รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2559
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 พฤษภาคม 2559
 
All Blogs
 
ยิ่งฝีกฝนการภาวนา ยิ่งไม่ก้าวหน้า จะแก้ไขอย่างไร

มีคำถามที่น่าสนใจในกิจกรรมครั้งที 11 ว่า

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีคำถามว่า....
ยิ่งฝีกฝน ทำไมยิ่งถอยหลัง อารมณ์โหโหฉุนเฉียวเกิดง่าย เกิดบ่อยมากกว่าเดิม จะแก้ไขอย่างไรดี

ในการภาวนานั้น จะก้าวหน้าหรือไม่นั้น ให้ใช้หลักการของอริยสัจจ์ 4
ข้อที 1 และ 2 เป็นเครื่องมือตรวจสอบ

เมื่อภาวนาไป อารมณ์โมโหฉุนเฉียวทีเกิดขึ้น เมื่อจิตไปสัมผัสได้แล้ว
นี่คือ ทุกข์ทีเกิดขึ้น
เมื่อเกิดแล้ว ก็ให้ดูต่อไปว่า จิตไปยีดติดหรือไม่
นีคือ การสำรวจสภาวะของตัณหา

ถ้าจิตไปยีดติดด้วยตัณหา ทุกข์ทีเกิด จะเกิดค้างอยู่นาน
ถ้าจิตรู้แล้วไม่ยีดติดด้วยตัณหา ทุกข์ที่เกิดแล้วจะดับไปเป็นไตรลักษณ์ในเวลาทีไม่นาน

การภาวนานั้น ไม่ใช่ไปดูว่า จิตใจนิ่งสงบไม่มีอารมณ์ไม่ดีเกิดขึ้น
แต่นักภาวนาต้องดูว่า สิ่งทีเกิดในจิตใจนั้น เกิดได้ด้วยเหตุและปัจจัย
แต่สิ่งเหล่านี้ ถูกยีดติดไว้หรือไม่ นีคือ วิธีตรวจสอบการภาวนาของตนเอง

ถ้านักภาวนาฝีกฝนไป แล้วพบว่า จิตใจหงุดหงิดง่าย โมโหง่าย
แต่พบว่า ทุกครั้งทีเกิดอารมณ์ดังกล่าว มีสภาวะการรู้เกิดขึ้น และอารมณ์เหล่านี้
ได้ดับสลายไปอย่างรวดเร็วเป็นไตรลักษณ์
ถ้านักภาวนาพบแบบนี้ แสดงว่า การภาวนาได้ก้าวหน้าแล้ว ไม่ใช่ไม่ก้าวหน้า

ขอให้อ่านเรื่องนี้ ประกอบ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=03-2016&date=25&group=17&gblog=142

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีอีกคำถามหนี่งมีว่า

ตอนฝีกเดินจงกรม ทำไมความคิดมี คิดไม่หยุด จะแก้ไขอย่างไร

เรื่องนี้ ขอให้นักภาวนาสำรวจอย่างนี้ว่า ทีว่า คิดไม่หยุด นั้น ยังสามารถรู้อาการทางกายในขณะเดินจงกรมได้อยู่หรือไม่

ถ้านักภาวนาสามารถรู้อาการทางกายได้อยู่ นักภาวนาไม่ต้องตกใจ ขอให้ปล่อยอาการ
คิดไม่หยุดไว้ต่อไป ให้จิตเขาคิดไป แต่ต้องรู้กายไปด้วย แล้วฝีกฝนต่อไป
เพราะในขณะทียังรู้กายได้อยู่ แต่มีความคิดด้วย แสดงว่า ตอนนั้น จิตไม่ได้หลุดไปเกาะติดกับความคิด เมื่อจิตไม่หลุดออกไปเกาะกับความคิด
แสดงว่า จิตตั้งมั่นในระดับหนี่งแล้ว

การฝีกฝนอย่างนี้ต่อไป จะยิ่งทำให้จิตตั้งมั่นมากขึ้นไปตามลำดับ
การมีความคิดเกิดขึ้น แต่จิตตั้งมั่นได้อยู่
จะยิ่งเป็นตัวการส่งเสริมให้นักภาวนามีจิตตั้งมั่นได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้านักภาวนา เดินจงกรม แล้วมีความคิด แต่เกิดอาหารไม่รู้อาการทางกายแล้ว
อย่างนี้ แสดงว่า จิตได้หลุดไปเกาะกับความคิดแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้
ไม่ดีครับ
วิธีแก้ ก็คือ ขอให้เพิ่มความตั้งใจในการเดินให้มากขึ้น
เช่นเดินช้าลงไปกว่าเดิม การตั้งใจมากขึ้น จะทำให้จิตหยุดความคิดได้ดีขึ้
ความคิดจะเกิดน้อยลง

==============
ความเข้าใจในพื้นฐานของการภาวนานั้นเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะถ้าเข้าใจไม่ตรงทาง จะทำให้เข้าใจผิดและผลคือ
จะไม่สามารถพัฒนาจิตจนเข้าสู่การหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้เลย

จำไว้แม่น ๆ ครับ อริยสัจจ์ 4 ข้อ 1 และ 2 ทีว่า
ทุกข์ให้รู้ แต่สมุทัยคือตัณหา ต้องละเสีย
แปลว่า อย่าให้จิตไปเกาะติดกับทุกข์ทีรู้นั่นเองครับ
แต่ถ้าไม่รู้ทุกข์เลย นีใช้ไม่ได้นะครับ

ขอบคุณท่านทีถาม



Create Date : 21 พฤษภาคม 2559
Last Update : 21 พฤษภาคม 2559 8:15:49 น. 0 comments
Counter : 2200 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.