จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

นักสืบพราน - เรื่องที่ 2 จำเลยไม่พูด (ตอนที่ 2)

โดย 4411


บุรุษที่นั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของพราน เจนเชิง เป็นคนที่อายุล่วงวัยกลางคนไปแล้ว ผมบนศีรษะหงอกประปราย ไว้หนวดดกหนาและแต่งกายสุภาพตามแบบสากล

ขุนวนกิจบำรุงปฏิเสธอย่างสุภาพ เมื่อพรานเปิดกล่องบุหรี่ส่งมาให้ตรงหน้า ใบหน้าของท่านขุน ฯมีแวววิตกกังวลระบายอยู่ พรานหยิบบุหรี่จากกล่องที่เขาส่งให้แขกของเขา ขึ้นจุดสูบ ชายตาไปทางกัลยา ซึ่งนั่งอยู่ทางด้านซ้าย ก่อนที่จะพูดว่า

“เชิญท่านขุน ฯ เริ่มเรื่องได้ทันที ”

ขุนวนกิจบำรุงขยับตัวเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดขึ้นอย่างช้า ๆ และชัดถ้อยชัดคำว่า

“ผมมีเรื่องที่จะต้องรบกวนคุณ – คุณพราน – มันเป็นเรื่องที่ออกจะลำบากสักหน่อยสำหรับคุณ ลูกสาวของผมกำลังจะติดตะรางในคดีฆ่าคนตาย –ฆ่าผัวของเขาเอง ”

พรานดึงบุหรี่ออกจากปาก เขาหันไปมองกัลยาอีกครั้งหนึ่ง และกลับมามองแขกของเขาอย่างสงสัย

“ กำลังจะติดตะราง – ท่านขุนฯ หมายความว่า เวลานี้กำลังถูกควบคุมตัวอยู่อย่างนั้นหรือครับ ”

ขุนวนกิจบำรุงส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

“ไม่ใช่ –เวลานี้เขาอยู่ในเรือนจำ – เรื่องมันเกิดขึ้นหลายเดือนมาแล้ว คุณก็คงจะเคยได้ข่าว เรื่อง นาย วิกรม อนันตพันธ์ ถูกยิงตายในห้องนอนของเขาเอง ที่ตลาดหัวรอ เจ้าหน้าที่ได้จับตัวนางอรัญญา เมียผู้ตาย – ลูกสาวของผม โดยสงสัยว่าจะเป็นคนฆ่าสามี เพราะหวังทรัพย์มรดกและเงินประกันชีวิต เวลานี้ คดีกำลังดำเนินการพิจารณาอยู่ที่ศาลจังหวัดอยุธยา โจทก์ได้สืบพยานไปหลายปากแล้ว ยังเหลืออยู่แต่พยานที่ไม่สำคัญและพยานจำเลย ที่ยังต้องสืบอยู่อีก ผมคิดว่ามันคงไปไม่รอด เพราะพยานโจทก์ปรับปรำจำเลยเหลือเกิน ”

“ผมคิดว่า ” พรานชิงพูดขึ้น “ ท่านขุน ฯ คงจะเข้าสำนักงานผิด เราเป็นนักสืบ ไม่ใช่ทนายความ ท่านขุน ฯ ควรจะไปหาทนายความ มากกว่าที่จะมาหาผม ”

“ทนายความ  ผมมีแล้วถึงสองคน เป็นทนายที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดอยุธยา  แต่ทั้งคู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ”  

ขุนวนกิจบำรุงพูด  พร้อมกับส่ายศีรษะช้า ๆ อย่างคนสิ้นหวัง  

“ ผมพบกับทนายทั้งสองคนเมื่อวานนี้  เขาบอกว่า ถ้ามันจะลำบาก เพราะทนายหลักฐานฝ่ายโจทก์แน่นหนามาก  ผมมั่นใจว่า ลูกสาวของผมไม่ได้เป็นคนฆ่านาย วิกรม ผมมั่นใจเช่นนั้น –คุณพราน – ผมรู้จักจิตใจของมันดี  นังคนนี้ไม่กล้าฆ่าคน  มันไม่กล้าแม้แต่เพียงจะตบยุงสักตัวหนึ่ง  ปืน มันก็ยิงไม่เป็น  มันจะฆ่าคนด้วยปืนอย่างไรได้ ”

พรานนิ่งฟัง เขามองหน้า ขุนวนกิจบำรุง อย่างใช้ความคิด มือทั้งสองข้างวางอยู่บนโต๊ะ และกระดิกนิ้วไปมา

ขุนวนกิจบำรุงพูดต่อไป

“ผมต้องการให้คุณช่วยสืบสวนเรื่องนี้ว่า ใครเป็นคนฆ่านาย วิกรม กันแน่ มันต้องไม่ใช่ลูกสาวของผม เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยมันได้ ถ้ามิฉะนั้น มันคงไม่พ้นตะแลงแกงแน่นอน ”

“เรื่องนี้ ดูเหมือนจะเกิดขึ้น ๓ - ๔ เดือนมาแล้ว ใช่ไหมครับ ” พรานพูดขึ้น “ และดูเหมือนผมจะจำได้ว่าทางพนักงานสอบสวนได้พบปืนที่ใช้กระทำความผิดอยู่ในที่เกิดเหตุ มีรอยนิ้วมือของภรรยาผู้ตาย ปรากฏอยู่ที่ปืนกระบอกนั้น มีพยานแวดล้อมในกรณีที่ผู้ตายกับภรรยาได้เป็นปากเสียงกันก่อนวันเกิดเหตุ และภรรยาผู้ตายได้หนีออกจากบ้านไปก่อนเกิดเหตุหลายวัน ”

“ถูกแล้ว ”  ขุนวนกิจบำรุงรับคำ  “ ผมถึงได้ว่า หลักฐานต่าง ๆ มันแน่นแฟ้นมาก ผมได้พบกับ อรัญญา –มันปฏิเสธว่า มันไม่ได้ฆ่า มันไม่รู้ว่าใครฆ่าผัวมัน ขณะเกิดเหตุ มันไม่ได้อยู่บ้าน ไม่มีใครอยู่บ้าน  นาย วิกรมอยู่บ้านคนเดียว อรัญญาหนีออกไปจากบ้านตั้งแต่เขาเกิดเรื่องทะเลาะกันหลายวันก่อนหน้านั้น  ในวันนั้น อรัญญา กลับมาบ้านโดยต้องการจะพบกับผัวของมัน เพื่อตกลงอะไรกันบางอย่าง  มันมาพบผัวของมันถูกฆ่าตาย  มีปืนกระบอกหนึ่งตกอยู่ข้าง ๆ ตัว  มันหยิบปืนกระบอกนั้นขึ้นมา  จึงได้มีรอยนิ้วมือของมันติดอยู่ -  มันโง่ – อีเด็กคนนี้ –มันโง่มาก ”  ท่านขุน ฯ ย้ำคำ  พร้อมทั้งใช้มือตบหัวเข่า ๒ – ๓ ครั้ง

พรานใช้มือขวาลูบริมฝีปากไปมาอย่างใช้ความคิด

“อืม์ ” เขาครางในลำคอเบา ๆ “ ฟังดูไม่ค่อยจะดี ออกจะลำบากอยู่สำหรับผม ว่าแต่ท่านขุน ฯ แน่ใจรึว่า ลูกสาวของท่านขุนฯไม่ได้เป็นคนฆ่า ? ”

ขุนวนกิจบำรุงผงกศีรษะอย่างมั่นใจ

“ครับ – ผมเชื่อมันจริง ๆ มันไม่ได้เป็นคนฆ่าแน่ ”

“ใครเป็นคนสอบสวนคดีนี้ ท่านขุน ฯ ทราบไหมครับ และในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าอย่างไร ”

“นายร้อยตำรวจเอก ผจญ แห่งกองปราบปราม เป็นผู้สอบสวนคดีนี้ ” ขุนวนกิจบำรุงพูดพร้อมชะโงกหน้าเข้ามา “ทางการเขาส่งนายตำรวจปราบปรามขึ้นไปสอบสวนเรื่องนี้โดยเฉพาะ คุณผจญ ได้เข้าไปดำเนินการด้วยตัวเอง แกหาพยานแวดล้อมต่าง ๆ มาสอบสวน แม้กระทั่งคนที่เห็นลูกสาวของผมเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ในระยะเวลาที่เกิดเสียงปืนดังขึ้น และไม่ได้กลับออกมา จนกระทั่งคนที่อยู่ใกล้เคียงได้รีบไปแจ้งตำรวจ เมื่อเขาได้ยินเสียงปืน และตำรวจได้มาพบ อรัญญา ในบ้าน ในขณะที่เขาพากันมายังที่เกิดเหตุ สำหรับตัว อรัญญา เอง มันไม่ยอมให้การในชั้นสอบสวน เพราะทนายเขาแนะนำอย่างนั้น ”

พรานผงกศีรษะ ๒ – ๓ ครั้ง

“หมายความว่า เขาต้องการให้ไปแถลงชั้นศาล ? ” และโดยไม่ได้รอคำตอบ เขาพูดต่อไป “ ปืนกระบอกนั้นเป็นของใคร ”

“ก๊อ เป็นของนัง อรัญญา มันน่าซี เพราะผัวของมัน ซื้อให้มันก่อนเกิดเรื่อง และเป็นปืนที่มีทะเบียนเสียด้วย ” ขุนวนกิจบำรุงพูด พร้อมกับเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ “ แต่ อรัญญา มันบอกว่า ปืนกระบอกนี้ ผัวของมันได้แย่งคืนไปจากมัน ก่อนวันเกิดเหตุนานมาแล้ว ตั้งแต่มีเรื่องระหองระแหงกัน เพราะมันเคยขู่ว่ามันจะฆ่า นาย วิกรม ก็เลยแย่งเอาไปเก็บไว้ และตัว อรัญญาเอง มันลืมไปนานแล้วว่ามันมีปืน ”

พรานเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เขาจ้องมองหน้าขุนวนกิจบำรุง อย่างใช้ความคิด

“ท่านขุน ฯ คิดว่า ผมจะช่วยท่านขุน ฯ ได้แน่หรือ เรื่องนี้ ”

ขุนวนกิจบำรุงเม้มริมฝีปาก นิ่งอยู่สักครู่แล้วจึงพูดว่า

“เป็นหนทางสุดท้ายของผม ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณว่าเป็น นักสืบเอก แห่งยุค ผมก็ยังไม่แน่ใจนักว่า คุณจะช่วยได้ แต่เมื่อมันยังมีความหวังอยู่ ผมก็ต้องมาหาคุณ บางที – คุณอาจจะช่วยนังลูกสาวของผมได้ มันเป็นประตูสุดท้ายของมัน ”

พรานเปลี่ยนสายตาจากขุนวนกิจบำรุง มาที่กัลยา ซึ่งกำลังทำหน้าที่บันทึกถ้อยคำโต้ตอบอยู่ กัลยา เหลือบตาขึ้นมองหัวหน้าของหล่อนเมื่อจบบันทึก ยักไหล่ แล้วกลับหันไปมองขุนวนกิจบำรุง

“ผมจะให้ค่าตอบแทนคุณอย่างเต็มที่สำหรับเรื่องนี้ ”

ขุนวนกิจบำรุงพูด พร้อมกับล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อด้านขวา หยิบเอาธนบัตรออกมาปึกหนึ่ง วางลงบนโต๊ะ

“ นี่เป็นเงินหนึ่งหมื่นบาทล่วงหน้าสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของคุณ ถ้าเรื่องนี้ คุณทำสำเร็จ ผมจะให้คุณอีกสองหมื่นบาท กรุณารับปากหน่อยเถอะครับ ผมจะได้สบายใจ ”

พรานมองดูธนบัตรปึกนั้นชั่วครู่ เขาเหลือบสายตาขึ้นมอง ขุนวนกิจบำรุง พบสายตาที่เต็มไปด้วยความวิงวอน เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ ซุกมือทั้งสองข้างลงในกระเป๋ากางเกงก้มศีรษะมองดูพื้นอย่างใช้ความคิดอยู่ชั่วขณะ ครั้นแล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูดว่า

“ผมยังรับรองอะไรไม่ได้ แต่ถ้าท่านขุน ฯมั่นใจอย่างนั้นจริง ๆ ผมก็จะพยายามหาความจริงดู แต่ก่อนอื่น ท่านขุน ฯ ต้องเข้าใจว่า ผมไม่เคยช่วยคนกระทำความผิด และผมยินดีที่จะช่วยผู้ที่ไม่มีความผิด ผมยังตกลงอะไรแน่นอนไม่ได้ในขณะนี้ มันเป็นคดีที่ออกยุ่งยากสักหน่อย ”

ขุนวนกิจบำรุงมองดูหน้า พราน สีหน้าของท่านขุน ฯ ดีขึ้น

“ถ้าคุณรับปากว่า จะทำงานชิ้นนี้ ผมก็พอใจแล้ว เงินหนึ่งหมื่นบาทนี้ คุณรับไว้ก่อนเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ดวงชะตาของอรัญญามัน ผมขอให้คุณใช้ความสามารถของคุณให้เต็มที่เท่านั้น ก็พอใจมากอยู่แล้ว ”

“แน่นอน ”  พรานพูด  ยังไม่เปลี่ยนอากัปกิริยา  “ ถ้าผมตกลงใจที่จะทำงาน  ผมก็ต้องทำจนสุดความสามารถของผม  ผมจะพบกับคุณอรัญญาได้ที่ไหน ? ”

“เรือนจำจังหวัดอยุธยา มันกำลังต้องขังอยู่ที่นั่น ”

“ใครเป็นทนายของคุณอรัญญา ”

“นายวิชัย รัศมี และ นายสันทัด วรรณบูรณ์ ”

พรานผงกศีรษะช้าๆ

“เป็นทนายที่มีชื่อเสียงทั้งคู่ของจังหวัดอยุธยา ผมเคยได้ยินชื่อเขาอยู่ ”

พรานหยุดพูด เดินอย่างช้า ๆ ไปยังหน้าต่างห้องทำงานของเขา เขาหยุดเพ่งมองออกไปข้างนอกสักครู่หนึ่ง ครั้นแล้วจึงเดินกลับมายังที่ ๆขุนวนกิจบำรุงนั่งอยู่ และพูดขึ้น

“เอาละครับท่านขุน ฯ – ผมจะพยายาม แต่มันอาจต้องการเวลามากสักหน่อย ท่านขุน ฯ คิดว่า ผมจะมีเวลาอีกสักเท่าไร สำหรับที่จะทำงานเรื่องนี้ ”

“การสืบพยานโจทก์ คงจะดำเนินต่อไปอีกประมาณครึ่งเดือน ” ขุนวนกิจบำรุงพูดขึ้นหลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ “เราจะสืบพยานจำเลยอีกประมาณ ๓ -๔ ปาก ผมคิดว่า คงจะมีเวลาอีกราว ๆ เดือนกว่า ๆ ”

“พยานจำเลยในคดีนี้มีใครบ้าง ขอชื่อและที่อยู่ไว้ให้ผม ถ้าไม่ขัดข้อง ”

ขุนวนกิจบำรุงล้วงกระเป๋าชั้นใน หยิบเอาซองเอกสารออกมา ดึงกระดาษแผ่นหนึ่งคลี่ออก และส่งให้พราน พร้อมกับพูด

“ผมจดใส่กระดาษแผ่นนี้ไว้ คุณเก็บเอาไว้ก็ได้ ”

พรานรับกระดาษแผ่นนั้นจากมือขุนวนกิจบำรุง เขาใช้สายตาอ่านผ่านไปสักครู่จึงส่งให้กัลยา พร้อมกับหันหน้าไปพูดกับขุนวนกิจบำรุงว่า

“สิ่งหนึ่งที่ท่านขุนฯ จะต้องทำ คือ เมื่อฝ่ายโจทก์สืบพยานหมดแล้ว ขอให้พูดกับทนายจำเลยว่า อย่าเพิ่งนำพยานจำเลยเข้าสืบก่อนที่จะได้รับคำสั่งจากผม ”

“เขาได้ขอให้ออกหมายไปแล้ว จะทำอย่างไรกัน ”

ขุนวนกิจบำรุงพูด พร้อมกับเลิกคิ้ว ขึ้นสูง แล้วมองดูหน้าพราน

“รีบไประงับไว้ก่อน ” พรานพูด พร้อมกับดึงมือขวาออกจากกระเป๋ากางเกง ยกนิ้วชี้พุ่งไปที่ขุนวนกิจบำรุงอย่างสำทับ

“ ท่านขุน ฯ ต้องให้ทนายใช้วิธีการทุกอย่าง ที่จะระงับการสืบพยานจำเลยไว้ให้ได้ จนกว่าจะได้รับคำสั่งจากผม นี่คือสิ่งที่ผมต้องการขณะนี้ แล้วผมจะบอกท่านขุน ฯ เองว่า จะทำอย่างไรต่อไป ระหว่างนี้ ผมไม่ต้องการให้ฝ่ายจำเลยพูดอะไรออกมาทั้งนั้น ”

“เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำยังงั้นหรือครับ ” ขุนวนกิจบำรุง ชะโงกหน้าถาม

พรานพยักหน้าทันที ก่อนที่จะพูดว่า

“เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อผลในขั้นต่อไป ”

ขุนวนกิจบำรุงยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก

“ความคิดของคุณแล่นเร็วทันใจดีจริง ๆ เพราะเหตุนี้ ผมจึงต้องการตัวคุณ เอาละครับ – ผมเชื่อ และจะพยายาม ”





 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2555
2 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2555 2:30:05 น.
Counter : 1398 Pageviews.

 

ขอบคุณมากๆ..

 

โดย: ก้นกะลา 5 กรกฎาคม 2555 18:38:53 น.  

 

แหม พรานทำได้ทุกอย่างจริง

 

โดย: sam IP: 182.53.189.40 17 กรกฎาคม 2555 14:14:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.