, as it is in heaven.)

Robert Schalkenbach Foundation
90 John Street, Suite 501, New York, NY 10038
Phone 212-683-6424; Toll-Free 800-269-9555; Fax 212-683-6454
webmaster@schalkenbach.org
//www.schalkenbach.org
//www.progressandpoverty.org
//www.taxland.org
//www.landtax.org
9/24/04


เอกสารที่เกี่ยวข้อง
//th.wikipedia.org/wiki/เฮนรี_จอร์จ
//th.wikipedia.org/wiki/ภาษีเดี่ยว




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 15:15:24 น.
Counter : 814 Pageviews.  

ตราบนั้นจะมีผู้ใช้เงินเป็นเครื่องมือแสวงหาบารมีและบริวารได้

ตราบนั้นจะมีผู้ใช้เงินเป็นเครื่องมือแสวงหาบารมีและบริวารได้

ตราบใดที่ยังมีความยากจนให้เห็นตำตากันอยู่ตลอดไปทุกเมื่อเชื่อวัน
ตราบใดที่ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าความยากแค้นของมนุษย์โดยทั่วไปจะบรรเทาเบาบางลง
ตราบใดที่ห้วงเหวแห่งความยากจนยังเปิดอ้ากว้างรอพร้อมที่จะรับเหยื่อ
คือผู้พลาดท่าเสียทีในการประกอบธุรกิจการงานในโลกนี้

ตราบนั้นมนุษย์จะยังมีความกลัวต่อความยากจน
แม้ผู้ที่รวยแล้วก็ยังกลัวจะต้องพลาดพลั้งยากจนลง
ตราบนั้นมนุษย์จะตั้งหน้ากอบโกยหาเงินไว้เป็นสมบัติของตนเอง
และเผื่อสำหรับลูกหลานเหลนต่อไปด้วย ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี
ซึ่งเราเรียกกันว่าความโลภ
ความโลภพอกพูนเพราะความกลัวจน

ตราบนั้นมนุษย์จะยังบูชาเงินเป็นพระเจ้า
ตราบนั้นเกียรติยศจะมีความหมายน้อยกว่าเงินตรา
ตราบนั้นจะมีผู้ใช้เงินเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจบารมีและพวกพ้องบริวารได้
ตราบนั้นจะยังมีการทุจริตคดโกง
และตราบนั้นมนุษย์จะยังหาทางกดขี่ขูดรีดกันเอง

หากมนุษย์ไม่กลัวความยากจนเสียแล้ว เกียรติยศก็ย่อมจะสำคัญกว่าเงินตรา
และจะไม่มีใครยอมไปเป็นลูกน้องเพื่อประดับบารมียังความยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้อื่น
หรือยอมเป็นเครื่องมือเพื่อประกอบกรรมอันชั่วช้าเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
เพื่อประโยชน์ของผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ

หากมนุษย์ไม่กลัวความยากจนเสียแล้ว
มนุษย์จะหยุดกอบโกยเงินทองชนิดที่ใช้ 10 ชาติก็ไม่หมด
เพราะใครเล่าจะหาบน้ำไปด้วยทั้งหาบ?
หากรู้ว่าเพียงกระติกเดียวก็เพียงพอสำหรับการเดินทางไปถึงแหล่งน้ำแหล่งต่อไป

ความร่ำรวยล้นฟ้าจะไม่เป็นสิ่งน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนในปัจจุบัน
แต่ความพยายามตะเกียกตะกายที่จะให้ร่ำรวยเช่นนี้อาจจะกลายเป็นสิ่งน่าขำขันมากกว่า

โดยนัยนี้ ระดับศีลธรรมของมนุษย์ก็จะยกขึ้นสูง และโลกเราจะน่าอยู่กว่าปัจจุบันมาก
มนุษย์จะหมดห่วงกังวลบรรดาที่เคยมี
แล้วก็จะเกิดน้ำใจเสียสละตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวมได้เอง

การที่มนุษย์จะเลิกกลัวความยากจนได้
ก็คือเราจะต้องหาทางขจัดความยากจน
ทำให้มนุษย์แน่ใจได้ว่าเมื่อเขาต้องการทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงชีวิต
เขาก็จะสามารถหางานทำได้โดยมีรายได้ดีพอควร

(ปรับปรุงจากหนังสือ ความยากจนที่ไม่เป็นธรรม เศรษฐศาสตร์ที่ลงถึงราก
//utopiathai.webs.com/UnjustPoverty.html หน้า 77-78)




 

Create Date : 18 เมษายน 2553    
Last Update : 18 เมษายน 2553 10:49:11 น.
Counter : 521 Pageviews.  

บุรุษผู้เข้มแข็งปราศจากธรรมะซึ่งพุ่งขึ้นสูงตามโอกาส

บุรุษผู้เข้มแข็งปราศจากธรรมะซึ่งพุ่งขึ้นสูงตามโอกาส

สิ่งที่ได้ทำลายอารยธรรมเดิม ๆ มาแล้วทุกรุ่นก็คือแนวโน้มไปสู่ความไม่เสมอภาคกันในการแบ่งเศรษฐทรัพย์และอำนาจ
แนวโน้มอันเดียวกันนี้ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ด้วยพลังที่รุนแรงยิ่งขึ้นได้ปรากฏให้สังเกตได้ในอารยธรรมของเราในปัจจุบัน…

เมื่อความเสื่อมทรามกลายเป็นสิ่งเรื้อรัง เมื่อน้ำใจที่จะกระทำเพื่อประชาชนสูญสิ้นไป
เมื่อประเพณีแห่งเกียรติยศ คุณความดี และความรักชาติอ่อนแอลง
เมื่อกฎหมายมีลักษณะที่น่าดูหมิ่น และการปฏิรูปกลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหวัง
พลังแห่งภูเขาไฟก็จะเกิดขึ้นในมวลชนที่ขมขื่น ซึ่งจะระเบิดออกเมื่อมีอุบัติเหตุเปิดทางให้

บุรุษผู้เข้มแข็งปราศจากธรรมะซึ่งพุ่งขึ้นสูงตามโอกาสจะกลายเป็นตัวแทนแห่งความปรารถนาอันมืดมัวหรือความรู้สึกอันรุนแรงของประชาชน และเขี่ยรูปแบบต่าง ๆ ที่สูญสิ้นความเข้มแข็งแล้วกระเด็นไป
ดาบจะกลับคมยิ่งกว่าปากกา และในเทศกาลแห่งการทำลายล้าง พลังอันโหดเหี้ยมและความโกลาหลป่าเถื่อนจะเกิดขึ้นสลับกับความซบเซาแห่งอารยธรรมที่กำลังเสื่อม…

คนป่าเถื่อนจำพวกใหม่จะมาจากที่ไหนกันหรือ?
จงไปยังย่านซอมซ่อตามนครใหญ่ ๆ แล้วท่านจะได้เห็นพวกเขารวมกันอยู่เป็นฝูงแม้กระทั่งขณะนี้!
การเล่าเรียนศึกษาจะสิ้นสูญไปได้อย่างไรหรือ?
มนุษย์จะหยุดอ่าน ตำรับตำราจะก่อให้เกิดไฟ และจะกลายเป็นชนวนระเบิด!… …

ในการเสื่อมลงของอารยธรรมนั้น ประชาคมต่าง ๆ มิได้กลับลงไปทางเดียวกับที่ขึ้นมา
ตัวอย่างเช่นความเสื่อมแห่งอารยธรรมดังที่ปรากฏในการปกครองจะไม่นำเราจากระบอบสาธารณรัฐกลับไปสู่ระบบฟิวแดลอีก แต่จะนำเราไปสู่ระบบบงการ (Imperatorship) และอนาธิปไตย…

เสรีภาพเกิดขึ้นที่ใด ที่นั่นคุณงามความดีย่อมเติบโตขึ้น เศรษฐทรัพย์มีมากขึ้น ความรู้ขยายออก
การค้นคิดประดิษฐ์ทำให้ความสามารถของมนุษย์เพิ่มขึ้น และชาติที่มีเสรีภาพมากกว่าก็จะพุ่งขึ้นสูงในด้านพลังอำนาจและจิตวิญญาณในท่ามกลางประเทศเพื่อนบ้าน…
ที่ใดเสรีภาพเสื่อมลง ที่นั่นคุณงามความดีจะเลือนหายไป
เศรษฐทรัพย์จะลดลง ความรู้ถูกลืม การค้นคิดประดิษฐ์หยุดชะงัก และจักรวรรดิที่เคยทรงอานุภาพในด้านกำลังทหารและศิลปะวิทยาการจะกลายเป็นเหยื่อที่น่าสมเพชแก่พวกป่าเถื่อนที่มีเสรีกว่า !

เสรีภาพได้ส่องสาดมายังหมู่มนุษย์เพียงด้วยลำแสงที่ขาดเป็นช่วง และสว่างเพียงบางส่วน
แต่เสรีภาพก็ได้แสดงออกซึ่งความก้าวหน้าทั้งหลาย…
เราจะไม่เชื่อมั่นในเทวีแห่งเสรีภาพหรือ ?
ในสมัยของเรา พลังอันเคลือบแฝงได้คืบคลานเข้ามาเช่นเดียวกับในสมัยก่อน ๆ
ซึ่งได้ทำลายเทวีแห่งเสรีภาพ โดยก่อให้เกิดความไม่เสมอภาคกันขึ้น
ณ ขอบฟ้า เมฆเริ่มลดต่ำลง
เทวีแห่งเสรีภาพเรียกร้องเราอีกแล้ว …

ไม่เป็นการเพียงพอที่มนุษย์จะมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
ไม่เป็นการเพียงพอที่มนุษย์จะมีความเสมอภาคกันทางทฤษฎีต่อหน้ากฎหมาย
มนุษย์จะต้องมีเสรีภาพที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสและปัจจัยแห่งชีวิต
มนุษย์จะต้องมีความเสมอภาคกันในความกรุณาของธรรมชาติ…
นี่เป็นกฎสากล นี่เป็นบทเรียนของศตวรรษต่าง ๆ
ถ้าไม่วางรากฐานอยู่บนความยุติธรรม โครงร่างแห่งสังคมก็จะยืนหยัดอยู่มิได้ ….

(จาก กฎว่าด้วยความก้าวหน้าของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนท้ายของหนังสืออเมริกันดีเด่น ความก้าวหน้ากับความยากจน (Progress and Poverty) ฉบับตัดตอนเหลือเพียง 1 ใน 50 Henry George แต่ง พ.ศ. 2422, James L. Busey ย่อ พ.ศ. 2500 (ต้นฉบับย่อภาษาอังกฤษอยู่ที่ //unitax.org/progress ภาคไทยที่ //utopiathai.webs.com/PPsupercondensed.html )




 

Create Date : 18 เมษายน 2553    
Last Update : 18 เมษายน 2553 9:33:21 น.
Counter : 652 Pageviews.  

ภาษีที่ดินเหมาะทำรัฐสวัสดิการแทนภาษีเงินได้ก้าวหน้า

ภาษีที่ดินเหมาะทำรัฐสวัสดิการแทนภาษีเงินได้ก้าวหน้า
ที่ดินควรเป็นของส่วนรวมเท่าเทียมกันทุกคน เพราะที่ดินไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ผลิต และขาดที่ดินมนุษย์ตาย
มูลค่าที่ดินก็มิใช่แต่ละคนทำให้เกิด เช่น ที่ดินว่างเปล่ามีหญ้าขึ้นรก 100 ตร.วากลางเมืองมีราคาสูงขึ้นเรื่อยมาจนเป็นหลายล้านบาท

แต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินก็จำเป็นต่อการใช้ทำประโยชน์และดูแลเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
วิธีที่ดีจึงเป็นการปฏิรูปภาษี

เชื่อหรือไม่ ทุกคนไม่ควรต้องเสียภาษีเงินได้หรือภาษีอื่น ๆ จากการลงแรงลงทุนที่ก่อผลผลิตและบริการ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนค้าขายของตน เพราะการแลกเปลี่ยนทำโดยสมัครใจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเป็นวิถีชีวิตที่ช่วยให้ส่วนรวมสบายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทำงานทั้งวันแล้วยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการครบ

ระบบรัฐสวัสดิการสามารถทำได้โดยเก็บแต่เพียงภาษีที่ดิน ซึ่งถ้าไม่เก็บหรือเก็บน้อยไปจะเกิดการเก็งกำไรสะสมที่ดินอย่างปัจจุบัน ไปไหน ๆ ก็เจอแต่ที่ดินมีเจ้าของแล้ว แต่มักถูกทำประโยชน์น้อยเกินไป ผลผลิตและความเจริญก้าวหน้าของชาติต่ำกว่าปกติ ซึ่งหมายถึงมีคนต้องว่างงานมาก ค่าแรงต่ำ คนจนไม่สามารถเป็นเจ้าของที่ดินได้ ต้องเช่าที่อยู่ที่ทำกินในอัตราแพงกว่าที่ควรเป็น (ส่วนแบ่งการผลิตลดต่ำกว่าปกติ)

ลัทธิภาษีเดี่ยว (Single Tax) จากที่ดิน ของเฮนรี จอร์จ จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมขั้นฐานราก แก้ความยากจน ไม่มีการเก็งกำไรที่ดิน จึงไม่เกิดวิกฤตวัฏจักรเศรษฐกิจฟองสบู่ที่รุนแรงก่อความเสียหายย่อยยับซ้ำซากแก่ทั้งคนจนและคนรวยอีกต่อไป

และเกิดผลดี คือ

1. ให้เสรีมากขึ้น ลดการถูกเรียกตรวจสอบจากเจ้าพนักงานภาษีของรัฐ เพราะเหลือแต่ภาษีที่ดิน
(ควรมีภาษีหรือค่าชดเชยการทำความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญหมดเปลืองไปด้วย)

2. เกิดความยุติธรรม ใครทำงาน ใครลงทุนก่อผลผลิต ได้เท่าไรก็เป็นของเขาทั้งหมด
โดยตัดความได้เปรียบเสียเปรียบจากการได้ครองที่ดินมากน้อยดีเลวผิดกัน ออกไปด้วยภาษีที่ดิน

3. เกิดผลดีมีประสิทธิภาพ ที่ดินไม่เสียเปล่ามหาศาลจากการเก็บกักเก็งกำไร การว่างงานจะลด ค่าแรงเพิ่ม
และเมื่อคนไม่เสียภาษีเงินได้ก็ได้ค่าจ้างเงินเดือนกลับบ้านเต็มที่
สินค้าของกินของใช้ไม่ถูกภาษี ราคาก็ต่ำลง เงินก็ไม่เฟ้อไม่เสื่อมค่า
คนจนก็สบายขึ้น สินค้าขายแข่งกับต่างประเทศได้ดีขึ้น คนต่างชาติก็จะอยากมาเที่ยวมาใช้จ่ายมาลงทุนที่เมืองไทยมากขึ้น
(ที่อาจเป็นปัญหาก็คือแรงงานต่างด้าวจะทะลักเข้าไทย)

แต่เมื่อระบบปัจจุบันกลายเป็นความเคยชิน จนกระทั่งเราไม่รู้สึกถึงความอยุติธรรมของการปล่อยให้เจ้าของที่ดินได้ประโยชน์จากที่ดินไปโดยไม่ต้องลงแรงลงทุน (unearned income) เราจะเปลี่ยนระบบทันที เจ้าของที่ดินก็จะเดือดร้อนเกินไป จึงควรเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป คือ ค่อย ๆ เพิ่มภาษีที่ดิน เช่น ปีละ 3 % ของค่าเช่าศักย์หรือค่าเช่าที่ดินที่ควรเป็น 33 ปีก็ได้ 99 % ขณะเดียวกันค่อย ๆ ลดภาษีจากการทำงานและการลงทุนลงชดเชยกัน

จากเว็บเศรษฐศาสตร์เพื่อความเป็นธรรม
//utopiathai.webs.com




 

Create Date : 07 เมษายน 2553    
Last Update : 7 เมษายน 2553 16:05:35 น.
Counter : 580 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  
 
 

สุธน หิญ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แก้ความอยุติธรรมขั้นฐานราก
ตามแนวเฮนรี จอร์จ
http://utopiathai.webs.com
เลิกภาษีการลงแรงลงทุนผลิตและค้า
เลิกภาษีเงินได้ เพิ่มภาษีที่ดิน
ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ใช้เวลาสัก 30 ปี


เปิดเว็บต่างแดนดูไม่ได้ ให้ google ช่วยหา free anonymous proxy server ของต่างประเทศซึ่งมีอยู่มากเพื่อเปิดให้แทนครับ (ในไทยอาจมีการปิดกั้นเว็บของต่างแดน เว็บย่อยที่คนไทยอาศัยใช้กันก็พลอยถูกปิด)

เว็บหลักของผม ยูโทเพียไทย_1
* หน้ารวมลิงก์ยูโทเพียไทย_1 *

หนังสือดีเด่นแปล Progress and Poverty หนังสือ ความยากจนที่ไม่เป็นธรรม และ บทความ ของผม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ยินดีให้เผยแพร่ต่อด้วยความขอบคุณ ยกเว้นบทความแปลกรุณาอ่านเงื่อนไขจากต้นฉบับภาษาอังกฤษที่อ้างไว้ครับ


- ศัพท์เศรษฐศาสตร์ ดร.บุญเสริม
- ภาษีทรัพย์สินสหรัฐฯ
- ภาวะตลาดอสังหาฯ
- ภาวะตลาดที่อยู่อาศัย 2537-51
- ราคาที่ดินทั่วไทยรายแปลง
- สรุปราคาประเมินใน กทม.ปี 2551-54
- การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินใน กทม.และปริมณฑลปี 2528-50


[Add สุธน หิญ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com