แปะก๊วย
......
ชื่อสามัญ Ginkgo Biloba ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน
จัดเป็นสมุนไพรที่ มีสรรพคุณหลากหลาย
ชื่อตามความหมายแปลว่า "ลูกไม้สีเงิน"
ซึ่งดั้งเดิม ในภาษาจีนเรียกว่าต้น "หยาเจียว"
ซึ่งแปลว่า ตีนเป็ด จากลักษณะใบ
ต่อมามีการเรียกชื่อผลแทนว่าลูกไม้สีเงิน หรือ ลูกไม้สีขาว
เนื่องจากผลจะมีสีเงิน และ สีขาว ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า อิโจว
มีรากจากคำว่าตีนเป็ด หรือ คินนัน
ความหมายคล้ายกับ ภาษาจีนคือลูกไม้สีเงิน
สำหรับในภาษาอังกฤษ ก็นิยมเรียกว่า กิงโกะ
หรือ maidenhair tree หรือ ชาวฝรั่งเศส เรียกว่า
ต้นสี่สิบมงกุฏทอง ชื่ออื่น ต้นไม้แห่งความหวัง
แพนด้าแห่งอาณาจักรพืช ต้นไม้อิสรภาพ
"แปะก๊วย" คนส่วนใหญ่ จะนึกถึงเม็ดสีเหลือง ในบะจ่าง
แปะก๊วยนมสด แปะก๊วยต้มน้ำตาล
แต่ใบแปะก๊วย" มีประโยชน์มากกว่าผล
"ใบแปะก๊วย" มีลักษณะเป็นใบสีเขียวแยกเป็น 2 กลีบ
คล้ายใบพัด มีลักษณะพิเศษ คือจะผลัดใบ ไม่พร้อมกันทุกต้น
แต่เมื่อผลัดใบแล้ว ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ร่วงจากต้นภายในไม่กี่วัน
ถูกนำไปใช้ประโยชน์ ทางการแพทย์ครั้งแรก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1436
เกือบ 600 ปีที่แล้ว ในสมัยราชวงศ์หมิง
ปัจจุบัน ใบแปะก๊วย เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
ทั้งในเอเชีย ยุโรป หรือสหรัฐ เพราะเชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ
ใบแปะก๊วย เมื่อนำไปสกัด ด้วยตัวทำละลาย
จะได้สารสกัด Bioflavonoids มีฤทธิ์้ต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
ซึ่งทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
และยังมีสรรพคุณช่วยป้องกัน การเกิดโรคเบาหวานขึ้นตา
ป้องกันการเกิดแผลเรื้อรัง ในผู้ป่วยเบาหวาน
ส่วนผู้ป่วยโรคหอบหืด หากรับประทาน "ใบแปะก๊วย"
ก็สามารถป้องกัน การหดตัวของกล้ามเนื้อ หลอดลมได้
หรือ อาการปวดขา การทาน "ใบแปะก๊วย"
ก็ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียน ของเลือดไปยังประสาทมือและเท้า
ลดอาการปวดต่าง ๆ ได้เช่นกัน
ใบแปะก๊วย ยังสามารถช่วยป้องกัน อาการผิดปกติของการหายใจ
Asthma & Acute Mountain Sickness : AMS ได้
แต่ แป๊ะก๊วยแคปซูน จัดว่าเป็นยาอันตราย
มีขายในเฉพาะ ร้านขายยาแผนปัจจุบันเท่านั้น
บางประเทศ ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ ถึงจะซื้อมารับประทานได้
ห้ามรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยร่วมกับยาแอสไพรินเด็ดขาด
หรือสารป้องกันการเกิดลิ่มเลือดต่าง ๆ
เพราะอาจทำให้มีเลือดออกที่ตาขาวได้
และสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ป่วย
ที่เป็นโรคความดันต่ำ หรือสูงกว่าปกติ ก็ไม่ควรทาน
ขอบคุณที่มา fb. Siriwan Jane
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ