bloggang.com mainmenu search










"ปัญญานี้เหมือนเป็นเอ็กซเรย์"

ถ้าละข้อหนึ่งได้ ถ้าละสักกายทิฏฐิได้

มันจะละข้อสองข้อสามได้

พอผ่านนี้ก็ถือว่าผ่านปริญญาตรีละ

 ทีนี้ก็ระดับปริญญาโทแล้ว

ระดับปริญญาโทนี้มีสองขั้น

 ขั้นแรกของปริญญาโท สกิทาคามี

ขั้นที่สองเรียก อนาคามี 

ต่างกันตรงไหน

 ตรงที่ว่าสกิทาคามีนี้แก้ปัญหาได้ครึ่งหนึ่ง

 ยังแก้ไม่ได้หมด อนาคามีนี้แก้ได้หมด

ปัญหาของพระโสดาบัน

ที่จะต้องไปแก้ขั้นต่อไปคืออะไร ก็กามราคะ

 ท่านยังไม่ได้ พิจารณาอสุภะ

ยังเห็นร่างกายว่าสวยงาม

 เห็นร่างกายดาราภาพยนตร์

 เห็นนายแบบนางแบบแล้ว

ยังเกิดอารมณ์ขึ้นมาอยู่

ยังอยากจะเสพกามอยู่

ก็เลยพลิกร่างกายของนายแบบนางแบบนี้

ให้กลายเป็นศพไป

 นึกถึงนายแบบนางแบบเวลาเป็นซากศพ

 ยังอยากอยู่หรือเปล่า ยังน่ารักอยู่หรือเปล่า

 เข้าไปดูภายใต้ผิวหนัง ฉายเอกซเรย์ดู

 นี่ปัญญานี้เหมือนกับเป็นเอ็กซเรย์

เราสามารถนึกได้ นึกถึงอวัยวะต่างๆ

 ที่มีอยู่ภายในร่างกาย อย่างลำไส้นี่

มันมีตั้งกี่เมตรเห็นไหม

มันขดไปขดมาอยู่ในท้องเรา

นี่กระเพาะนี่เห็นไหม ลำไส้ ปอด นี่หัวใจ

 ไต ตับ มันน่าดูไหม กระโหลก

นี่กะโหลกศีรษะ เห็นหน้าตาสวยงาม

แต่ภายในผิวบางๆ นี่

มันกลายเป็นอีกภาพหนึ่งเลย 

แต่มองไม่เห็นกัน ไม่มีปัญญา

ไม่ฉายเอกซเรย์ ไม่มีตาซุปเปอร์แมน

 ซุปเปอร์แมนนี้มันฉายทะลุเข้าไปเลย

 ถ้าเราพิจารณาเรื่อยๆ

พิจารณาอสุภะเรื่อยๆ ดูอาการ ๓๒ เรื่อยๆ

ในตอนนี้เดือนหน้าก็มีพระบนเขา

 ก็จะไปดูผ่าศพกัน

 เดือนหน้าจะไปโรงพยาบาลจุฬาฯ กัน

 จะได้เห็นชัดๆ ของจริง

 แล้วก็เอามาพิจารณาอยู่เรื่อยๆ

มาคิดอยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวลืม

ถ้าไม่คิดอะไรเดี๋ยวมันลืม

 นี่โยมไปเที่ยวต่างประเทศ

กลับมาก็ลืมแล้วสถานที่ต่างๆ ที่เคยไป

แต่ถ้าคิดอยู่เรื่อยมันก็จะไม่ลืม

อันนี้ก็เหมือนกันให้ไปดูของจริง

 ดูความไม่สวยไม่งามของร่างกาย

 แล้วมันก็จะดับกามราคะและปฏิฆะได้

ปฏิฆะก็เป็นผลตามจากกามราคะ

 เวลาเกิดกามราคะขึ้นมา

ก็หงุดหงิดใช่ไหมไม่มีความสุข

ก็เลยต้องมาดับด้วยการทำตามกามราคะ

 คนส่วนใหญ่ เขาดับความหงุดหงิด

ด้วยการเสพกาม พอเสพกามราคะ

กามราคะก็หยุดทำงาน

ความหงุดหงิดก็หยุดตามไป

 แต่มันไม่หยุดถาวร เดี๋ยวมันมาอีกรอบหนึ่ง

เดี๋ยวก็มาอีกรอบ อีกรอบเรื่อยๆ

 วิธีที่จะหยุดถาวรต้องไม่ทำตามกามราคะ

เวลาเกิดกามราคะต้องทำให้มันดับ

ให้มันหยุดไป วิธีทำให้มันหยุด

ก็ต้องเห็นภาพที่ไม่สวยงามของร่างกาย

ฉะนั้น เราต้องไปดู

และต้องพิจารณาอยู่เรื่อยๆ นึกอยู่เรื่อยๆ

คิดอยู่เรื่อยๆ ตลอดจนกระทั่งไม่ลืม

 พอเกิดกามารมณ์ขึ้นมาปั๊บ

 มันก็มาทันที เหมือนกับชกมวย

 พอคู่ต่อสู้เขาแย็บมาเราต้องแย็บกลับเลย

 ถ้าปล่อยให้เขาแย็บเดี๋ยวเราถูกน็อค

 คนที่ถูกน็อคก็เพราะนี่พอเห็นภาพสวยๆ

 แทนที่จะหยุด กลับจ้องเผ็งเลย

 หลับตาก็เห็นลืมตาก็เห็น เห็นแต่ภาพสวยๆ

 มันก็เลยเกิดกามารมณ์ เป็นอย่างนี้

 มันก็เลยต้องไปเสพกาม.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.......................

สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ

Create Date :13 มกราคม 2560 Last Update :13 มกราคม 2560 11:18:37 น. Counter : 650 Pageviews. Comments :0