bloggang.com mainmenu search








อริยสัจ ๔

ต่อให้เราทำตามความอยากเท่าไร

 ความอยากก็ไม่หมดไปใช่ไหม

 เราทำมาตั้งแต่เกิดแล้ว

เราอยากได้อะไรเราก็ไปหามา

 อยากดูอยากฟังอะไรเราก็ไปดูไปฟัง

 อยากเดินอยากรับประทานอะไร

เราก็ไปดื่มไปรับประทาน

แล้วมันหมดไหมล่ะ

มันก็ยังอยากเหมือนเดิม

 แล้วเวลาไม่ได้ทำตามความอยากเป็นยังไง

เราไม่ได้หยุดตัวของความอยาก

 ถ้าเราหยุดตัวความอยากได้

เราก็จะอยู่เฉยๆ ได้

ไม่ต้องไปดื่มไปรับประทาน

ไม่ต้องไปดูไปฟังอะไร

ถ้าจะดื่มจะรับประทาน

 ก็ดื่มแบบยารักษาร่างกาย

ร่างกายมันต้องการอาหารมันต้องการน้ำ

 ก็ให้มันไปตามความต้องการของมัน

แต่เราไม่ได้ทำตามความอยาก

เวลาร่างกายไม่ต้องการ

เราก็ไม่ให้มัน

แต่นี่เวลาร่างกายต้องการไม่ต้องการ

เราอยากเราก็ให้มันอยู่เรื่อย

ให้มันจนกระทั่งมันบอกพอแล้วพอแล้ว

 ร่างกายพอแล้ว ชั่งน้ำหนักทีไร

 เฮ้ย! ทำไมขึ้นไปเรื่อยๆ ขึ้นไม่ลดเลย

ก็เพราะความอยาก อยากดื่ม

อยากรับประทาน

นี่แหละที่เราไปศึกษากันไปปฏิบัติกัน

 ก็เพื่อที่จะให้เราเห็นตรงนี้

เห็นอริยสัจ ๔ ตัวที่มันอยู่ในใจของเรา

 แล้วก็ก่อกวนจิตใจของเรา

 เรามีอริยสัจ ข้อที่ ๑ ที่ ๒

 แต่อริยสัจที่ ๓ ที่ ๔ เราไม่ค่อยมีกัน

 เรามีแต่ทุกข์กับความอยาก

 แต่เราไม่มี "นิโรธ" ความดับทุกข์

 เราไม่มี "มรรค"

ที่จะเป็นเครื่องมือมาดับทุกข์

มรรค ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

 เราไม่ค่อยรักษาศีลกัน

 เพราะว่ารักษาศีลแล้ว

มันทำตามความอยากยากใช่ไหม

อยากจะได้อะไร

บางทีก็ต้องโกหกนิดหน่อย

พูดตรงๆ แล้วมันจะไม่ได้

อยากจะนั่งสมาธิก็ไม่ได้

เพราะว่าต้องถือศีล ๘ กัน

ถือศีล ๘ ก็ไปเที่ยวไม่ได้

จะหาความสุขจากทางตา หู

 จมูก ลิ้น กายไม่ได้

ก็เลยไม่ได้ปฏิบัติกัน

ไม่ชอบนั่งสมาธิกัน

 ไม่ชอบฟังเทศน์ฟังธรรมกัน

 เพราะฟังแล้วมันขัดกับกิเลส

 ฟังธรรมแล้วจะทำให้กิเลสมันต้องตาย

 กิเลสมันก็เลยไม่อยากให้เราฟังธรรม.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...........................

สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๐







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ

Create Date :09 กุมภาพันธ์ 2560 Last Update :9 กุมภาพันธ์ 2560 21:56:23 น. Counter : 575 Pageviews. Comments :0