จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
กระสุนปริศนา ตอนที่ ๔

นวนิยาย สืบสวนสอบสวนของ นักสืบพราน เล่มที่ ๒
เรื่องที่ ๒ - กระสุนปริศนา

ตอนที่ ๔

พราน เจนเชิง หักพวงมาลัยรถยนต์เลี้ยวเข้าถนนซอย ซึ่งมีป้ายติดไว้ตรงหน้าว่า “ ทางเข้าบังกาโลว์ประสานสุข ” ที่สำโรง เขาพารถแล่นเข้าไปในบริเวณที่มีบังกาโลว์ปลูกเป็นแถวๆ ประมาณสิบสองหลัง บังคับรถให้หยุดตรงบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่ง ซึ่งมีป้ายติดไว้ว่า “ ต้องการที่พัก สอบถามที่นี่ ”

พรานเปิดประตูรถลงมา ก้าวเท้าเดินไปขึ้นบันไดสองสามขั้น ตรงไปที่เคาน์เตอร์ ซึ่งมีเด็กผู้ชายรุ่นหนุ่มคนหนึ่ง นั่งอยู่เบื้องหลังเคาน์เตอร์นั้น

เด็กหนุ่มคนนั้นเงยหน้าขึ้น ถามด้วยกิริยานอบน้อมว่า
“ ต้องการบุ๊กบังกาโลว์หรือครับ ”
พรานยันข้อศอกที่เคาน์เตอร์ พูดว่า
“ เปล่า น้องชาย... แต่เพื่อนอั๊วคนหนึ่ง เขานัดให้อั๊วมาพบเขาที่นี่ วันนี้ เขาว่า เขาอยู่ที่บังกาโลว์หลังที่ ๘... เขายังอยู่หรือเปล่า ”
เด็กหนุ่มผู้นั้น หันไปมองแผงกุญแจที่ติดไว้ข้างฝา แล้วหันมาพูดว่า
“ ยังอยู่ครับ กุญแจยังไม่ได้เอาเมาคืน ”
เขาก้มตัวมองลงไปทางเบื้องหลังของพราน ไปยังบังกาโลว์ซึ่งเรียงเป็นแถว แล้วชี้มือ พูดว่า
“ รถของแกยังจอดอยู่ใต้ถุนบังกาโลว์นั่น ”
พรานมองตามมือที่ชี้ของเด็กหนุ่ม เขาแลเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ใต้ถุนของบังกาโลว์ ซึ่งอยู่แถวที่สอง ห่างออกไปจากบังกาโลว์หลังที่ใกล้ที่สุดสามหลัง
บังกาโลว์ประสานสุขปลูกเรียงกันเป็นสามแถว แถวละสี่หลัง แถวหน้า ยังมีรถยนต์จอดอยู่ในลักษณะเดียวกันอีกสองหลัง และมีอีกคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ใต้ถุนบังกาโลว์แถวหลัง
พรานพยักหน้า
“ ขอบใจ.. น้องชาย... อั๊วจะไปหาเขาเอง ”
เด็กหนุ่มคนนั้น ก้มหน้าลงอ่านหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ตรงหน้า ขณะที่ พราน ผละออกไป

พราน ก้าวเท้าขึ้นบันไดบังกาโลว์หลังที่ ๘ เขาเดินช้า ๆ ไปที่ประตูซึ่งปิดอยู่ และมีป้าย ห้ามรบกวน แขวนอยู่กับลูกมือบิดประตู ที่หน้าห้อง
พรานขยับมือจะเอื้อมไปบิดลูกบิด แต่แล้วกลับชะงัก เขายกมือขึ้นเคาะประตูนั้น ๒ - ๓ ครั้ง
เงียบ ไม่มีเสียงตอบ
พราน เคาะอีกถี่ๆ คราวนี้แรงกว่าเดิม
เงียบ ไม่มีเสียงอะไรเลย
เขายืนนิ่งอยู่สักครู่ คิ้วทั้งคู่ขมวด ล้วงผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกง จับเข้าที่ลูกบิดประตูนั้น ลองขยับดู มันเปิดออกได้
พราน เปิดประตูออก เก็บผ้าเช็ดหน้าเข้ากระเป๋า เขาเดินเข้าไปในห้องนั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นห้องรับแขก ทุกสิ่งเงียบสงัด

พราน สำรวจดูทั่วบริเวณห้องนั้น ที่โต๊ะตรงกลางห้อง มีขวดวิสกี้ตราขาว ซึ่งพร่องไปประมาณหนึ่งในสี่ตั้งอยู่ มีถ้วยแก้วสองใบวางอยู่ และขวดโซดาขวดหนึ่ง มีน้ำโซดาเหลือติดก้นขวด วางอยู่ใกล้ ๆ กัน

พรานก้มลงดมที่ถ้วยแก้วทั้งสองใบนั้น ใบหนึ่งเขาได้กลิ่นวิสกี้ แต่อีกใบหนึ่งซึ่งมีรอยลิปสติกของผู้หญิงติดอยู่ที่ขอบแก้ว ไม่มีกลิ่น มีน้ำโซดาเหลืออยู่ประมาณสองเซ็นติเมตรจากก้นถ้วย
ที่บนพื้นใกล้ ๆ โต๊ะ มีขวดโซดาซึ่งยังไม่ได้เปิด ตั้งอยู่ขวดหนึ่ง และบนตู้ซึ่งวางอยู่ข้างฝา มีขวดโซดาที่ยังไม่ได้เปิด วางเรียงอยู่อีก ๓ ขวด

พราน ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปทางห้องด้านซ้ายมือ ล้วงผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋า ดึงประตูเปิดกว้าง ห้องนั้นเป็นห้องนอน แต่ไม่มีรอยว่ามีผู้ใช้ ของทุกอย่างในห้องอยู่ในลักษณะเรียบร้อย ผ้าปูที่นอนเรียบ เขากลับหลังออกมา เดินกลับมาทางห้องด้านขวามือ ดึงลูกบิดประตูด้วยมือที่คลุมด้วยผ้าเช็ดหน้า เปิดประตูออก เขาต้องชะงักเท้าอยู่ที่หน้าประตูนั้น

สิ่งที่เขาเห็นข้างในห้องนั้น คือ ร่างของชายคนหนึ่ง นอนคว่ำหน้าเหยียดยาวตามขวางของเตียง มือทั้งส องข้างทิ้งห้อยลงข้างเตียง ศีรษะตก มีรอยโลหิตเปรอะแดงฉานที่บนผ้าปูที่นอน ตรงขอบเตียงนั้น และที่บนพื้นตรงบริเวณที่ศีรษะห้อยอยู่
ชายผู้นั้นสวมกางเกงขายาวสีขาว เสื้อเชิ๊ร์ตแขนยาวสีขาวซึ่งสวมอยู่กับตัวยับยู่ยี่ ตรงคอมีรอยเลือดที่กระเซ็นติดอยู่

พราน ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง เขาก้มลงพิจารณาที่บริเวณท้ายทอยของร่างของชายผู้นั้น ซึ่งมีเลือดจุกอยู่เป็นลิ่ม เขาเห็นรอยบาดแผล วงกลมเล็กๆ ซึ่งเป็นรอยกระสุนปืน
ไม่มีปัญหาอะไรเลย ชายผู้นั้น...ตายสนิท

ข้าง ๆ ศพทางด้านขวามือ หมอนใบหนึ่งวางอยู่ มีรูขาดตรงกลาง คล้ายรอยรูกระสุน นุ่นทะลักออกมากระจายอยู่รอบ ๆ

ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ มีเสื้อชั้นนอก สีขาวตัวหนึ่ง แขวนครอบพนักเก้าอี้ เน็คไทสีเขียวสด พาดอยู่บนเสื้อตัวนั้น
พราน โหย่งปลายเท้าไปที่เสื้อตัวนั้น เขาค้นดูตามกระเป๋าเสื้อ มีซองธนบัตรซึ่งมีเงินใส่อยู่ปึกหนึ่ง เขาไม่ได้นับ ตามซอกกระเป๋า ไม่มีเอกสารอะไร นามบัตรที่ติดอยู่กับกระเป๋านั้น พิมพ์ไว้ว่า
ถาวร พายับ
บริษัทไทยการค้า
พรานยัดซองธนบัตรใส่กระเป๋าไว้อย่างเดิม เขากวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง
ที่พื้นตรงใกล้กับมือของผู้ตายที่ห้อยอยู่ มีรองเท้าของสตรีข้างหนึ่ง กลิ้งตะแคงอยู่ ใกล้ๆ กันนั้น.. ตุ้มหูเพชรขนาดเล็กข้างหนึ่ง ตกอยู่ไม่ห่างกันเท่าใด
พรานหันหลังกลับมาที่ประตู เขาปิดประตูไว้ดังเดิมด้วยมือที่ถือผ้าเช็ดหน้า ผ่านห้องรับแขกมาออกประตู แล้วปิดประตูไว้ตามเดิม ยัดผ้าเช็ดหน้าเข้ากระเป๋ากางเกง
ขณะเดินลงบันได เขาควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบมวนหนึ่ง แล้วสาวเท้ามายังเรือนเล็กซึ่งเป็นที่สำหรับพนักงาน

เด็กหนุ่มคนนั้น เงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ เมื่อ พรานมาหยุดตรงหน้า เขาเอ่ยปราศัยตามธรรมเนียมว่า
“ เป็นยังไงครับ พบไหมครับ ”
พราน ท้าวข้อศอกข้างหนึ่งลงบนเคาน์เตอร์ พูดว่า
“ พบ แต่แย่หน่อย ”
เด็กหนุ่มคนนั้นหัวเราะ
“ ยังไม่ฟื้นหรือครับ ถ้าจะจุ่ยเข้าไปมากหน่อย แล้วผู้หญิงที่มากับแกเล่าครับ ยังอยู่ไหมครับ ”
พราน เลิกคิ้ว พ่นควันบุหรี่
“ ไม่อยู่ แต่เห็นเขาจะฟื้นลำบาก ”
“ เต็มที่หน่อย เย็นวันนี้ มีคนมาบุ๊กบังกาโลว์หลัง ๘ นี่ไว้เสียด้วย ถ้าแกยังไม่ไป ผมจะทำยังไงดี ”
“ ก็เห็นจะต้องไป น้องชาย... แต่...นี่แนะ ... รู้ไหมว่า เมื่อวานนี้ เขาตั้งแต่กี่โมง ”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขั้น ทำท่าคิด
“ ราว ๆ บ่ายสี่โมงกว่าๆ เห็นจะได้ครับ ผู้หญิงที่มาด้วย... ยังงี้เลยคุณ ” เขายกนิ้วหัวแม่มือประกอบ
พราน ยิ้ม
“ บังกาโลว์ที่นี่ เต็มทุกวันหรือ น้องชาย ”
“ ไม่ใคร่จะว่างหรอกครับ คู่นั้นออก คู่นี้เข้ามา ขายดีจริง ๆ เงียบดีแถวนี้ คุณจะจองไว้บ้างก็ได้นี่ครับ วันนี้มีว่างอยู่ที่หลังที่ ๑๒ ตรงกับหลังที่ ๘ นั่นแหละครับ ผู้หญิงคนหนึ่งมาเช่าไว้ เพิ่งออกไปเมื่อตอนสามโมงเช้านี่เอง ”
พรานสั่นศีรษะ แล้วถามว่า
“ เมื่อวานนี้เล่า เต็มหมดไหม ”
“ เต็มเหมือนกันครับ ทีแรกก็เหลือสามหลัง พอคุณนี่... ” เขาชี้ไปที่บังกาโลว์หลังที่ ๘ “... แกมา พอตกค่ำ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมว่านี่แหละครับ มาเปิดหลังที่ ๑๒ แล้วก็มีคุณผู้ชายอีกคนหนึ่งมาอยู่ที่หลัง ๙ ตอนขากลับ หลังที่ ๙ กับหลังที่ ๑๒ กลับด้วยกัน ของธรรมดาครับ ... บางทีเขานัดกันมา ต่างคนต่างอยู่ ... ของพรรณนี้ มันต้องทำอะไรให้แนบเนียนหน่อย...พวกผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้เสีย เขาจะไปกันเมื่อไรก็ได้ แต่ค่าเช่าต้องเสียล่วงหน้าก่อน... แต่... เมื่อกี้นี้ คุณว่า ผู้หญิงที่หลัง ๘ ไม่ได้อยู่แล้วหรือครับ ”
พราน มองหน้าเด็กคนนั้น แล้วสั่นหน้า
เด็กหนุ่มเกาหัวยิก แล้วหัวเราะเบาๆ
“ เอ ... แอบไปเมื่อไร ผมไม่ยักรู้ เป็นยังงี้แหละครับ ไอ้เราจะทำเสือกสอดไปนัก เดี๋ยวก็จะเสียลูกค้า ”
“ น้องชายยู่ที่นี่คนเดียวหรือ ” พรานถามขึ้นโดยไม่ได้เอาใจใส่กับถ้อยคำนั้น
“ ผมเปลี่ยนเวรกับไอ้น้อยมันครับ... คนละสามวัน พรุ่งนี้ ผมก็ออกเวรแล้ว หกโมงเช้า ”
“ เมื่อวานนี้ ตอนหัวค่ำ ลื้ออยู่ที่นี่หรือเปล่า ซักราว ๆ หกโมงเย็นหรือทุ่มหนึ่ง ”
“ อยู่ครับ.. ตอนนั้นแหละครับ มักจะมีคนมากัน... ผมรับแขกอีก ๒ คน คือ หลัง ๑๒ กับหลัง ๙ ก็เวลานั้นแหละครับ ”
“ ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติหรือเปล่า เป็นเสียงยางรถระเบิด หรืออะไรพวกนี้ ”
เด็กหนุ่มคนนั้นทำคิ้วขมวดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดพร้อมกับสั่นหน้าว่า
“ ไม่ได้ยินอะไรนี่ครับ ... ทำไมหรือครับ ... ทีนี่เงียบมาก ถ้ามีเสียงอะไร ผมก็ต้องได้ยิน ”
“ แล้วต่อๆ มาตลอดคืนล่ะ ได้ยินเสียงอะไรบ้างไหม ”
“ เมื่อคืนนี้ ผมเข้านอนสัก สี่ทุ่มกว่าๆ ได้ ... ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่เวลานอน ผมไม่ทราบ ”
พราน ยิ้มเล็กน้อย พูดว่า
“ น่องชายจำได้ว่า หลัง ๘ นั่น เขามาด้วยกันกับผู้หญิงคนหนึ่งหรือ ”
“ ครับ คุณผู้ชายขับรถมาจอดตรงหน้านี้ ผมยังเห็นคุณผู้หญิงถนัด ... สวยชมัดเลยครับ ... คุณผู้ชายขึ้นมาเอากุญแจกับผม แกชำระเงินสำหรับวันเดียว แล้วก็ขับไปที่หลัง ๘ นั่น ”
“ เขาเคยมาที่นี่หรือเปล่า ก่อนหน้านั้น ”
“ ไม่เคยเห็นครับ แต่... ไอ้น้อยมันจะเคยเห็นหรือเปล่า ผมไม่ทราบ ”
“ น้องชายชื่ออะไร ... บ้านอยู่ที่ไหน ”
“ผมชื่อ แวว ครับ... บ้านผมอยู่ปากน้ำ ออกเวรผมก็ขึ้นรถขนส่ง กลับบ้านผม ”
พราน ล้วงกระเป๋า หยิบซองธนบัตรออกมาเปิดหยิบธนบัตรใบละ ๒๐ บาทออกมา วางลงบนเคาน์เตอร์
“ เอ้า... น้องชาย... เอาไว้ซื้อบุหรี่... ขอบใจมาก ”
เด็กหนุ่มที่ชื่อ แวว รับธนบัตรมาถือ พร้อมกับยกมือไหว้ “ ขอบคุณครับ ”
พราน ขยี้บุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ เขามองหน้าแววนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า
“ น้องชาย.. อย่าเพิ่งขึ้นไปยุ่งอะไรที่บังกาโลว์หลัง ๘ นั่นนะ จนกว่าตำรวจจะมา... อยู่เฉย ๆ ที่นี่ ”
แวว มีท่าทางตกใจเล็กน้อย “ ตำรวจจะมาทำไมครับ ”
พรานยิ้ม “ อั๊วจะไปบอกตำรวจให้มา ”
“ ทำไมเล่าครับ... เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ”
“ ลื้ออยู่ที่นี่เฉย ๆ ก็แล้วกัน... แต่... ลื้อต้องเชื่ออั๊ว... อย่าขึ้นไปยุ่งบนบังกาโลว์หลัง ๘ นั่นเป็นอันขาด ”
แวว มองดู พราน แล้วเปลี่ยนสายตาไปที่บังกาโลว์ หลังที่ ๘
“ คุณนั่นแกยังอยู่ที่นั่นหรือครับ... แกเป็นผู้ร้ายหนีตำรวจมาหรือครับ... คุณเป็นตำรวจหรือครับ ”
พรานยิ้ม ก้าวเท้าเดินออกที่บันได เขาหันมาทางเด็กหนุ่ม พูดว่า
“ เปล่า... อั๊วไม่ได้เป็นตำรวจ และคุณนั่นแกก็ไม่ไช่ผู้ร้าย ” เขาชี้มือไปที่ แวว “ แต่...ลื๊ออยู่เฉย ๆ ที่นี่... อ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป ”
แวว เกาหัวขยุกขยิก ร้อง
“ ว้า... ”




Create Date : 17 กันยายน 2557
Last Update : 17 กันยายน 2557 19:55:07 น. 1 comments
Counter : 640 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog

ติดตามอ่านจ้า..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 18 กันยายน 2557 เวลา:21:59:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.