bloggang.com mainmenu search









"ถ้ามีสติมีปัญญาแล้วใจเราจะสงบ"

พอเราฝืนความอยากที่จะไปหาความสุข

ทางตาหูจมูกลิ้นกายได้

ต่อไปความอยากนั้นก็จะหมดกำลัง

 แล้วมันจะไม่มาลากเรา

มันจะไม่มาผลักเรามาดันเรา

ให้ไปหา รูป เสียง กลิ่น รส อีกต่อไป

เราก็อยู่เฉยๆ ได้ อยู่โดยไม่ต้อง

มีรูป เสียง กลิ่น รส มาให้ความสุขต่างๆ

ฉะนั้นตอนต้นนี้เราจะต้องบังคับใจเรา

 ต้องฝืนใจ อย่าไปทำตามความอยาก

พยายามถอนตัวออกจากการติดอยู่กับ

รูป เสียง กลิ่น รส ติดกับสิ่งนั้นสิ่งนี้

บุคคลนั้นบุคคลนี้ แล้วต้องไปหาที่สงบ

ไปนั่งสมาธิกัน ทำใจให้สงบให้ได้

พอใจสงบมีความสุขแล้ว

 ทีนี้ก็จะมีกำลังที่จะตัด

เวลาเกิดความอยากขึ้นมาก็ใช้ปัญญา

 ถ้าใช้สติมันไม่ตาย ต้องใช้ปัญญา

ต้องเห็นว่าการทำตามความอยากนี้

เป็นการหาความทุกข์ ไม่ใช่หาความสุข

 เพราะสิ่งที่เราอยากได้นั้นมันไม่เที่ยง

 มันเปลี่ยนได้ มันหมดได้

เวลามันเปลี่ยนเวลามันหมด

 มันก็ทำให้เราทุกข์

 มันไม่ได้เป็นของเราอย่างแท้จริง

 เป็นของชั่วคราว เป็นสมบัติชั่วคราว

เป็นความสุขชั่วคราว พอมันไม่ได้เป็นของเรา

 เราก็เลยทุกข์ เวลาเราไม่มีอะไรให้เสพนี้

เราจะทุกข์กัน หรือเวลาร่างกายเรา

ไม่สามารถจะเสพรูปเสียงกลิ่นรสได้ ก็ทุกข์กัน

 เวลาแก่เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเวลาจะตาย

 คนจะไม่ค่อยชอบกัน

เพราะจะไม่สามารถหาความสุข

จากรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ ได้นั่นเอง

แต่ถ้าเราฝึกใจทำใจ ให้สงบได้แล้ว

 เราก็ไม่ต้องใช้ร่างกาย

ร่างกายแก่เจ็บตายเราก็ไม่เดือดร้อน

 เพราะเรายังมีความสุขใจ

ความสุขของเราไม่ต้องใช้ร่างกาย

ความสุขของเราใช้สติแทน ใช้ปัญญาแทน

ถ้ามีสติมีปัญญาแล้วใจเราจะสงบ

 ใจเราจะมีความสุข อันนี้เป็นของวิเศษ

ที่เราไม่รู้กัน คนเกิดมาในโลกนี้

ต้องคิดว่าต้องมีลาภ ยศ สรรเสริญกัน

 ถึงจะมีความสุข ต้องมีเงินทอง

มีตำแหน่ง ต้องมีคนยกย่องสรรเสริญเยินยอ

 ต้องมีคนนั้นคนนี้มาให้ความสุขกับเรา

มีสิ่งนั้นสิ่งนี้มาให้ความสุขกับเรา

ก็เลยต้องไปหาสิ่งต่างๆ กัน

แต่ได้มาเท่าไหร่ไม่ช้าก็เร็ว

ก็ต้อง พลัดพรากจากกัน.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.......................

สนทนาธรรมมะบนเขา

วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐








ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ

Create Date :24 กุมภาพันธ์ 2560 Last Update :24 กุมภาพันธ์ 2560 9:20:34 น. Counter : 789 Pageviews. Comments :0