เส้นทางชีวิต .... กว่าจะถึงพันตำรวจเอก ตอนที่ ๔๗
ต่อมาอีกไม่กี่เดือน ก็มีนายตำรวจรุ่นใหม่รุ่นเร่งรัดออกมาสองรุ่น โดยเรียนไม่จบ รัฐบาลเร่งให้ออกรับราชการ เพราะข่าวกรองทางด้านการเมือง และการทหารชักไม่ใคร่จะดี ปี ๒๔๘๓ จึงมีนักเรียนออกรับราชการถึงสามรุ่น รุ่นแรก คือรุ่นพวกผม ที่เรียนจบหลักสูตร ต่อมาในเดือนสิงหาคม ก็มีออกมาอีกรุ่นหนึ่ง ที่เรียนตามหลังผมมาได้เพียงสองปีสามเดือน แล้วพอเดือนธันวาคมก็มีออกมาอีกรุ่น ที่ผมเป็นผู้ช่วยผู้บังคับหมวดอยู่ ออกมารับราชการอีก รุ่นนี้เรียนเพียงหนึ่งปีกับแปดเดือนเท่านั้น ที่ดังๆอยู่ขณะนี้ก็มี เป็นถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด รุ่นนี้แหละที่ส่ง ร้อยตำรวจตรี อรรณพ พุกประยูร มาอยู่กับผม ตอนนั้นผมเป็นรองสารวัตรอาวุโส รุ่นพี่ๆ เขาย้ายกันไปหมด เหลือแต่ผมคนเดียวจริงๆ สมัยนั้นนายตำรวจขาดแคลนมาก รองสารวัตรแต่ละโรงพัก มีประจำการอยู่เพียงโรงพักละคน-สองคนเท่านั้น ขนาดโรงพักปทุมวันซึ่งเป็นโรงพักขนาดท้องที่กว้างแห่งหนึ่ง ยังหาตำรวจมาเป็นรองสารวัตรยาก ก่อนที่สารวัตรจำรัส จะย้ายไป มีแต่เพียงสารวัตรกับผมเท่านั้นที่อยู่ประจำการ ต้องผลัดเปลี่ยนเข้าเวรกันคนละ สิบสองชั่วโมง เรียกว่า เวรสอบสวน ไม่ต้องแต่งเครื่องแบบไปนั่งโต๊ะ แต่ถ้ามีเรื่องเข้ามาถึงโรงพักจะต้องรับงานสืบสวนสอบสวนทุกเรื่อง ถ้าโดนชนิดที่จะต้องออกไปสอบสวนสืบสวนยังสถานที่เกิดเหตุเข้าด้วย ก็หัวปั่น ยานพาหนะประจำสถานีมีเพียงรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันเดียว ใช้กันแทบพัง ประเภทปัดเป่าคดีทำไม่เป็น งานตำรวจนครบาลเขาว่า ก็เหมือนกระโถนท้องพระโรง อะไรต่ออะไรมันโถมเข้ามาไม่มีวันหยุด เรื่องผัวเมียทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา ที่นายตำรวจนครบาลทุกคนจะต้องประสบ และเป็นเรื่องที่เวียนหัวยิ่งกว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้น ผัวจะเอาอย่างเมียจะเอาอย่าง เราต้องไกล่เกลี่ยให้เขาลงรอยกันให้ได้ อันนี้ วางไว้เป็นระเบียบการของกรมตำรวจกันเลยทีเดียว
Create Date : 08 มีนาคม 2560 |
Last Update : 9 มีนาคม 2560 0:58:52 น. |
|
1 comments
|
Counter : 796 Pageviews. |
|
|