เล่ม 2
ตอนที่ ๓
ผู้ที่เปิดบังตาห้องทำงานของพราน เจนเชิง เข้ามาในเวลา ๐๙.๐๐ น.ของวันรุ่งขี้น เป็นหญิงสาวในวัยยี่สิบเศษ กิริยาท่าทางเจนสังคม ลักษณะการแต่งกายบอกให้ทราบทันทีว่า เป็นผู้ที่นำสมัยอยู่เสมอ
พราน พิศดูใบหน้าของหล่อน ซึ่งไม่ต้องอาศัยการตบแต่งเท่าใด ทำให้เขาคิดไปว่า ถ้าได้เข้าประกวดนางงาม ก็คงไม่พ้นตำแหน่งรอง ๆ เป็นอย่างน้อย
เขาลุกขึ้นยืนรับความเคารพจากหญิงสาว และผายมือไปที่เก้าอี้รับแขก
เชิญนั่งซิครับคุณเพ็ญทิพย์
หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งตามคำเชิญ หล่อนส่งสายตาไปที่ กัลยา ซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้อีกตัวหนึ่งด้านซ้ายมือของ พราน
พรานพูดขึ้น เลขานุการของผมครับ... กัลยา ชาญวิทยา
หญิงทั้งสองทำความรู้จักกันด้วยการก้มศีรษะเล็กน้อย
มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้บ้าง พรานพูดขึ้น สายตาจับอยู่ที่ เพ็ญทิพย์
เพ็ญทิพย์ขยับกายเล็กน้อย และหันไปมองทาง กัลยาอีกครั้งหนึ่ง พราน จึงพูดว่า
คุณกัลยาเป็นเลขานุการที่ไว้วางใจได้ และความลับเกี่ยวกับเรื่องงานของผม อยู่ในกำมือของคุณกัลยา คุณมีอะไรพูดได้เต็มที่
เพ็ญทิพย์ยิ้มอย่างขวยเขิน
ดิฉันมาที่นี่ในเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวของดิฉันเอง มันมีเรื่องยุ่ง ๆ ที่ดิฉันไม่ใคร่เล่าให้ใครฟัง
ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่อยากเล่า แต่ถ้าคุณต้องการที่จะให้ผมช่วยเหลือคุณ ผมก็จะต้องได้ฟังเรื่องที่ผมต้องการรู้ ...และต้องไม่มีอะไรปิดบัง
เพ็ญทิพย์ก้มหน้าลงมองดูพื้นนิ่งอยู่ มือทั้งสองข้างของหล่อนบีบคลำกันเองเหมือนกำลังคิดตกลงใจอะไรบางอย่าง สักครู่จึงเงยหน้าขึ้น และพูดว่า
จำเป็นด้วยหรือคะที่คุณจะต้องรู้อะไรๆ หมดทุกอย่าง แม้ความลับที่สุดภายในครอบครัวของเรา
พราน หัวเราะเบา ๆ
มันต้องขึ้นอยู่กับความจำเป็น ซึ่งแล้วแต่ความต้องการของผม แต่ขอให้เชื่อว่า ผมจะไม่ล่วงล้ำเข้าไปในเรื่องส่วนตัวของคุณเลย ถ้าหากไม่จำเป็นจริง ๆ
เพ็ญทิพย์ก้มหน้าลงเล่นอยู่กับมือทั้งสองข้างของหล่อนอีก พราน หันไปทาง กัลยา เขาเห็นหล่อนทำปากบุ้ยใบ้ และยกสมุดบันทึกที่ถืออยู่ในมือให้พราน ดู หล่อนเขียนไว้ว่า ถูกวิ่งราวที่ โอเดี่ยน
พราน หันกลับมามอง เพ็ญทิพย์อีกครั้งหนึ่ง เป็นขณะที่พอดีหญิงสาวเงยหน้าขึ้น เขาชำเลืองตาแวบหนึ่งไปที่ กัลยา
เพ็ญทิพย์พูดขึ้นว่า ตกลงดิฉันก็เห็นจะต้องยอม เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตายของผู้มีพระคุณกับดิฉัน
พราน ยิ้มละไม
ถ้าเช่นนั้น โปรดเล่าเรื่องที่คุณอยากจะเล่าให้ผมฟังเสียก่อน เรื่องที่ผมจะถาม จะตามมาภายหลัง
เพ็ญทิพย์ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าถือ ขึ้นมาเช็ดที่ปลายจมูก และพูดว่า
ดิฉันมีสามีแล้ว ขณะนี้เรากำลังแยกกันอยู่ แต่ยังไม่ได้หย่าขาดจากกันเป็นทางการ เป็นเพราะสามีของดิฉันคนนี้ ก่อเรื่องต่าง ๆ ขึ้น จนดิฉันต้องมาขอความช่วยเหลือจากคุณ อาชีพของเขาคือการทำป่าไม้ และป่าไม้ส่วนมากของเขา
อยู่ทางภาคเหนือ เราเพิ่งจะแต่งงานกันได้ปีเศษ ๆ และเพิ่งจะแยกกันประมาณเดือนกว่ามานี่เอง
สาเหตุ ? พรานขัดขึ้น
ดิฉันจะค่อย ๆ ลำดับเรื่อง ... ไหนคุณว่าจะให้ดิฉันเล่าไปก่อน เพ็ญทิพย์ติงขึ้น
พรานหัวเราะ เอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ ไม่ได้พูดอะไร
ก่อนที่เราจะพบกัน... ดิฉันหมายถึงคุณพงษ์ สามีของดิฉัน กับตัวดิฉัน เพ็ญทิพย์พูดต่อไปช้า ๆ เสียงของหล่อนไพเราะมาก ตามความคิดของพราน ก็เนื่องด้วยคุณลุงของดิฉันเป็นผู้ทำป่าไม้เช่นเดียวกัน และมีธุรกิจที่จะต้องติดต่อกับคุณพงษ์เสมอ เราจึงได้รู้จักกันด้วยเหตุนี้ ดิฉันอยู่ในความปกครองของคุณลุงของดิฉันมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยคุณพ่อตาย ...และคุณแม่ก็พาดิฉันมาอยู่กับคุณลุง ซึ่งเป็นพี่ของคุณแม่ นับแต่นั้นมา ดิฉันแต่งงานกับคุณพงษ์ก็ด้วยความเห็นชอบของคุณลุง ในตอนที่ดิฉันแต่งงานนั้น กิจการป่าไม้ของคุณลุง และของคุณพงษ์ ก็มีท่าทีจะรวมกันเป็นบริษัทเดียวกัน และความประสงค์ของคุณลุงก็อยากจะให้เป็นเช่นนั้น แต่ตุณพงษ์เป็นคนฉลาด และเล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงมากกว่าคุณลุงของดิฉัน แกค่อย ๆ แย่งกิจการต่าง ๆ ไปจากมือของคุณลุง จนในที่สุด สัมปทานการทำป่าไม้แห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นของคุณลุง ก็ต้องหลุดไปอยู่ในกำมือของคุณพงษ์ด้วยวิธีอันพลิกแพลงของแก
หญิงสาวหยุดพูดชั่วขณะ คล้ายกับจะพยายามลำดับเรื่องให้เป็นไปตามลำดับ หล่อนเหลือบสายตาขึ้นมองดู พราน ซึ่งกำลังมองดูหล่อนอยู่โดยไม่ได้พูดอะไรเลย เพ็ญทิพย์จึงพูดต่อไป
ความจริงดิฉันควรจะยินดี ที่สามีของดิฉันมีความสามารถถึงขนาดนั้น และกำลังจะได้ผลประโบชน์จากงานต่อไป ตามวิธีการของเขา แต่ในเมื่อความเจริญรุ่งเรืองของเขาจะยังผลให้เกิดความล่มจมกับบุคคลซึ่งมีพระคุณที่สุดในชีวิตของดิฉัน เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่สามารถจะชื่นชมด้วยได้ ดิฉันได้พยายามขอร้องเขาด้วยปรพการต่าง ๆ ให้คืนกิจการให้กับคุณลุงเสีย และอย่าใช้วิธีการของเขารังแกคุณลุงอีกต่อไปเลย เชาก็ไม่มีทีท่าที่จะสนใจกับคำขอร้องของดิฉัน เขาพูดแต่เพียงว่า การค้าต้องมีการต่อสู้ คนแพ้ก็ควรจะหลีกทางออกไป ดิฉันจึงทนอยู่ไม่ไหว และได้ตัดสินใจที่จะแยกทางกับเขา เพราะมิฉนั้นแล้ว ดิฉันก็จะได้ชื่อว่า เป็นคนเนรคุณอย่างร้ายแรง
พอดิฉันบอกให้เขาทราบว่า ดิฉันจำเป็นจะต้องแยกทางกับเขา เพ็ญทิพย์พูดต่อไปโดยเว้นจังหวะเล็กน้อย
เขากลับหาว่า มันเป็นเพราะคุณลุงของดิฉันเป็นผู้ยุยง เขาพูดว่า ดิฉันไม่รู้ว่าคุณลุงของดิฉันได้พยายามเล่นลูกไม้กับเขาอย่างไรบ้าง เขาไม่อยากจะพูดอะไรที่จะเป็นการกระทบกระเทือนใจดิฉัน และเขาขอให้ดิฉันคิดดูให้ดี ๆ ในเรื่องนี้ ถ้าเป็ฯความประสงค์ของดิฉัน ที่จะแยกทางกับเขาอย่างแน่นอนแล้ว เขาก็ไม่อาจขัดได้ และเขาเองเสียใจมาก ดิฉันยืนยันคำพูดของดิฉัน เราจึงตกลงที่จะแยกทางกัน แต่ยังมีเรื่องยุ่งๆ อันเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะต้องจัดการกันอยู่ การหย่าขาดทางอำเภอจึงยังทำไปไม่ได้
หลังจากที่เราแยกกันอยู่ประมาณสองอาทิตย์ ก็เกิดเรื่องขึ้นอีก คุณลุงของดิฉันได้รับจดหมายขู่ฉบับหนึ่ง จะเอาชีวิต ในจดหมายฉบับนั้นบอกแต่เพียงว่า คุณลุงเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากแก่บุคคลหลายคน และให้ระวังตัวไว้ วันหนึ่งจะถูกฆ่าตายอย่างไม่ต้องสงสัย คุณลุงโกรธมาก ท่านเข้าใจว่าเป็นการกระทำของคุณพงษ์ เพราะท่านไม่เคยมีศัตรูที่ใดเลย และท่านก็ไม่กลัว แต่ดิฉันเห็นว่า มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวเรื่องหนึ่ง เพราะถ้าหากมันเป็น การกระทำของคุณพงษ์แล้ว วันหนึ่งมันจะต้องเป็นความจริง เพราะเขามีพรรคพวกมาก และนิสัยของพงษ์นั้น เป็นคนทำอะไรทำจริง และเป็นคนพูดน้อย เมื่อ ๒ ๓ วันมานี้ มีคนแปลกหน้ามาเมียงมองที่ข้าง ๆ บ้านเรา เป็นที่ผิดสังเกตบ่อย ๆ ดิฉันเกรงว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็ยังรู้ไม่ได้ คุณลุงเป็นคนไม่กลัวคน วันหนึ่งท่านเกือบจะยิงคนพวกนี้เสียแล้ว ดิฉันได้ทัดทานไว้ ท่านบอกว่าท่านทนไม่ได้ที่จะมีใครมาเหยียบจมูกท่าน ดิฉันจึงได้ตัดสินใจมาพบกับคุณ เพื่อให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้สงบลงไป จะเป็นไปด้วยประการใด ๆ ก็สุดแล้วแต่คุณ ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น
เพ็ญทิพย์จบคำพูดของหล่อน พร้อมกับมองดู พราน
พรานยังจับสายตาของเขาอยู่ที่หญิงสาว และไม่ได้พูดอะไร นิ้วมือของเขาเคาะพนักเก้าอี้อยู่ไม่เป็นจังหวะ เขาพูดขึ้นว่า
ทำไมคุณได้หาตำรวจ
หญิงสาวขยับตัวก่อนที่จะพูดว่า
มันอาจเป็นเรื่องเล็กเกินไป สำหรับที่จะให้ตำรวจมาเอาใจใส่กับเรา และอีกประการหนึ่ง คุณลุงคงจะไม่พอใจที่จะให้ใครยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ดิฉันมาที่นี่ ท่านก็ไม่รู้ และดิฉันก็ไม่อยากให้ท่านรู้ด้วย
พรานหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เขาชำเลืองสายตาไปที่ กัลยา ซึ่งพอดีละจากสมุดขึ้นมาสบตาเขา พราน เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูง เขาพ่นควันบุหรี่เป็นทางยาวออกมา หันหน้ามาทาง เพ็ญทิพย์ และพูดขึ้น
หมายความว่า คุณจะให้ผมทำงานเพื่อให้รู้แน่ว่า การที่คุณลุงของคุณไม่รับการขู่ และตลอดจนสิ่งปกติที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นการกระทำของสามีของคุณใช่หรือไม่ อย่างนั้นหรือ
ก็ทำนองนั้นแหละค่ะ และดิฉันอยากให้คุณหาทางยุติเรื่องนี้เสียด้วย ถ้าหากทำได้ ดิฉันเกรงว่า เขาจะทำอะไรแปลกๆขึ้นไปอีก
แล้วก็เรื่องการหย่าร้างของคุณ ?
ดิฉันจะจัดการของดิฉันเอง เพ็ญทิพย์ตอบคำถามอย่างมั่นใจ ดิฉันคิดว่า สำหรับตัวดิฉันกับ พงษ์ ยังคงพอที่จะพูดกันได้
พราน ขยับจะพูดอะไรออกมา แต่ครั้นแล้วกลับนิ่งเสีย
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog
สวัสดีจ้า..
มาอ่านนิยายสนุกๆจ้า..