(ยินดีให้เผยแพร่ต่อได้ด้วยความขอบคุณ สุธน หิญ แปล มิ.ย. 53 จากบทความเรื่อง The Single Tax: What It Is and Why We Urge It โดย HENRY GEORGE //www.schalkenbach.org/library/george.henry/SingleTax.htm ตีพิมพ์ใน The Christian Advocate ค.ศ. 1890 และมีการพิมพ์ซ้ำในนิตยสารต่าง ๆ ในสหรัฐฯ และอังกฤษ)
Robert Schalkenbach Foundation 90 John Street, Suite 501, New York, NY 10038 Phone 212-683-6424; Toll-Free 800-269-9555; Fax 212-683-6454 webmaster@schalkenbach.org //www.schalkenbach.org //www.progressandpoverty.org //www.taxland.org //www.landtax.org 9/24/04
อธิบายเพิ่มเติม
ลัทธิภาษีเดี่ยว (Single Tax) จากการถือครองที่ดิน ของเฮนรี จอร์จ จะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมขั้นฐานราก แก้ความยากจน ไม่มีการเก็งกำไรที่ดิน เศรษฐกิจจึงมีเสถียรภาพ ไม่เกิดวิกฤตวัฏจักรเศรษฐกิจฟองสบู่ที่กว้างขวางก่อความเสียหายย่อยยับเป็นระยะ ๆ ซ้ำซาก แก่ทั้งคนจนและคนรวยอีกต่อไป
(ตามระบบนี้ แม้ทางปฏิบัติจะดูเหมือนว่า เจ้าของที่ดินกลายเป็นผู้เช่าจากรัฐ แต่ก็ไม่ได้ห้ามการให้เช่าช่วงหรือให้เช่าต่อไปแก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นที่ดินเปล่าหรือรวมอาคารโรงเรือน หรือเครื่องจักรกล หรือพืชผลต้นไม้ ฯลฯ ในกรณีเช่นนี้ก็เท่ากับผู้เช่ามารับภาระภาษีการถือครองที่ดินร่วมกับเจ้าของที่ดิน ด้วยการจ่ายค่าเช่า)
ผลดีของระบบภาษีเดี่ยว
1. ให้เสรีมากขึ้น ลดการถูกเรียกตรวจสอบจากเจ้าพนักงานภาษีของรัฐ เพราะเหลือแต่ภาษีที่ดิน
2. เกิดความยุติธรรม ใครทำงาน ใครลงทุนก่อผลผลิตและบริการ ได้เท่าไรก็เป็นของเขาทั้งหมด
โดยตัดความได้เปรียบเสียเปรียบจากการได้ครองที่ดินมากน้อยดีเลวผิดกัน ออกไปด้วยภาษีที่ดิน
3. เกิดผลดีมีประสิทธิภาพ ที่ดินไม่เสียเปล่ามหาศาลจากการเก็บกักเก็งกำไร การว่างงานจะลด ค่าแรงเพิ่ม
และเมื่อคนไม่เสียภาษีเงินได้ก็ได้ค่าจ้างเงินเดือนกลับบ้านเต็มที่
สินค้าของกินของใช้ไม่ถูกภาษี ราคาก็ต่ำลง เงินก็ไม่เฟ้อไม่เสื่อมค่า
คนจนก็สบายขึ้น สินค้าก็ขายแข่งกับต่างประเทศได้ดีขึ้น ต่างชาติก็จะอยากมาเที่ยวมาใช้จ่ายมาลงทุนที่เมืองไทยมากขึ้น
(ที่อาจเป็นปัญหาก็คือแรงงานต่างด้าวจะทะลักเข้าไทย)
แต่สมัยนี้เราต้องสงวนทรัพยากรธรรมชาติให้มีใช้ต่อไปนาน ๆ และรักษาสิ่งแวดล้อมมิให้เป็นอันตรายแก่สุขภาพของเรา จึงควรมีภาษีหรือค่าชดเชยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญหมดเปลืองไปและการทำความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้มีการคิดค้นวิธีนำของที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพด้วย)
และเมื่อระบบปัจจุบันกลายเป็นความเคยชิน จนกระทั่งเราไม่รู้สึกถึงความอยุติธรรมของการปล่อยให้เจ้าของที่ดินได้ประโยชน์จากที่ดินไปโดยมิได้ลงแรงลงทุน (unearned income) ที่ก่อผลผลิต เราจะเปลี่ยนระบบทันที เจ้าของที่ดินก็จะเดือดร้อนเกินไป จึงควรเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป คือ ค่อย ๆ เพิ่มภาษีที่ดิน เช่น ใช้เวลา 30 ปี เพิ่มปีละ 3.3 % ของค่าเช่าที่ดินที่ควรเป็น ขณะเดียวกันค่อย ๆ ลดภาษีจากการทำงานและการลงทุนลงชดเชยกัน.