สธ. ชี้ตระกูลอ้วน เหตุกินแต่แป้ง ถือเป็นกรณีศึกษาขาดสารอาหาร

จนท.จากอำเภอสัตหีบและอบต.พลูตาหลวง รุดเข้าช่วยเหลือตระกูลอ้วน
ซึ่งลูกๆ 9 คน มีน้ำหนักรวมกันกว่า 1 พัน ก.ก. ทั้งที่มีฐานะยากจน
ขณะที่แพทย์ระบุว่าเป็นความอ้วนอันเกิดจากภาวะขาดสารอาหาร ตามข่าว

นอภ.สัตหีบ สั่งช่วยเหลือครอบ ครัวอ้วน เผยภูมิลำเนาเดิมเป็นคนชัยนาท
ย้ายไปอยู่ตราดก่อนจะมาตั้งรกรากที่สัตหีบ ทุกวันนี้อยู่แบบคนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงใดๆ
เพราะไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน หลังตกเป็นข่าวมีคนใจบุญรับเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว
ชาวพลูตาหลวงแวะไปเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย หมอไขปริศนาอ้วน ชี้เป็นโรคขาดสารอาหารอย่างหนึ่ง
เพราะกินแต่อาหารซ้ำๆ คือข้าวที่เป็นแป้งกับน้ำพริก ทำให้ขาดโปรตีน วิตามิน
เพราะไม่มีเนื้อสัตว์ชนิดอื่นเลย ถือเป็นกรณีศึกษา

จากกรณีฮือฮาพบครอบครัวอ้วน อาศัยอยู่ในชุมชนหลังวัดราษฎร์สามัคคี หรือวัดก.ม.10 หมู่ 1
ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีนายรอด จันทร์นาจ อายุ 74 ปี เป็นหัวหน้าครอบครัว
และมีนางบุ จันทร์นาจ อายุ 72 ปี ภรรยา พร้อมบุตรชายรูปร่างใหญ่โต 6 คน
ผู้หญิงรูปร่างไม่แพ้กันอีก 3 คน รวม 9 คน ล้วนอ้วนท้วนสมบูรณ์
ประกอบด้วย นายญวน อายุ 49 ปี น้ำหนัก 90 ก.ก. นายเสมอ อายุ 46 ปี น้ำหนัก 130 ก.ก.
นายณรงค์ อายุ 40 ปี น้ำหนัก 70 ก.ก. นางน้ำทิพย์ อายุ 36 ปี น้ำหนัก 103 ก.ก.
นายสมชาย อายุ 33 ปี น้ำหนัก 200 ก.ก. นายนิตย์ อายุ 33 ปี (คู่แฝดกับนายสมชาย) น้ำหนัก 98 ก.ก.
นายทัด อายุ 29 ปี น้ำหนัก 120 ก.ก. นางรัชนา อายุ 27 ปี น้ำหนัก 110 ก.ก.
และนางบังอร อายุ 26 ปี น้ำหนัก 80 ก.ก. รวมน้ำหนักทั้งครอบครัว 1,096 กิโลกรัม
โดยทุกวันนี้ประกอบอาชีพร้อยพวงมาลัยขาย กินผักบุ้งจิ้มน้ำพริกเป็นอาหารหลัก
ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร นายอำเภอสัตหีบ มอบหมายให้นางสุจารี ศรีถนอม
รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคมเดินทางไปเยี่ยม
ครอบครัวนายรอด โดยทราบว่า ครอบครัวนี้มาพักอาศัยอยู่ในเขตพลูตาหลวงนานกว่า 50 ปี
โดยปลูกบ้านในที่ดินของกองทัพเรือ เลขที่ 507 หมู่ที่ 1 ต.พลูตาหลวง
ไม่สามารถออกหลักฐานโฉนดที่ดินได้ ขณะนี้กองทัพเรือกำลังอยู่ในขั้นตอนการเวียนคืนที่ดิน
ส่งผลให้ครอบครัวอ้วนและอีกหลายครอบครัว ไม่มีสำเนาทะเบียนบ้านในพื้นที่พักอาศัย
และไม่เคยได้ใช้สิทธิอันพึงได้เหมือนประชาชนคนอื่นๆ เช่น การออกเสียงเลือกตั้งระดับต่างๆ

นายณรงค์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ทางอำเภอไม่ได้นิ่งดูดาย หลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าว
ได้มีนางสมถวิล ลีศรีสุข อยู่บ้านเลขที่ 11/42 หมู่ที่ 2 ต.พลูตาหลวง
ยื่นความจำนงให้นำรายชื่อสมาชิกของครอบครัวดังกล่าว ไว้ในสำเนาทะเบียนบ้าน
เพื่อจะได้ให้องค์การบริหารส่วนตำบลทำเบิกบัญชีเงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
คนละ 500 บาทต่อเดือนให้กับนายรอด และนางบุ
ส่วนลูกๆ อีก 9 คนนั้น แล้วแต่ว่าเจ้าของบ้านจะยินยอมหรือไม่
เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่มีความเป็นมาตรวจสอบประวัติได้

"แต่เดิมครอบครัวนี้ มีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.ชัยนาท แล้วย้ายถิ่นฐานไปอยู่ จ.ตราด
และย้ายมาอาศัยอยู่ที่อ.สัตหีบจนมีบุตรจำนวนมาก ใช้ชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ
โดยครอบครัวนี้ยังยืนยันว่ากินผักบุ้ง น้ำพริกธรรมดา และปลาร้าเป็นประจำ
ส่วนที่อ้วน สาเหตุอาจจะเกิดจากเขาชอบนำกากหมูมาผัดกับผักบุ้ง ทำให้ไขมันสะสมมากในร่างกาย
ขณะนี้ครอบครัวคนอ้วนเป็นที่รู้จักเป็นสีสันของชาวพลูตาหลวง
ตั้งแต่เช้ามีแต่คนขับรถแวะเวียนไปเยี่ยมอย่างไม่ขาดสาย" นายอำเภอสัตหีบ กล่าว

วันเดียวกัน ศ.น.พ.สุรัตน์ โคมิน อาจารย์ประจำหน่วยโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์
ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
เผยถึงสาเหตุของความอ้วนว่า เกิดมาจากสาเหตุอาหารที่กิน ซึ่งให้แคลอรีไขมันสูง
ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอาหารราคาแพงเท่านั้น แต่อาหารหลักที่รับประทานเข้าไปในปริมาณมาก
หากไม่สมดุลกันก็สามารถทำให้อ้วนได้ เช่น รับประทานแต่แป้ง น้ำตาล ไขมัน กินข้าวจำนวนมาก
ขนมปังจำนวนมาก ก็สามารถอ้วนได้
ซึ่งคนเราต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม
ส่วนกรณีครอบครัวดังกล่าวถือเป็นกรณีน่าศึกษา เพราะเป็นคนอ้วนบวกขาดสารอาหาร
คือรับประทานอาหารเพียงชนิดเดียว โดยกินแป้งและโซเดียมเป็นหลัก ทำให้ขาดโปรตีน วิตามิน
เพราะไม่มีเนื้อสัตว์ชนิดอื่นเลย

"ครอบครัวนี้ทราบจากข่าวว่า ทานเพียงผักและน้ำพริก
ซึ่งในน้ำพริกมีส่วนประกอบของโซเดียมที่มาจากน้ำปลา ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณสูง
ก็จะทำให้เกิดการบวม ทำให้น้ำหนักขึ้นได้เช่นกัน ประกอบกับการทานข้าวเพียงอย่างเดียวไม่มีเนื้อสัตว์
ทำให้ร่างกายได้รับแป้งในปริมาณมาก ซึ่งแป้งจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานและหากไม่ได้ใช้พลังงานนั้น
จะกลายเป็นพลังงานส่วนเกินและแปรเป็นน้ำตาล ทำให้อ้วน
สังเกตได้ว่าคนที่อ้วนเพราะบวมเมื่อกดหลังเท้าแล้ว จะมีลักษณะบุ๋มลงไป" ศ.น.พ.สุรัตน์ กล่าว

ศ.น.พ.สุรัตน์ กล่าวอีกว่า
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคนอ้วน แต่ขาดสารอาหารกับคนอ้วนที่เกิดจากกินในปริมาณมาก
จะมีความแตกต่างกัน คนอ้วนขาดสารอาหารจะมีการขาดวิตามินเกลือแร่ต่างๆ
ทำให้มีโอกาสเกิดหัวใจล้มเหลวและเบาหวานได้มาก
และเป็นโรคขาดสารอาหารทำให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย สังเกตได้เมื่อเป็นหวัดจะหายช้ากว่าปกติ

และหากรับประทานอาหารที่มีไขมันเยอะเกิน
ก็มีโอกาสเกิดโรคกลุ่มเดียวกับ ผู้ที่อ้วนจากการรับประทานไขมันและอาหารจำนวนมาก
คือโรคหัวใจ ไขมันในเส้นเลือดสูง ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้

การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ถือว่ารักษาได้ยาก เพราะเกิดจากการกินไม่เป็น
การดูแลต้องปรับเรื่องการกิน โดยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
หากเป็นครอบครัวที่ยากจนสามารถหาโปรตีนได้จากปลาที่อยู่ตามลำคลองต่างๆ ได้
ซึ่งถือว่าเป็นโปรตีนชั้นดีและควรลดโซเดียมให้น้อยลง


ข้อมูลโดย : //www.matichon.co.th/khaosod/
ที่มา : //www.dmh.go.th
ภาพจาก : //www.fotosearch.com


สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก

Create Date : 12 เมษายน 2554		0 comments
Last Update : 12 เมษายน 2554 13:41:26 น.
Counter : 1477 Pageviews.
Share Tweet