bloggang.com mainmenu search










วันนี้เมื่อ ๒,๖๐๐ กว่าปีก่อน

พระพุทธองค์ได้เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับทุกข์

ที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ

โดยไม่เพียงแจกแจงทั้งความทุกข์ทางกาย

และความทุกข์ทางใจเท่านั้น

หากยังชี้ให้เห็นถึงรากเหง้าของมัน

 ทุกข์กายนั้น ไม่มีใครหนีพ้น

 เช่นเดียวกับความพรัดพรากสูญเสีย

 เพราะทุกสิ่งล้วนมีความพร่อง

มีความขัดแย้งอยู่ภายใน

 จึงต้องเสื่อมและสลายไปในที่สุด (ทุกขัง)

 ส่วนความทุกข์ใจนั้นเกิดจาก

ความยึดติดถือมั่นในสิ่งเหล่านี้

ดังนั้นเมื่อสิ่งเหล่านี้เสื่อมสลายไป

ความโศกเศร้า ร่ำไรรำพัน อาลัยอาวรณ์

 และความคับแค้นใจจึงเกิดขึ้น

ผ่านไปกว่า ๑๐๐ ชั่วอายุคนแล้ว

แม้ผู้คนทุกวันนี้มีความสุขสบายกายกว่าคนรุ่นก่อน

มากมายหลายเท่าตัว แต่ก็ยังมีความทุกข์ใจอยู่นั่นเอง

 อาจจะทุกข์กว่าคนในอดีตด้วยซ้ำไป

แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังสามารถอยู่อย่างไร้ทุกข์ได้

แม้ยังต้องเจอกับความทุกข์กาย

และความพลัดพรากสูญเสีย

 แต่ก็สามารถยกจิตให้อยู่เหนือปรากฏการณ์เหล่านั้นได้

 หากตระหนักถึงความจริงว่าสรรพสิ่งนั้นล้วนไม่เที่ยง

 ไม่คงตัว และไม่ใช่ตน จนคลายความยึดติดถือมั่น

 ไม่หลงยึดว่ามันเป็นตัวกูของกูอีกต่อไป

หากแต่คืนมันให้แก่ธรรมชาติไป

ความจริงดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการคิดเอา

 แต่เกิดจากการเห็นความจริงอย่างแจ่มแจ้ง

 แต่จะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องฝึกทั้งกาย วาจา และใจ

ซึ่งพระพุทธองค์ได้แจกแจงออกมา

เป็นข้อปฏิบัติ ๘ วิธีหรือ ๘ ด้าน ซึ่งเรียกว่ามรรคมีองค์ ๘

คำแนะนำเหล่านี้มีอยู่อย่างครบถ้วน

ในปฐมเทศนาของพระองค์ คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

 อันเป็นที่มาของวันอาสาฬบูชา

ซึ่งเวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งในวันนี้

นอกจากการใส่บาตรและเวียนเทียนตามประเพณีแล้ว

 เราควรระลึกถึงคำสอนของพระองค์ในวันนี้

และน้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตด้วย

พระไพศาล วิสาโล






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ

Create Date :19 กรกฎาคม 2559 Last Update :19 กรกฎาคม 2559 14:53:42 น. Counter : 941 Pageviews. Comments :0