|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เพลงรักฤดูร้อน
 | |  | |

ชื่อภาพ : กระดิ่งและกระติกไอติม สถานที่ : เยาว์วัยนิวาส เทคนิค : ลายเส้นปากกา สีน้ำบนกระดาษ ขนาด : ๒๘ x ๓๘ เซนติเมตร
เพลงรักฤดูร้อน sing along to that summer love song
คุณที่รัก
สำหรับวัยรุ่น เสียงกระดิ่งรถจักรยานบุรุษไปรษณีย์ คือเสียงสวรรค์ แต่เปรียบกับเด็ก ๆ แล้ว เสียงกระดิ่งของรถขายไอติม คือเสียงเพลงรักที่พวกเขารอคอย
ไอติม ครับ แถวบ้านผมเขาเรียก ไอติม ลางคนก็เรียก ไอสะติม และลดรูปมาแค่ "สะติม"
ไม่มีเด็กคนไหนหรือผู้ใหญ่ก็เหอะเรียกเต็มยศเต็มอย่างว่าไอศกรีม(ice cream)หรอก ผมจะเขียนทั้งภาษาเขียนและภาษาปาก นั่นแหละครับ (ด้วยรำคาญพจนานุกรมอวดรู้ในคอมพิวเตอร์)
คนไทยเรารู้จักกินไอศกรีมกันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ โน่นแล้ว โดยสั่งน้ำแข็งมาจากสิงคโปร์ ส่วนไอติมหลอด หรือไอติมแท่งที่ใช้น้ำหวานใส่หลอดสังกะสี ลงถังเขย่าให้แข็ง และมีก้านไม้เสียบนั้นเพิ่งมามีในสมัย ร.๗
กว่าจะพัฒนามาเป็นไอติมแบบที่เรียกว่า ไอติมแท่ง หรือ ไอติมนม ที่เรียกเช่นนั้นเพราะมีส่วนผสมของนมเป็นหลัก (ไม่ใช่น้ำหวานเหมือนไอติมหลอด) จากไอติมก้อนใหญ่ ห่อกระดาษแช่ในถังน้ำแข็งไว้ เขาจะตัดแบ่งขายเป็นแท่ง ๆ เสียบไม้ให้ถือรับประทานได้สะดวก
คุณคงนึกภาพออก แต่ไอศกรีมโบราณรุ่นแรก ๆ นั้น เป็นไอศกรีมที่ทำจากเนื้อมะพร้าวอ่อน หวานหอมกลิ่นดอกนมแมว และโรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว ต่อมาก็ดัดแปลง โดยใช้กะทิสดผสมกับน้ำตาลนำไปปั่นให้แข็ง เนื้อไอติมค่อนข้างใสเป็นเกล็ดน้ำแข็งละเอียด เวลารับประทานต้องขูดไอติมออกจากขอบหม้อโลหะเมื่อไอติมเริ่มแข็งตัว ตอนขายตักใส่ถ้วยเป็นลูก ๆ เรียกไอติมตัก กินกับถั่ว ข้าวเหนียว หรือลูกชิด บางคนกินกับขนมปังที่หั่นเป็นท่อน สมัยผมเร่ิมใช้ขนมปังแบบแผ่นประกบกัน ทั้งยังราดนมสดด้วย
ไอติมตักแบบนี้ยังมีขายมาจนปัจจุบัน แต่ไอติมที่ผมเกี่ยวพันทันได้หิ้วกระติกใส่ตะกร้าหวาย ผูกท้ายรถถีบ, รถหลิ้งขาย ก็คือไอติมหลอดครับ เพื่อนผมขายอยู่ก่อน เขาเห็นผมบ่นเรื่องหาบขนมขายตอนปิดเทอมฤดูร้อน เขาก็เลยชวนให้มาลองขายไอติมดู
ที่บ้านผมคนทำไอติมหลอดเป็นชาวญวน ไม่รู้มาตกค้างไทยสมัยไหน อยู่เขย่าถังไอติมออกมาเป็นลูกคนไทหัวปีท้ายปี (ยังเล่าไม่ได้ครับ แกตายไปแล้ว แต่เมียและลูกเต้ายังอยู่)
แต่ดูเถอะ ทำไมผมจำไม่ได้ว่าไอติมสมัยนั้นหลอดละกี่สลึง กระติกหนึ่งประมาณกี่บาท เขาหักทุนไปกี่บาท คนขายได้กี่บาท... ผมไปรับไอติมมาขาย เขาจะใส่กระติกให้ กระติกอย่างที่เห็นในภาพนั่นแหละ คุณยังทันเห็นไหม ข้างในนั้นเป็นแก้วใสสีสวยจุไอติมได้ร่วม ๒o-๓o แท่งได้ แรก ๆ เขาก็ให้ทดลองขายก่อนหนึ่งกระติก ขายเก่งก็เพิ่มให้เป็นสองกระติก แต่ผมมีจักรยาน ไม่ต้องสะพายไหล่เดินขาย เขาก็ให้ตะกร้าหวายใหญ่ที่แบ่งเป็นช่อง แบบสอง-สี่- หก - แปดกระติก...
น่าเสียดายจริง ๆ ทำไมผมจำรายละเอียดอะไรไม่ได้ชัด ทั้งที่ภาพในสมองนั้นบรรเจิดทั้งสีสัน แสงและเสียง...
ผมจะเลือกทำเลร่มรื่นใต้ต้นไม้ใหญ่ลานกว้างกลางหมู่บ้าน จอดตั้งขาตั้งรถถีบ เปิดหมวกกระพือลมไล่เหงื่อร้อน ก่อนจะประจงลั่นรัวกระดิ่งราวกับนักดนตรีบรรเลงเพลงอันเพราะพริ้งเป็นระยะ ๆ เพื่อเรียกเด็ก ๆ ทั่วทุกทิศ มาชุมนุมรุมล้อม...ผมจดจำห้วงเวลารื่นรมย์ที่ผ่านเลยนั้นได้ดี...
ขณะก้มเปิดฝาจุกกระติก ไอเย็นพวยออกมากระทบจมูก...ขณะหยิบยื่นแท่งไอติมสีแดง เหลือง เขียว ส้ม ฟ้า ขาว ยื่นให้มือที่ชูสลอน และแววตาที่วาววามความหวังและขณะพวกเขาลิ้มเลียเคลียคลอ ดูดดื่มความสุขจนเหลือแต่ก้าน ความสุขที่หวาน...เย็น...และแสนชุ่มชื่นใจ...
เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๒๒ มิ.ย. ๒๕๕๗ เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์

| |  | |  |
คุณพิบูลศักดิ์ลงภาพสีน้ำงาม ๆ และถ้อยคำเพราะ ๆ ในเฟซบุค เห็นแล้วชอบมาก ๆ เอามารวมกับคอลัมน์บล็อกละบท เลือกบทที่เนื้อหาเข้ากันค่ะ
 | |  | |

ฤดูว้าเหว่ของหัวใจ
ดูสิ...
มองออกไปนอกหน้าต่างความเศร้าตรม
ยังมีความอภิรมย์หลงเหลืออยู่
ขอเพียงเช็ดน้ำตาเงยหน้าดู
และเปิดใจเราเรียนรู้
ฤดูว้าเหว่ของหัวใจ (ตน)
(ฤดูว้าเหว่ของหัวใจ กุลสตรีปักษ์หลังพฤษภา ๕๗)
จาก เฟซบุคพิบูลศักดิ์ ละครพล
| |  | |  |
A Summer Place - Andy Williams
บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ
บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100
Free TextEditor
Create Date : 23 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2557 20:49:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4156 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|