ในที่ทำงาน...
ในที่ทำงาน...
เมื่อต้องทำงานร่วมกัน สิ่งที่ตามมาก็คือ ความขัดแย้งในด้านความคิด ผลที่ตามมาก็คือ การขัดเคืองใจ หดหู่ใจ สำหรับผู้แพ้ และ ความฮีกเหิม สำหรับผู้ชนะ
ที่ทำงานจึงเป็นสถานที่ดีทีสุดสำหรับการภาวนาเพื่อการรู้ธรรม เพราะธรรมได้เกิดขึ้นจริง ๆ ไร้การเสแสร้ง และ เกิดได้บ่อยตลอดเวลา
เมื่อท่านยังไม่แกร่งพอในการภาวนา ท่านจะพบกับอารมณ์ของตนเองอยู่เสมอในที่ทำงาน แล้วท่านจะเดินทางได้อย่างไรในการภาวนา
สิ่งที่ท่านสามารถทำได้ มี 2 อย่าง
1.. การเตรียมตัวก่อนการเข้าสุ่สนามรบ
ในตำราได้กล่าวว่า จิต คือ พุทธะ สิ่งที่ท่านควรเตรียมตัว คือ ควรหัดพบพุทธะเสมอๆ ในที่ทำงาน การพบพุทธะ คือ การพบกับ.จิต. การพบกับ.จิต. คือ การพบกับสภาวะ.รู้.
ถ้าท่านต้องการพบ.พุทธะ. ท่านเพียงมีสภาวะ.รู้.ที่เบิกบานใจ ท่านก็พบกับ.พุทธะ.แล้ว
ในการรู้ทุกครั้ง ต้องมีสิ่งที่จิตไปรู้เข้า และ สิ่งที่จะไปรู้เข้า สำหรับผู้ที่ยังไม่แกร่ง ผมแนะนำท่าน 2 อย่าง คือ การรู้กาย หรือ การรู้สภาวะจิตใจที่สบาย ๆ อยู่
การรู้กายนั้น คือ การรู้สภาวะ ดิน ไฟ ลม เพียงท่านลูบหลังมือเบา ๆ สัก 10 วินาที ท่านก็จะพบพุทธะแล้ว 10 วินาที
การรู้สภาวะจิตใจที่สบาย ๆ อยู่ ถ้าท่านเคยพบกับสภาวะแบบนี้ตอนที่ท่านไปเที่ยวพักผ่อน ท่านก็เพียงนีกถึงสภาวะนี้สัก 10 วินาที ท่านก็ได้พบพุทธะ 10 วินาทีเช่นกัน
ท่านไม่ต้องพบพุทธะนานในแต่ละครั้ง ท่านเพียงพบครั้งละ 10 วินาที แต่วันหนี่ง ให้พบพุทธะบ่อยๆ สักหน่อย พอนึกได้ทีหนี่ง ก็พบท่านครั้งหนี่ง
นี่คือการเตรียมพร้อมสำหรับจิตใจก่อนการเข้าสนามรบแห่งการขัดแย้ง
2..การพ่ายแพ้ในสนามรบ
การพ่ายแพ้ในสนามรบ มันสร้างความเจ็บปวดอย่างมากในจิตใจ ทางออกมีอยู่ 2 อย่าง คือ
2.1 ถ้าท่านพร้อมจะยอมรับความเจ็บปวดนั้นได้นาน ๆ
ถ้าท่านพร้อม ขอเพียงท่านนั่งทำงานต่อไป พร้อมกับทนรับความเจ็บปวดทางจิตใจไป ท่านเพียงรับรู้และเฝ้าดูอาการเจ็บปวดนี้ไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น ท่านจะพบว่า มันจะค่อย ๆ สลายตัวไปเองอย่างช้า ๆ เพราะกำลังจิตของท่านยังไม่แกร่งพอ
ในการอมความขมชื่นไว้ ท่านจะได้พบกับธรรมเป็นการตอบแทน
2.2 ถ้าท่านไม่พร้อมจะยอมรับความเจ็บปวดนั้นได้นาน ๆ
ให้ท่านรีบทำสมถกรรมฐานทันที จะเป็นบริกรรมเร็ว ๆ รับรู้แต่คำบริกรรมก็ได้ หรืออะไรก็ได้แล้วแต่ท่านจะถนัด ท่านทำไป จิตใจท่านจะดีขึ้น แต่ท่านจะไม่พบธรรม เพราะท่านไปกดข่มจิตใจไว้
******************
การยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในจิตใจได้เมื่อไร ความข่มขื่นใจก็จะลดลงไปเอง ถ้าท่านสามารถยอมรับข้อ 2.1 ได้ ผมแนะนำให้ท่านลองดูครับ จากประสบการณ์ที่ผมพบเอง ในการภาวนา ผมก็พบธรรมได้จากวิธีนี้เช่นกัน
ความขมขื่น ล้วนเป็นทุกข์ที่เกิดจริงให้ท่านรับรู้ เป็นธรรมของจริง ถ้าไม่มีทุกข์นี้ ท่านก็ยากจะก้าวหน้าไปสู่การพ้นทุกข์ ผมเคยบอกท่านแล้ววา วิธีการของผม การฝีกนั้นดูง่าย สบาย ๆ แต่ท่านต้องก้มหน้ารับทุกข์ไปเต็มๆ พอสมควร ท่านจึงจะหลุดจากทุกข์ได้ นี่คืออริยสัจจ์ 4
ทุกข์ให้รู้ สมุทัยให้ละ นิโรธทำให้แจ้ง มรรคทำให้มาก
******** ในผู้ที่ชำนาญมากๆ ในการภาวนา เมื่อท่านที่ชำนาญนี้พบกับปัญหาเหล่านี้ จิตท่านจะยอมรับปัญหา ท่านเห็นมันเกิด เมื่อจิตท่านยอมรับมัน มันก็ดับไปทันทีเป็นไตรลักษณ์ นี่คือผลแห่งการยอมรับของจิต เมื่อจิตยอมรับแล้ว มันก็ไม่ใช่ปัญหาเลย จริงใหมครับท่าน
***** เอฟบี 27 July 2012 6.55AM
Create Date : 27 กรกฎาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 27 กรกฎาคม 2555 6:57:23 น. |
Counter : 2527 Pageviews. |
|
|
|
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=07-2012&date=04&group=14&gblog=11