สวยหุ่นดี...ไม่ต้องอด

บางคนพยายามลดความอ้วนโดยการอดอาหาร และบางคนกินยาลดความอ้วน
แม้จะลดน้ำหนักได้ระยะหนึ่ง แต่กลับดูไม่สดใส กล้ามเนื้อไม่ฟิตเหมือนคนที่ลดความอ้วนอย่างถูกวิธี
และในที่สุดก็จะกลับมาอ้วนอีกครั้ง

แล้วจะลดความอ้วนอย่างไรให้ถูกวิธี ลองมาเรียนรู้การรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ
ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ โดยไม่จำเป็นต้องอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง

ในคอร์ส Alternative Health Tour ครั้งที่ 1 โดยนิตยสาร alternative Health
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลายคนได้เรียนรู้การกินให้ถูกหลักโภชนาการ
ในหัวข้อ ผอมเลือกได้ เคล็ดลับสวยหุ่นดีแบบไม่ต้องอดอาหาร

“โดยมากผู้หญิงจะกลัวอาหารกลุ่มโปรตีน
เข้าใจว่ารับประทานเนื้อสัตว์มากๆ จะทำให้เกิดปัญหาไขมันสะสมในผนังเส้นเลือด
จริงๆ แล้วกลุ่มที่น่ากลัวคือแป้งและน้ำตาล ผลไม้รสหวานบางชนิดก็ทำให้อ้วน“
เภสัชกรหญิงนันทวดี พิทยาพิบูลพงศ์ เล่าให้ฟัง

ถ้าอยากผอมอย่างมีความสุข ต้องรับประทานอาหารทั้งสามมื้อให้ครบ 5 หมู่
เพียงแต่ลดปริมาณอาหารบางประเภท

“ต้องบอกก่อนว่า ผู้หญิงที่พยายามจะลดความอ้วน โดยการรับประทานผลไม้มื้อเย็น
บอกได้เลยว่าไม่ผอม จะกลับมาอ้วนอีก
บางคนมื้อเช้าดื่มกาแฟ ซีเรียล น้ำผลไม้ และไม่รับประทานไข่
อาหารพวกนี้มีแต่แป้งและน้ำตาล แม้จะให้พลังงานนำไปใช้ได้ทันที แต่ส่วนที่เหลือจะสะสมเป็นไขมัน
สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ การรับประทานโปรตีนปนกับแป้งและน้ำตาล
ทำให้น้ำย่อยมีประสิทธิภาพ น้ำตาลจะเข้าสู่ร่างกายทีละน้อย “ วิทยากรบอกเช่นนั้น

หากไม่มีปัญหาเรื่องไขมันอุดตันเส้นเลือดหัวใจ
วิทยากรบอกว่า ไม่ต้องกลัวเรื่องการรับประทานไข่ สามารถรับประทานได้วันละหนึ่งฟอง
เพราะไข่เป็นโปรตีนที่ดีที่สุด
สิ่งที่มีปัญหาคือแป้งและน้ำตาล ถ้ารับประทานมากไป จะทำให้คอเลสเตอรอสสูง
อินซูลินจะไปกระตุ้นอวัยวะส่วนตับ ทำให้ไม่สามารถกำจัดไขมันไม่ดีออกจากร่างกายได้

“คนที่อยากลดความอ้วน ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้มากไป รับประทานผลไม้เป็นลูกๆ จะดีกว่า
พวกเครื่องดื่มกาแฟเย็น น้ำอัดลม ชาเย็น ถ้าดื่มมากๆ จะสะสมเป็นไขมัน
ถ้าเป็นอาหารมื้อกลางวัน ควรรับประทานโปรตีนมากกว่ามื้อเช้า
ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม ให้กินเส้นครึ่งหนึ่ง เพิ่มเกาเหลาอีกชาม
ผักผลไม้ไม่ควรขาด เพราะมีกากใยทำหน้าที่คล้ายฟองน้ำ ซับไขมันส่วนเกินออกไป
ส่วนมื้อเย็น ถ้าอยากดูแลตัวเองให้ผอม โปรตีนก็ต้องรับประทานบ้าง“

อย่างไรก็ตาม เภสัชกรย้ำว่า ไม่ต้องอดอาหาร เพียงแต่อาหารมื้อเช้า กลางวัน และเย็น
แต่ละมื้อปริมาณโปรตีนต้องรับประทานจากน้อยไปหามาก
ส่วนคาร์โบไฮเดรตจากมากไปหาน้อย เพื่อไม่ให้มีไขมันสะสมในร่างกาย

หลายคนบอกว่าไม่ควรรับประทานโปรตีนในมื้อเย็น
วิทยากรบอกว่า ในช่วงนอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทั้งเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ
โปรตีนเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการซ่อมแซมร่างกาย
ดังนั้นมื้อเช้าไม่ควรอด ไม่เช่นนั้นกระบวนการของร่างกายจะลดการเผาผลาญลง
พอมาถึงมื้อเที่ยง อาหารที่รับประทานเข้าไปจะสะสมเป็นไขมันทันที
และจะรู้สึกว่าโหยหาอาหาร กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม

“ใครก็ตามที่พยายามลดอาหารเหลือเพียงสองมื้อ ช่วงแรกน้ำหนักอาจลด
แต่กล้ามเนื้อจะฝ่อ เพราะน้ำหนักที่หายไปคือน้ำหนักของมวลกล้ามเนื้อ
เพราะคนที่ลดความอ้วนจะรับประทานอาหารน้อย
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มีการอดอาหาร คุณจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปครึ่งหนึ่งของร่างกาย
แต่ทุกครั้งที่น้ำหนักขึ้น ก็จะกลายเป็นน้ำหนักของไขมันล้วนๆ สัดส่วนของร่างกายจะเปลี่ยน
มีกล้ามเนื้อบางๆ แต่ไขมันหนา สังเกตได้ว่ากล้ามเนื้อไม่แน่นเหมือนเมื่อก่อน”

ถ้าอยากจะผอมอย่างมีคุณภาพ ก็ต้องมาเรียนรู้การรับประทานอาหารให้ถูกต้อง
พยายามลดอาหารพวกแป้งและน้ำตาล ส่วนโปรตีนไม่ควรงด เพียงแต่จำกัดปริมาณ

“ถ้าไม่รับประทานอาหารเกินสี่ชั่วโมง ร่างกายของเราจะไม่เหลือสารอาหารเพื่อใช้ในร่างกาย
สังเกตได้ว่า เวลาหิวๆ มักอยากรับประทานอาหารหวานๆ
บางคนอยากดื่มกาแฟเย็น น้ำตาลในกาแฟเย็นหนึ่งแก้วกว่าจะเผาผลาญหมดนานมาก
อีกอย่างอาหารว่าง ถ้าจะรับประทานสลัดผักก็ควรมีทูน่าหรือไก่ ควรจะมีโปรตีนด้วย
ถ้ารับประทานแต่กาแฟและขนม ก็จะมีไขมันสะสมในร่างกาย”

เคล็ดที่เภสัชกรอยากให้คนอยากผอมเรียนรู้อีกอย่างก็คือ
อาหารสองคำแรกควรกินโปรตีนก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้แป้งและน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายก่อน
เนื่องจากอาหารกลุ่มนี้ย่อยตั้งแต่อยู่ในปาก
ควรให้โปรตีนปนอยู่กับแป้งและน้ำตาล ร่างกายจะได้ทยอยใช้พลังงาน

“ถ้าจะรับประทานอาหารว่าง พวกคุกกี้หรือขนมเค้กให้หาโปรตีนมารับประทานคู่
อาจเป็นนมหรือโยเกิร์ต หมูปิ้ง แล้วตบท้ายด้วยผลไม้
อย่างขนมเค้ก ขนมปัง จะมีส่วนผสมของมาการีนที่ร่างกายไม่รู้จัก เป็นไขมันไม่ดี
ร่างกายจะเผาผลาญได้ยาก และจะทำให้เส้นเลือดอุดตัน

ผู้หญิงกลัวการรับประทานเนื้อสัตว์ แต่ไม่กลัวการรับประทานขนมเค้ก ซึ่งตรงนี้น่ากลัวกว่า
ถ้าเอาไขมันที่ร่างกายไม่รู้จัก เข้ามาเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์และสมอง
ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เราจะแก่เร็ว หรือแม้แต่อัลไซเมอร์ก็เกิดขึ้นง่าย ตัวที่น่ากลัวคือแป้งและน้ำตาล

อีกอย่างคืออาหารที่รับประทาน ควรลดความเค็ม เพราะโซเดียมจะทำให้ดื่มน้ำมาก
คนที่ชอบรสแซบ พวกอาหารยำ ส้มตำ ลาบ น้ำตก รับประทานแล้วจะผอมส่วนบน
แต่จะมีปัญหาส่วนล่าง หน้าท้อง ตะโพก ต้นขา น่อง ต้องลดปริมาณการกินลง
อย่างน้ำซุป น้ำสุกี้ อย่าซดหมดชาม เพราะมีผงชูรส
ร่างกายต้องการความเค็มแค่หนึ่งช้อนชาต่อวัน เพราะอาหารไทยจะมีความเค็มมาก“

อาหารแปรรูปพวกลูกชิ้น แฮม เบคอน ไส้กรอก หมูหยอง ปลาสลิด และปลาเค็ม
รวมทั้งอาหารกล่องสำเร็จรูปที่ต้องใช้ไมโครเวฟอุ่น เพื่อถนอมอาหารให้เก็บได้นาน
จะใช้ปริมาณเกลือจำนวนมาก จึงไม่ควรรับประทานมาก ให้หันมารับประทานอาหารสดจากแหล่งธรรมชาติ

“ถ้าอยากดื่มเบียร์หรือแอลกอฮอล์ ก็ต้องหากับแกล้ม ไม่ควรเป็นข้าวเกรียบ
น่าจะเป็นถั่ว เม็ดมะม่วง ไก่ทอดหรือปลานึ่ง
และไม่ควรดื่มเบียร์ ไวน์ โดยไม่รับประทานกับแกล้ม ไม่เช่นนั้นจะสะสมเป็นไขมันทันที
หลักการดื่มที่ถูกต้องคือ หลังอาหาร น้ำตาลจะได้ทยอยเข้าสู่ร่างกาย”

นอกจากนี้ ไม่ควรออกกำลังกายตอนท้องว่าง จะทำให้มวลกล้ามเนื้อถูกดึงมาใช้
หรือบางคนออกกำลังกายวันละ 4 หรือ 5 ชั่วโมงและลดการรับประทานอาหาร
เภสัชกรบอกว่า ออกกำลังกายแบบนั้นไม่ได้ทำให้ผอมหรือหุ่นเฟิร์ม

การออกกำลังกายควรทำหลังอาหาร ประมาณหนึ่งหรือสองชั่วโมง
เพราะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันออกมาใช้
ถ้าจะออกกำลังกายตอนเช้า อาจดื่มนมหรืออาหารเล็กน้อย
และสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการลดความอ้วน คือ ดื่มน้ำ
ถ้าเป็นผู้หญิงร่างเล็ก ควรดื่มประมาณวันละสองลิตร เนื่องจากน้ำทำให้ระบบการเผาผลาญดีขึ้น

นอกจากนี้มีข้อแนะนำอีกว่า การเล่นโยคะ จะทำให้คลื่นสมองดีขึ้น
และ ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของความอ้วน ทำให้เราอยากกินอาหารหวานและเค็ม
เพราะช่วงเครียดจะต้องการพลังงานมาก ซึ่งมีผลต่อการย่อยอาหาร

“อดอาหารมากๆ จะทำให้ฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมา แม้จะผอม แต่ก็ไม่สดใส
หรือออกกำลังกายมากไป ก็มีฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมา”


รายงานโดย : เพ็ญลักษณ์ ภักดีเจริญ
ที่มา : //www.bangkokbiznews.com
ภาพจาก : //www.fotosearch.com


สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก

Create Date : 01 เมษายน 2554		3 comments
Last Update : 1 เมษายน 2554 12:17:35 น.
Counter : 1086 Pageviews.
Share Tweet