ขนมฝักบัว หรือ ดอกบัว
...............
หรือภาคใต้เรียกจูจุ่น ชาวเขมรสุรินทร์เรียก ขนมโช้ก
ตรงกลางของขนม จะพองฟูขึ้นมา เหมือนบัวที่โตขึ้นมา
มีลักษณะเป็นวงกลม มีรูปร่างกลม ขอบหยักคล้ายใบบัว
เนื้อขนมจะเหนียวนุ่ม
ชาวไทยเขมรสุรินทร์นิยม ทำขนมโช้กในเวลามีงานพิธีการ
เนื่องจากชื่อขนมในภาษาไทยเขมร โช้ก คือ โชคลาภ
และตัวขนมจะขึ้นฟูเป็นเส้น ๆ ขณะทอด
เปรียบเหมือน ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า และมีโชค มีลาภ
ใช้ในงานพิธีแต่งงาน โกนจุก บวชนาค ขึ้นบ้านใหม่
พิธีกรรมแซนโฎนตา ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้
ขนมดอกบัว เป็นการนำ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ
หรือน้ำตาลมะพร้าวและกะทิ ผสมให้เข้ากัน
สูตรเดิมแต่โบราณ ความข้นของแป้งขนาดนมข้น
ปัจจุบันนี้จะมีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว
และจะเปลี่ยนจากน้ำตาลปี๊บ เป็นน้ำตาลทราย
บ้างก็ดัดแปลงใส่กล้วยหอม ใส่น้ำใบเตยแทนน้ำเปล่า
ลักษณะที่ดีของขนมฝักบัว คือแป้งต้องนุ่ม
ขอบขนมต้องกระดกขึ้นมาตรงกลางนูนและนุ่ม
มีรสชาติหวาน และด้านล่างของขนม
เป็นใยเหมือนสายบัว บริเวณรอบๆ กรอบ
ขนมฝักบัวมักจะใช้ในพิธีแต่งงาน โดยใส่ในขันหมาก
และจะชิ้นใหญ่ๆ ไม่ได้ทำเป็นชิ้นเล็กๆพอคำ
ความหมายที่ทำให้ใหญ่ และนำขนมฝักบัวใส่ในขันหมาก
สันนิษฐานไว้ว่า หมายถึง ความเจริญเติบโตของบัวในสระ
ที่เป็นไปอย่างง่ายๆและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้การดูแลมากมาย
จากเหตุนี้เลยทำให้คิดกันไปว่าง่ายๆ และรวดเร็ว
นี่และจะเป็นจุดเด่น ของการทำขนมฝักบัวมาในขันหมาก
เพื่อหวังให้คู่สมรสเจริญรุ่งเรือง และรวดเร็ว
ขอบคุณที่มา fb.Anna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพ