|
 |
 |
 |
 |
|
ภาษีเงินได้ ภาษีการผลิตและค้า กับ ภาษีที่ดิน
ภาษีเงินได้ ภาษีการผลิตและค้า กับ ภาษีที่ดิน
ถ้าเราพยายามมุ่งลด-เลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงแรงลงทุนก่อผลผลิตและบริการ รวมทั้งการค้าขายแลกเปลี่ยน ผลคือรายได้สุทธิของผู้คนจะมากขึ้น แต่รายจ่ายลดเพราะราคาสินค้าลด คนเราจะอยู่ดีกินดีขึ้น จะเกิดแรงกระตุ้นให้มีการผลิตการค้ามากขึ้น การว่างงานจะลด และถูกหลักยุติธรรมด้วย เพราะผลตอบแทนจากการลงแรงลงทุนผลิตของใครก็ควรเป็นของผู้นั้น
แต่มนุษย์ไม่ได้ผลิตที่ดิน และมูลค่าที่ดินเกิดจากส่วนรวม เช่น การมารวมกันเป็นชุมชน การแลกเปลี่ยนค้าขายช่วยให้คนในชุมชนสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาทำงานหลายอย่างสนองความต้องการของตนเอง แต่เล่าเรียนฝึกฝนรู้และชำนาญทำงานเฉพาะทางช่วยให้การผลิตมีประสิทธิภาพ แล้วซื้อสิ่งอื่น ๆ จากผู้อื่นซึ่งก็มุ่งทำงานเฉพาะทางเหมือนกัน เป็นการช่วยเหลือกันไปมา ผลที่สุดชุมชนก็เจริญขึ้น สิ่งที่ตามมาคือที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น ที่ดินว่าง ๆ มีหญ้ารก 100 ตารางวาราคาเป็นล้าน
จึงเกิดการเก็งกำไร แทบทุกคนพอมีเงินก็จะซื้อที่ดินเก็บไว้ก่อนทั้งที่ยังไม่ได้คิดจะใช้ประโยชน์นอกจากหวังความมั่นคงของตนเองจากการสูงขึ้นของราคาที่ดิน ค่าเช่า-ราคาที่ดินจึงยิ่งสูง ผลที่ดามมาคือ ค่าแรงและผลตอบแทนทุนต่ำกว่าที่ควรเป็น
นี่เป็นเพราะรัฐเก็บภาษีที่ดินน้อยไป ซึ่งซ้ำร้ายต้องเก็บภาษีเงินได้และภาษีการลงแรงลงทุนผลิตและค้าแทน
คนจนจึงยิ่งลำบาก เดือดร้อน ออกพ้นจากความยากจนได้ยาก เพราะระบบภาษีของรัฐทำให้เกิดความยากจน
ถ้าให้รัฐค่อย ๆ เพิ่มภาษีที่ดินและลด-เลิกภาษีจากการลงแรงลงทุนผลิตและค้าและภาษีเงินได้ ไทยจะกลายเป็นสวรรค์ในสายตาของนักลงทุน พวกเขาจะแห่กันมาขอลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งคนที่หนีภาษีเงินได้สูง ๆ จากบางประเทศของตนเอง เช่น ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียที่ใช้ระบบรัฐสวัสดิการและเก็บภาษีเงินได้อัตราก้าวหน้ามาก ๆ ก็จะเปลี่ยนทิศมุ่งไทยแทน แต่แรงงานต่างชาติก็จะทะลักเข้ามาทำงานในไทยเหมือนกัน ทั้งแบบถูกกฎหมายและแบบผิด เรื่องนี้คงต้องพิจารณากันให้รอบคอบว่าจะมีนโยบายกีดกันกันแค่ไหน
เมื่อเงินต่างประเทศเข้ามามาก ค่าเงินบาทก็แข็ง ที่จริงเป็นการดี คนไทยจะได้ซื้อของถูก และเรื่องอย่างนี้คาดการณ์กันได้อยู่แล้ว ก็น่าจะทำประกันการเปลี่ยนแปลงค่าเงินไว้สำหรับผู้ส่งออก แต่สำหรับคนที่เห่อสินค้านอกที่ฉลาดจะรอเวลาไว้ซื้อปีหลัง ๆ เพราะปีแรก ๆ ภาษีสินค้าเข้าจะยังไม่ลดลงมากเพื่อให้สอดประสานกับภาษีที่ดินที่ยังเก็บไม่ได้อัตราสูงนัก ก็นับเป็นการทยอยซื้อ ไม่ใช่โหมซื้อสินค้านอก แต่สินค้าไทยเองจะค่อย ๆ ราคาต่ำลงเพราะต้นทุนต่ำลงจากการลดจำพวกภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีแรงกระตุ้นการผลิตจากการลดภาษีเงินได้และภาษีกำไร รวมทั้งการปลดปล่อยที่ดินออกมาในราคาต่ำลงให้คนทั่วไปหาที่ดินทำกินเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น
นี่คือการเพิ่มความสามารถแข่งขันให้แก่สินค้าไทย ซึ่งเมื่อถึงที่สุด คือเมื่อเก็บภาษีที่ดินได้เต็มที่และเลิกภาษีจากการทำงานและการลงทุนหมดแล้ว ไทยทั้งประเทศจะกลายเป็นเมืองปลอดภาษี (ภาษีที่ดินนั้นที่จริงไม่ใช่ภาษี แต่คือค่าเช่าที่ดิน โดยถือว่าที่ดินเป็นของส่วนรวม) ชาวโลกก็จะพากันมาเที่ยว มาจับจ่ายใช้สอยหาซื้อสินค้าราคาถูกแข่งกับสิงคโปร์ ฮ่องกง คนไทยก็จะมีงานที่รายได้ดีมากขึ้น
และเมื่อคนทั่วไปหาที่ดินทำกินเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้นในราคาต่ำลง ต้นทุนของเขาก็ต่ำลง ส่วนหนึ่งจะต้องการลูกมือมาช่วยทำงาน จำนวนคนที่ต้องง้อของานจากนายจ้างตามโรงงานจะลดลง การกดค่าแรงโดยไม่เป็นธรรมจะลดความรุนแรงลง
โอกาสเลือกตั้งผู้แทนครั้งต่อ ๆ ไปขอให้พวกเราภาคประชาชนช่วยกันเลือกผู้ที่สัญญาว่าจะมุ่งเพิ่มภาษีที่ดินและลดภาษีเงินได้และภาษีการลงแรงลงทุนผลิตและค้าลงทุกครั้งนะครับ นี่คือวิถีทางสันติและประชาธิปไตยที่ควรบอกต่อกันไปครับ
จากเว็บเศรษฐศาสตร์เพื่อความเป็นธรรม //utopiathai.webs.com
Create Date : 05 มีนาคม 2553 |
Last Update : 5 มีนาคม 2553 9:45:00 น. |
|
1 comments
|
Counter : 767 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: preampcc วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:2:01:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|