จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
ผจญคอมมิวนิสต์ ตอนที ๑๙

นวนิยายสืบสวนสอบสวน ชุด “นักสืบพราน ” เล่มที่ ๒
เรื่องที่ ๓ – ผจญคอมมิวนิสต์

ตอนที่ ๑๙

เสียงนาฬิกาตีบอกเวลา ๐๖.๐๐ น. ตรง

พราน เจนเชิง ครึ่งนั่ง ครึ่งนอน อยู่บนเก้าอี้โซฟา ภายในห้องทำงานส่วนตัว ผมของเขายุ่งอย่างไม่มีระเบียบ เน็คไทที่ถูกผ่อนให้หลวม ห้อยอยู่ที่คอเสื้อเชิ๊ร์ต ซึ่งค้อนข้างจะยับ บนโต๊ะมีขวดบรั่นดีตั้งอยู่ เขาเทบรั่นดีที่ถืออยู่ในมือลงในลำคอ ชำเลีองตาไปที่ กัลยา ชาญวิทยา ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา กิริยาอาการและใบหน้าของหล่อนอิดโรย ด้วยการที่ไม่ได้หลับนอนตลอดคืน ไม่ผิดกับหัวหน้าของหล่อน

พราน พูดว่า
“ ประเดี๋ยว เราเห็นจะต้องไปพักผ่อนกันเสียที มันเป็นคืนที่ค่อนข้างจะหนักหน่วงสักหน่อย เมื่อคืนนี้ ”

กัลยา ยิ้มละไมอย่างอ่อนหวาน
“ แต่ก็ไม่ค่อยจะเหนื่อยเท่าไร ใช่ไหมคะ หัวหน้า เพราะได้ผล ”

พราน ยกมือขึ้นเสยผม ทำท่าบิดขี้เกียจ
“ อะไรได้... กว่าจะทำให้เจ้านั่นมันพูดออกมาได้ ก็เล่นเอาเหนื่อย ป่านนี้ พิชิต กับ เอนก คงพับไปแล้ว ”

กัลยา อมยิ้ม มองดูหัวหน้าของหล่อนเฉยอยู่

พราน ยกมือขึ้นปิดปากที่กำลังหาว และพูดว่า
“ เห็นจะต้องเขียนหนังสือถึง สารวัตรพจน์ เสียหน่อย เราเหนื่อยกันมาพอแรงแล้ว ปล่อยเรื่องต่อไปให้กับตำรวจดีกว่า เตรียมกระดาษกับดินสอเถอะคุณ ”

กัลยา หยิบสมุดเขียนหนังสือมาวางตรงหน้า จรดดินสอ และหันหน้ามองหัวหน้าของหล่อน คอยฟังคำบอก

พราน เอนหลังลง ใช้ศีรษะหนุนท้าวแขนของเก้าอี้ หลับตาผ่อนอารมณ์ เริ่มคำบอกของเขาอย่างช้าๆ

“ เรียน ท่านสารวัตรพจน์ ที่รัก

เมื่อคินนี้ ออกจะเป็นคืนที่ยุ่งยากสักเล็กน้อยสำหรับพวกเรา ผมต้องขอโทษท่านสารวัตร ที่ได้กระทำบางสิ่งบางอย่าง เป็นการละเมิดอำนาจของท่านสารวัตร แต่สิ่งที่ผมได้กระทำลงไป ก็เพื่อประโยชน์ของทางราชการโดยแท้ สิ่งนั้นก็คือ การที่แอบเอาตัวเจ้า จือเม้ง ไปเก็บไว้ เจ้าคนนี้คือ คนเจ็บที่อยู่บ้าน ซินแสบุ้นกิม นั่นเอง

การที่ผมเอาตัวมันไว้ก็เพราะ เจ้าคนๆ นี้ เป็นคนสำคัญคนหนึ่งในพรรคเยาวชนจีนโพ้นทะเล มันเป็นคนใจแข็ง และจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ผมมีวิธีที่จะทำให้มันพูด ซึ่งวิธีนั้น ผมเห็นว่ามันไม่เหมาะที่จะให้ตำรวจทำ และโดยเฉพาะ นายตำรวจอย่างท่านสารวัตร

เมื่อคืนนี้ทั้งคืน ผมขับเคี่ยวอยู่กับมันเป็นเวลาสามชั่วโมงเต็มๆ จึงได้รับคำบอกเล่าจากมันถึงเรื่องราวต่างๆ ที่มันได้กระทำมา กัลยา ได้บันทึกถ้อยคำของมันไว้แล้ว ซึ่งผมได้ส่งมาให้ท่านสารวัตร พร้อมด้วยจดหมายฉบับนี้

สาเหตุแห่งการบาดเจ็บของมัน เห็นจะไม่จำเป็นที่จะบอกท่านสารวัตรว่า เป็นไปโดยน้ำมือของใคร ก็คงจะรู้อยู่แล้ว มันพยายามที่จะเข้าไปในบ้าน ซำเส่ง เพื่อค้นหาหลักฐานอะไรบางอย่างที่นั่น แต่มันช้าไปกว่าบุคคลอีกคณะหนึ่ง ซึ่งไปถึงที่เสียก่อน มันได้เห็นความเคลื่อนไหวของบุคคลคณะนั้นตลอดเวลา และซุ่มคอยทีอยู่ และฉวยโอกาสทำร้ายคนๆ หนึ่งในคณะนั้น แต่เคราะห์ของมันร้ายกว่าของเขา มันจึงต้องเจ็บตัว มันหลบหนีไปได้โดยไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ ก็ด้วยความช่วยเหลือของพรรคพวกของมัน ที่อยู่บ้านติดกับบ้าน ซำเส่ง พยุงมันเข้าไปในบ้านหลังนั้น จัดการนำตัวของมันส่ง ซินแสบุ้นกิม ในคืนวันนั้นเอง มันโดนกระสุนปืนสองนัดเข้าที่หัวไหล่ เฉียดปอดไปนิดเดียว ไม่เช่นนั้นก็มีหวังเป็นศพ

จือเม้ง เป็นบุคคลคนหนึ่งในคณะที่อยู่ในรถเก๋ง คันที่ไปยิง เซี๊ยะคง ที่หน้าโอเดี่ยน มันได้บอกไว้หมดแล้วว่า มีใครต่อใครบ้างที่ร่วมไปในรถคันเดียวกัน รวมทั้งเจ้าบั๊ก ที่ดับชีพไป เพราะน้ำมือของพวกของมันเองด้วย มันเพิ่งทราบข่าวการตายของ เจ้าบั๊ก จากผม และมันบอกว่า คงจะเป็นฝีมือของ ฟุกซิน ผมก็สงสัยในตอนนี้ เพราะ เจ้าบั๊ก กำลังจะไปช่วย ฟุกซิน ด้วยมันเป็นเพื่อนกัน แต่ไฉน ฟุกซิน จะไปฆ่า เจ้าบั๊ก

จือเม้ง บอกว่า ฟุกซิน ไปพบมันตอนหัวค่ำ บอกมันว่า เจ้าบั๊ก ทรยศ จะต้องจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้น การที่ เจ้าบั๊ก ตะเกียกตะกายจะไปเอารถยนต์คันนั้นมาจากอู่ ไอ้ซ้วง อาจมีอะไรแอบแฝงอยู่

แต่ เวลานี้ บุ๊ก ก็ตายเสียแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ท่านสารวัตรจะต้องค้นคว้าต่อไป สิ่งหนึ่งที่ผมบอกกับท่านสารวัตรได้ก็คือ ฟุกซิน เป็นคนในร้านยี่ห้อ น่ำฮง ขายเครื่องเหล็ก เป็นร้านที่ใช้ตู้ไปรษณีย์ที่ ๙๐ ซึ่ง ตันเป็งล้ง ได้รับจดหมายขู่ ให้ส่งเงินไปที่นั่น

ฟุกซิน คนนี้ เป็นคนของ ตันเป็งล้ง ผมได้ทดสอบดูแล้ว ไม่ผิด

เมื่อคืนนี้ ขณะที่อยู่ใน เซอีฟ ผมได้หลอกให้ ตันเป็งล้ง ต่อโทรศัพท์ไป แต่จะหลอกด้วยวิธีใดนั้น ผมขอโทษที่จะต้องขอเก็บไว้เป็นความลับ

ตันเป็งล้ง ได้ต่อโทรศัพท์ไปที่หมายเลขแห่งหนึ่ง ซึ่งค้นดูแล้ว เป็นหมายเลขของ ยี่ห้อน่ำฮง
จดหมายขู่ที่ ตันเป็งล้ง ได้รับ เป็นจดหมายปลอมที่ไม่มีความหมายอะไรเลย อันนี้เป็นที่แน่นอน และ ตันเป็งล้ง ต้องรู้ดีอยู่แล้วว่า ตู้ไปรษณีย์ ๙๐ คือ น่ำฮง แต่ ตันเป็งล้ง ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ให้ท่านสารวัตรทราบ เขาบอกกับผมตอนที่เขาพบผมใน เซอีฟ เขาเพิ่งได้คิดว่า เขาควรจะต้องบอก เพราะมันเป็นสิ่งที่เราจะต้องรู้ ถ้าเราค้นคว้าเข้า

ผมได้บอก คุณผจญ ไปแล้วว่า ตันเป็งล้ง มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัย แต่คุณผจญ เขาจะเชื่อผมหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ

ฉะนั้น พิจารณาจากคำพูดของ จือเม้ง ก็น่าสงสัย ฟุกซิน อยู่ แต่เจ้าพวกนี้ พูดอะไรก็ต้องพิเคราะห์ดูให้ดี จะเชื่อเสียทีเดียวไม่ได้

เมื่อคืนนี้ เรามีความบกพร่องอยู่อย่างหนึ่ง คือ ไม่ได้ดูว่า ฟุกซิน อยู่ในที่ประชุมนั้นด้วยหรือเปล่า ผมเองก็กำลังมุ่งอยู่กับเจ้าระเบิดเวลาลูกนั้น ท่านสารวัตรก็คงไม่ได้เอาใจใส่ แต่ท่านสารวัตรอาจเช็คได้ จากคุณผจญว่า ฟุกซิน ได้เข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่

สิ่งที่ต้องทำต่อไป หลังจากเช็คในเรื่องนี้แล้ว ผมเห็นว่าไม่จะเป็นที่จะต้องแนะนำท่านสารวัตร

บุคคลที่ควรจับตาดูอยู่เวลานี้ คือ ตันเป็งล้ง

ผมได้พบนามบัตรของ ตันเป็งล้ง ที่บ้าน ซ่ำเส่ง มีข้อความเป็นภาษาจีน แปลออกมาได้ความว่า เรียกตัว ซำเส่ง ให้ไปพบ ในคืนที่มันถูกฆ่า

สาเหตุที่ ซ่ำเส่ง ถูกฆ่าคืนวันนั้น อาจเป็นเพราะ ถึงเวลานัด แล้วมันไม่ไป เพราะมันถูกคนอื่นเอาตัวไปเก็บเสียก่อน ไม่เป็นการยากอะไรที่มันจะสืบว่า ซ่ำเส่ง ไปที่ไหน และเมื่อมันพบ ซำเส่ง พร้อมกับนามบัตรของผม มันก็ต้องนึกว่า ซ่ำเส่ง ทรยศ นั่นคือ จุดจบของ ซำเส่ง เจ้าพวกนี้ มีวิธีตัดสินกันประการเดียวคือ ชีวิต ฉะนั้น ท่านสารวัตรโปรดพิจารณาเอาเองว่า สมควรจะจัดการอย่างไรกับ ตันเป็งล้ง

จดหมายฉบับนี้ ผมเขียนถึงท่านสารวัตรโดยเฉพาะ และหวังว่าคงจะไม่ผ่านสายตาคนอื่นอีก ท่านสารวัตร จะเอาตัว จือเม้ง ไปได้ทุกเมื่อ โดยให้ เกรียง ไปเอาตัวมา เกรียง เขารู้ว่า จะไปเอาได้ที่ไหน

ส่วนผมนั้น อยากจะทิ้งปัญหาเหล่านี้ไว้ให้ท่านสารวัตรดำเนินการต่อไป เพราะทุกสิ่งก็ดูเหมือนจะค่อยๆ เข้าสู่ขั้นที่สว่างบ้างอยู่แล้ว

กุญแจสำคัญของเรื่องคือ จือเม้ง ฟุกซิน และ ตันเป็งล้ง

ผมคิดว่า ท่านสารวัตรก็คงจะทราบดีอยู่แล้วว่า ควรจะทำอย่างไรกับคนทั้งสามนี้

จือเม้ง นั้น ถ้าพูดให้ดีๆ ก็เลี้ยงไว้ใช้ได้ มันเป็นคนที่มีใจเด็ดเดี่ยวคนหนึ่ง ผมสงสัยเสียด้วยว่า มันอาจมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ ตันเป็งล้ง ก็ได้ ความสงสัยของผมอยู่ที่ การที่มันพยายามจะเข้าไปที่บ้านของ ซ่ำเส่ง ในคืนวันนั้น

ในบ้านของ ซ่ำเส่ง ไม่มีสมบัติอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะเอกสารทั้งหมดที่ผมได้มา ก็ไม่มีอะไรที่น่าจะเป็นประโยชน์ หรือเกี่ยวกับคนใดคนหนึ่งในเรื่องนี้ นอกเสียจากนามบัตรของ ตันเป็งล้ง ซึ่งมีข้อความนัดให้ ซ่ำเส่ง ไปพบคืนวันที่ตายเท่านั้น

ถ้าหากจุดประสงค์ของ จือเม้ง อยู่ที่เจ้านามบัตรแผ่นนี้โดยเฉพาะ ก็ไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องความเกี่ยวข้องระหว่าง จือเม้ง กับ ตันเป็งล้ง

จือเม้ง จะไม่ยอมซัดทอดถึง ตันเป็งล้ง เป็นอันขาด ถึงแม้จะเป็นจริง ฉะนั้น ท่านสารวัตรจะต้องสาวจาก ตันเป็งล้ง มาหามัน ซึ่งผมขอปล่อยให้เป็นเรื่องของท่านสารวัตร ที่จะจัดการต่อไป

ผมได้ส่งหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมากับจดหมายฉบับนี้ และผมจะได้ให้ตาจอน คนประจำสำนักงานของผม เอามาส่งให้ท่านสารวัตรด้วยมือ หากผิดไปจากนี้ ก็ให้ทวนถามมาที่ผม และผมจะรู้สึกเป็นพระคุณมาก หากจะได้รับทราบถึงผลงานของท่านสารวัตรบ้าง เพื่อเก็บไว้ในแฟ้มของผม
ผมขอให้ความสำเร็จจงเป็นของท่านสารวัตร

กัลยา ฝากความคิดถึง มายังท่านสารวัตรด้วย ”

“ เท่านั้น กัลยา ” พราน พูดจบด้วยอาการยิ้มละไม

กัลยา หันมามองหัวหน้าของหล่อน พูดว่า
“ ข้อความอันท้ายนี้ จำเป็นด้วยหรือคะ ”

พราน ชำเลืองตามาที่หล่อน ยักคิ้ว แล้วทอดสายตาอยู่ที่หล่อน เป็นการย้ำคำพูดของเขา

กัลยา ตวัดสายตากลับฝนลักษณะครึ่งค้อน แล้วลุกขึ้นหยิบกระดาษร่างนั้นเดินออกไป

พราน หรี่ตามองเลขานุการของเขา ยกมือขึ้นกอดอกแล้วหลับตา ยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินเสียงเครื่องพิมพ์ ดังเป็นข้าวตอกแตกอยู่ข้างนอก






Create Date : 14 ธันวาคม 2557
Last Update : 15 ธันวาคม 2557 4:36:59 น. 1 comments
Counter : 542 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog

อ่านสนุกมากจ้า..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 15 ธันวาคม 2557 เวลา:22:42:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.