โทรศัพท์ที่ข้างเตียงของพราน เจนเชิง ดังรั่วขึ้น พรานกำลังนั่งครึ่งนอนครึ่งอยู่บนเตียง เขาปิดหนังสือที่กำลังอ่านค้างอยู่ โดยใช้นิ้วมือคั่นไว้ เหลือบตาดูนาฬิกาตั้งโต๊ะหัวนอน ซึ่งบอกเวลา ๒๒.๐๐ น. ตรง เอื้อมมือไปหยิบหูโทรศัพท์ขึ้น และพูด
ฮัลโหล... ที่ไหน
เสียงของกัลยา ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
หัวหน้าพูดใช่ไหมคะ
พรานเหวี่ยงเท้าทั้งคู่ลงจากเตียงนอน โยนหนังสือไปอีกทางหนึ่ง เปลี่ยนเป็นท่านั่ง เขาใช้ข้อศอกข้างที่ถือหูโทรศัพท์ยันไว้บนหัวเข่า หัวเราะและพูด
กัลยา นั่นคุณพูดมาจากไหน
ที่สำนักงานค่ะ
ทำอะไรอยู่ล่ะ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว มีอะไรหรือ กัลยา คุณอยู่กับใครที่นั่น
คุณพิชิตอยู่ที่นี่ คุณเกรียงเพิ่งกลับไปเมื่อสักครู่นี้ ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าอยู่ที่ไหน และดิฉันต้องมาคอยฟังข่าวบางอย่างอยู่ที่นี่ เมื่อวานนี้ ดิฉันโทรมา นายโทนเป็นคนรับสาย สามวันที่หัวหน้าไม่อยู่นี้ ดิฉันต้องคอยรับรายงานจากคุณเกรียง และคุณพิชิตอยู่เรื่อย ๆ มีเรื่องหลายเรื่องที่จะเรียนให้ทราบค่ะ หัวหน้าจะให้เรียนเดี๋ยวนี้ หรือจะมาที่สำนักงาน
ด่วน และสำคัญไหม กัลยา
มีทั้งด่วน และไม่ด่วน มีเรื่องหนึ่งที่ดิฉันคิดว่า หัวหน้าควรจะได้ทราบด่วน จึงได้โทรมา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะพบ แต่เห็นว่าหลายวันแล้ว คงจะกลับมาแล้ว ดิฉันจึงลองโทรมาอย่างงั้นเอง
เรื่องอะไรบ้าง ว่าไปซิ กัลยา
เรื่องที่หนึ่ง เมื่อวานนี้ มีผู้ชายคนหนึ่งมาที่สำนักงาน เขาต้องการพบหัวหน้า บอกว่าชื่อนายประพาส ส่งศรี เป็นสามีแม่มยุรี ดิฉันบอกเขาไปว่า หัวหน้าไม่อยู่ และไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด ให้เขาแจ้งความประสงค์ไว้ และดิฉันจะเก็บไว้ให้หัวหน้า เขาบอกว่าเขามีเรื่องที่จะพูดกับหัวหน้าโดยเฉพาะ และไม่ยอมบอกอะไรอีก เพียงแต่บอกว่า วันหลังเขาจะมาใหม่และจนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เห็นมาอีก
พรานยิ้มที่มุมปาก ต่อไป
เรื่องที่สอง วันนี้ตอนเช้า คุณพิชิตมาที่สำนักงาน ถามหาหัวหน้า บอกว่ามีเรื่องด่วนที่จะเรียนคือ แม่มยุรีหายไปจากโรงแรมเฉย ๆไม่กลับมาสองคืนแล้ว ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งของทั้งหมดยังอยู่ในห้องเป็นปกติ และไม่มีวี่แววว่า ใครมาติดต่อ แกจะถามหัวหน้าว่า จะทำอย่างไรกันต่อไป เพราะลักษณะที่แม่มยุรีหายไป คงจะมิได้เป็นไปโดยความสมัครใจของเธอเอง เสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว และกระเป๋าเดินทางยังอยู่เรียบร้อย
เป็นความบกพร่องของพิชิต พรานพูดอย่างเอาจริงเอาจัง ที่ปล่อยให้จุดของเราหายไปได้ โดยปราศจากร่องรอยเช่นนั้น
คุณพิชิตอยากจะพูดกับหัวหน้า เพื่ออธิบายให้เข้าใจ
ไม่ต้อง ว่าเรื่องที่สามของคุณต่อไป
เรื่องที่สาม เสียงกัลยาพูดอย่างเหนื่อยใจ เมื่อตอนบ่ายวันนี้เอง มีคนโทรศัพท์มาที่สำนักงาน ไม่ยอมบอกชื่อว่าเป็นใคร ต้องการจะพูดกับหัวหน้า ดิฉันก็บอกไปอีกว่า หัวหน้าไม่อยู่ เขาบอกว่า ไม่เป็นไร เขาจะพูดกับดิฉันก็ได้ เขาบอกว่า เขารู้ว่าดิฉันรู้ว่าหัวหน้าอยู่ที่ไหน ให้เรียนบอกหัวหน้าทราบว่า เขาต้องการพบกับหัวหน้าเป็นการส่วนตัวและลับ ๆ ณ ที่ใดสักแห่งหนึ่ง เขาจะบอกข่าวเรื่องที่เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมรายนี้ให้ทราบโดยละเอียด เพราะเขาเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์นี้โดยใกล้ชิด ดิฉันถามหมายเลขโทรศัพท์ เผื่อว่าหัวหน้าจะติดต่อด้วย เขาบอกว่าไม่จำเป็น เขาจะโทรมาอีกราว ๆ ห้าทุ่ม ดิฉันบอกแกว่า เวลานั้นเป็นเวลาที่เราปิดสำนักงานแล้วเขากลับกำชับว่า ดิฉันต้องมาตอบรับโทรศัพท์จากเขา เพราะเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับงานของสำนักงานของเรา ถ้ามิฉะนั้น จะพลาดไม่ได้รู้ในสิ่งที่ควรจะรู้ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่ความสว่างของคดีนี้ เขาบอกว่า การที่หัวหน้าเอาตัวแม่มยุรีไปเก็บไว้นั้น ไม่ใช่เป็นหนทางที่ฉลาดเลย
หล่อนเน้นคำพูดประโยคหลังด้วยสำเนียงชัดเขนและช้าๆ
พรานหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า
เขาบอกว่า เขาจะโทรอีกตอนห้าทุ่ม อย่างนั้นหรือ กัลยา
ค่ะ ห้าทุ่ม และคุณพิชิต กำลังบ่นอยู่ว่า หัวหน้าจะเล่นตลกกับแก ก็ไม่บอกให้ทราบล่วงหน้าเสียด้วย
ใครบอกคุณเล่าว่า ผมเล่นตลก คนที่เล่นตลก ไม่ใช่ผม พรานพูด เสียงของเขายังกลั้วไปด้วยเสียงหัวเราะ แต่นั่น มันไม่ใช่เรื่องตลกเสียแล้ว กัลยา ฟังดูพิกลอยู่ ผมได้กลิ่นไม่ใคร่ดี ผมเข้าใจล่ะ ที่คุณยังอยู่ที่สำนักงานก็เพื่อจะคอยรับฟังโทรศัพท์ลึกลับรายนี้ใช่ไหม
ค่ะ หัวหน้าจะให้ดิฉันทำอย่างไรต่อไป
คอยผมอยู่ที่นั่น ขอเวลาผมแต่งตัวสักห้านาที อีกสิบห้านาที ผมจะไปที่สำนักงาน ให้พิชิตรอพบผมด้วย และถ้าเกรียงเขากลับมาอีกที ให้คอยอยู่เหมือนกัน คืนนี้ เรามีงานที่จะต้องทำ สนุกกันใหญ่ สวัสดี กัลยา ขอบคุณมาก