จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
 
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

เงื่อนไขการปฏิวัติ - บทที่ 1 ก้าวแรกของการปฏิวัติ (ตอนที่ 5)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

เขียนระหว่างปี พ.ศ. 2526 - 2528

บทที่ 1 ก้าวแรกของการปฏิวัติ (ตอนที่ 5)

สัจธรรมอีกข้อหนึ่งก็คือ การปกครองบ้านเมืองที่ได้มาจากการใช้กำลัง จะต้องมีกำลังอยู่ในมือ เพื่อที่จะรักษาอำนาจที่ได้มานั้นไว้ให้ยืนยง ฉะนั้น คณะผู้ปกครองประเทศ ที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารนั้น จำจะต้องมีฐานแห่งอำนาจไว้ในมือ ฐานที่ว่านี้ก็คือ กำลังทหาร และต้องมีอำนาจในการใช้กำลังนั้นเด็ดขาด และกำลังทหารนี้ก็ย่อมต้องหมายถึง กำลังทหารบก

กำลังทหารบก ที่สำคัญที่สุดก็คือ กำลังทหารราบ คือ ทหารเดินดินนี่แหละครับ เพราะกำลังทหารเหล่านี้ ใช้ในการยึดพื้นที่ได้มั่นคง ในทางยุทธวิธี เขาสอนไว้ว่า “ ทหารราบ คือ เหล่าหลักในการรบ ”

ทหารเหล่าอื่น ๆ นั้น ยึดพื้นที่ไม่ได้ ไม่มีสมรรถนะในการยึดพื้นที่

ทหารเรือนั้น ก็ได้แต่อยู่ในเรือในน้ำ ที่เดี๋ยวนี้ ได้เกิดมีกำลังหน่วยนาวิกโยธินขึ้นมานั้น ก็ด้วยการสำนึกในหลักอันนี้

ทหารอากาศตั้งหน่วยอากาศโยธิน ขึ้นมาก็ด้วยความสำนึกในหลักยุทธวิธีข้อนี้เช่นกัน ถ้ามิฉะนั้นแล้ว ทหารเรือก็จะต้องอยู่แต่บนเรือในน้ำ และทหารอากาศก็จะบินอยู่แต่บนท้องฟ้า ถูกยึดสนามบินได้เมื่อไร ก็ไม่มีทางที่จะลงมาได้ แล้วเรื่องที่จะบินอยู่ในอากาศนาน ๆ นั้น เดี๋ยวก็หล่นลงมาเอง ฉะนั้น หน่วยนาวิกโยธินก็ดี หน่วยอากาศโยธินก็ดี นั่นก็คือ หน่วยทหารราบของแต่ละกองทัพนั่นเอง เอาไว้เพื่อที่จะจัดที่ทางบนพื้นดินให้พวกได้ใช้ ให้ทหารเรือขึ้นบกได้ และให้ทหารอากาศมีทางลงมาบนดินได้ เท่านั้นเอง แต่จะมีกำลังเป็นปึกแผ่นอย่างทหารบกเขานั้น ไม่ได้ มันมากไป

ฉะนั้น ผู้ที่จะทำการปฏิวัติ ก็จะต้องมีกำลังทหารราบไว้ในกำมือเป็นปึกแผ่น ใครต่อใครต่างกลัวกันนัก ถึงเรื่องที่รถถังจะเคลื่อนออกมา

รถถัง ไม่ใช่เครื่องมือที่น่ากลัวอะไรเลย ถ้ารู้ถึงสมรรถนะของมัน

รถถังนั้น ป้องกันตัวเองไม่ได้ มีเกราะกำบังแน่นหนา สามารถที่จะบุกบั่นไปไหน ๆ ได้ โดยมีเกราะป้องกันก็จริง แต่ความสามารถนั้นมีจำกัด พลประจำรถอยู่ได้แต่ในตัวรถ ออกมาเมื่อไรก็โดนกระสุน
ฉะนั้น รถถังจึงต้องมีทหารราบคุ้มกัน ในขณะทำการรบ และใช้เป็นตัวนำ ทหารราบเข้ายึดพื้นที่ โดยเป็นเกราะกำบังให้ ในขณะเคลื่อนที่ ก็เท่านั้น

การปฏิวัติทุกครั้ง ภาษาทหารเขาเรียกว่า จะต้องมีเงื่อนไข

คำว่า “ เงื่อนไข ” นี้ ก็แปลเป็นภาษาพลเรือนเรา ๆ ว่า “ เหตุผล ” นั่นเอง คือ จะต้องมีข้ออ้างว่า ที่ต้องทำการปฏิวัติรัฐประหารครั้งนั้น ๆ เพราะมีเหตุผลอะไร เช่น อ้างว่า ราษฎรเดือดร้อนอดอยาก เพราะผู้ปกครองประเทศมัวแต่กอบโกยยังงี้ หรือ อ้างว่า ประชาชนทำมาหากินไม่ได้โดยเสรี เพราะผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ๆ ต่างเอาพรรคพวกเข้าไปแย่งการทำมาหากินเสียหมด และยังมีอีกหลายเงื่อนไข ที่แล้วแต่จะคิดออก แต่ความเป็นจริงแล้ว ประชาชนไม่ค่อยจะรับรู้จริง ๆ เท่าไร ก็เห็นจะเป็นเพียงพวกประชาชนที่มีรถถัง มีปืน อยู่ในมือนั่นแหละครับ ที่เดือดร้อนเอง

เดือดร้อน เพราะ ... เอ๊ะ ... พวกกูชักจะถูกบีบคั้นมากไปเสียแล้ว ถ้าปล่อยให้เขาบีบเอา ๆ บีบเอาจนหน้าเขียว เห็นทีจะไปไม่รอด ต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่จะรักษาสถานการณ์ของตัวเองให้คงอยู่ได้ เรากำลังมีอำนาจ มีอาวุธ มีกำลังในมือ นี่หว่า ... ปฏิวัติซีวะ ... ก็เท่านี้แหละครับ

ประชาชนอยู่เฉย ๆ ไม่รู้เรื่อง ก็โดนจับเอาชื่อไปอ้าง

ใครก็ไม่ทราบ ความจริงทราบดี แต่ก็บอกว่า ไม่ทราบ ก็พูดเข้าหูอยู่ไม่กี่วันมานี้ว่า

“ ผมออกความคิดและพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ทหารก็คือประชาชน ประชาชนก็ต้องมาเป็นทหาร มันแยกกันไม่ออก ทำไมผมจะพูดบ้างไม่ได้ว่า ผมจะออก เอ๊กเซอร์ไซส์ ”

“ ครับ ” - - “ อันนี้ ผมพูด ผมทราบดีครับ แต่ประชาชนอย่างผมจะออกเอ๊กเซอร์ไซส์มั่ง มันออกไม่ได้ ”

ผมจะไม่บอกว่า ทำไมผมถึงออก เอ๊กเซอร์ไซส์ไม่ได้

บางคนเคยมีอำนาจในมือมากหลาย อยู่ ๆ ก็มีพวกอื่นมาตั้งบังคับให้อำนาจนั้นค่อย ๆ หดลงไป ความที่มันมีอำนาจเสียจนเคยตัว พอเห็นว่าจะต้องค่อย ๆ เสียอำนาจลงไป เพราะคนพวกนั้นวางแผนการ ก็จำเป็นอยู่เองที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อที่จะยับยั้งแผนการของพวกนั้น อะไรก็ไม่ดีเท่าการยึดอำนาจ หรือที่เรียกกันพื้น ๆ ว่า “ ปฏิวัติ ”

บางคนก็เผลอหลุดปากออกมาว่า จะสนับสนุนคนนั้นคนนี้แต่ผู้เดียว เพื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีตลอดกาล ทำยังกับว่า เมืองไทยนี้ ไม่มีใครดีเท่า หรือดีกว่า บุคคลคนนั้นอีกแล้ว หรือไม่ยังงั้น ก็เผลอคิดไปว่า เมืองไทยนี้เป็นของกู หรือพวกกูแต่ผู้เดียว เฮ้อ ... เขียนแล้วเหนื่อย

พอท่านรู้สึกตัวว่า ท่านเพ้อเจ้อมากไปหน่อย ท่านก็ตะเบ็งเสียออกมาว่า
“ ผมหยุดแล้ว ทำไมคุณไม่หยุด ”

ฮี่ธ่อ .. ก็เล่นเตะตูดผมป้าบใหญ่ แล้วบอกว่า ผมหยุดเตะแล้ว ทำไมคุณยังง้างตีนอยู่อีก มันจะถูกหรือครับ แล้วถ้าผมจะง้างเท้ามั่ง จะเป็นเงื่อนไขที่จะต้องปฏิวัติไหมครับ ผมขอถามหน่อย

แล้วทำไมต้องเอาวจีของพระพุทธเจ้าท่านมาอ้าง จะซวยนะครับ

เรื่องนี้ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะผมตั้งใจที่จะเขียน เงื่อนไขการปฏิวัติให้หมดเปลือก และในช่วงชีวิตของผม ผมได้พบกับการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้ง มีสิ่งที่น่าเรียนรู้ทั้งนั้น

-จบบทที่ 1 -




 

Create Date : 20 มีนาคม 2555
1 comments
Last Update : 26 มีนาคม 2555 2:55:15 น.
Counter : 746 Pageviews.

 

ขอบคุณมาก..

 

โดย: ก้นกะลา 20 มีนาคม 2555 18:33:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.