จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
28 กันยายน 2557
 
All Blogs
 

กระสุนปริศนา ตอนที่ ๙

นวนิยาย สืบสวนสอบสวนของ นักสืบพราน เล่มที่ ๒
เรื่องที่ ๒ - กระสุนปริศนา

ตอนที่ ๙

พราน เจนเชิง ออกคำสั่งให้คนขับรถของเขา หยุดรถยนต์อยู่ตรงเงามืดของต้นไม้ริมถนน ห่างจากโรงแรมเทวมิตร ประมาณ ๒๐ เมตร เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลา ๒๐.๐๐ น.เลยไปไม่กี่นาที เขาเปิดประตูรถ ก้าวออกมา และหันไปสั่งคนขับรถ ให้เคลื่อนรถออกไปจากที่นั่น และให้กลับมาจอดที่เก่าอีก ระยะเวลา ๔๕ นาที

รถยนต์ของเขาเคลื่อนออกไปจากที่ โดยคนขับที่ชินต่อคำสั่ง เขาก้าวเท้าเดินลัดเลาะไปตามขอบถนน เลี้ยวเข้าทางด้านหลังของโรงแรม ออกมาสู่ห้องโถง และโดยไม่ได้เอาใจใส่ต่อสิ่งใดๆ ทั้งหมด เขาเดินเรื่อยๆ ไปยังประตูลิฟต์ ซึ่งพอดีกำลังเปิดรอคอยผู้ที่จะขึ้นไปข้างบนอยู่
พราน ก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ บอกเด็กประจำลิฟต์ว่า
“ ชั้นสาม ”

เด็กประจำลิฟค์ ก้าวเท้าตามเข้าไป ปิดประตู และบังคับลิฟต์ให้ทำงาน ค่อยๆ เคลื่อนขึ้นสู่ชั้นบน
พรานไม่ได้เอาใจใส่ต่อสายตาของเด็กประจำลิฟต์ ที่ลอบมองเขาอยู่ เขาควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ประหนึ่งว่าเป็นผู้พักของโรงแรม

ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นสาม พราน ก้าวออกจากประตูลิฟต์ ควักธนบัตรใบละ สิบ บาท ใส่ลงในมือของเด็กประจำลิฟต์ แล้วสาวเท้าเดินไปทางเดินระหว่างห้องพัก เมื่อร่างของเขาลับเหลี่ยมผนังไป เด็กประจำลิฟต์ ซึ่งชะโงกตัวออกมามองอย่างไม่แน่ใจ ก็หันกลับเข้าไปในลิฟต์ ปิดประตูลิฟต์ แล้วมำลิฟต์เลื่อนลงชั้นล่าง

พราน ยืนพิงมุมของผนังห้องอยู่พักหนึ่ง เขาก็กลับเดินย้อนมาทางเก่า ผ่านประตูลิฟต์ที่ปิดแล้ว และลงบันได ซึ่งอยู่ติดๆ กับลิฟต์ ลงมายังชั้นสอง สายตาของเขามองกวาดไปตามหมายเลขที่ติดอยู่หน้าห้องพัก และเดินไล่เลขหมายไปจนถึงห้องเลขที่ ๒๑๐

พราน หยุดที่หน้าประตูห้องนั้น ยกมือขึ้นเคาะเบาๆ ๒ – ๓ ครั้ง
มีเสียงผู้หญิงพูด ดังมาจากข้างใน
“ ใคร ”
“ ผมเอง ” พราน พูด “ พราน เจนเชิง... เปิดประตู เร็วๆ ”

เสียงกลอนข้างในขยับ และลูกบิดประตูหมุน บานประตูแง้มออก
พราน ผลักประตู และเคลื่อนตัวเข้าไป

ยุพดี เพ็ญพรรณ เครื่องแต่งกายด้วยเสื้อนอนแพรบางๆ ถอยหลังกรูด ไปยืนอยู่เกือบกลางห้อง
พราน หันมาปิดประตู ลงกลอน เขาหันหน้ากลับมา พูดว่า
“ ขอโทษ ที่ต้องเข้ามาในลักษณะนี้ ” เขาชำเลืองตาไปทั่วร่างของหล่อน แล้วพูดว่า “ คุณสวมเสื้อคลุมเสียหน่อยก็ดี ผมมีเรื่องที่จะพูดอะไรกับคุณอีกนาน ”

ยุพดี เดินไปที่เสื้อคลุมนอน ซึ่งพาดไว้ที่ขอบเตียง หยิบขึ้นมาสวม ขณะที่ พราน เดิน ไปที่โต๊ะรับแขก ซึ่งมีขวดบรั้นดีตั้งอยู่ และมีถ้วยแก้วเล็กๆ กับถ้วยน้ำเย็นวางอยู่ใกล้ๆ กัน เขาพูดว่า
“ คุณเอาอย่างนี้เหมือนกันหรือ ”

ยุพดี หัวเราะเบาๆ ด้วยเสียงสั่นๆ
“ ค่ะ... ดิฉันสั่งมันขึ้นมา เพื่อระงับความตื่นเต้น วันนี้ทั้งวัน กลุ้มใจเหลือเกิน ออกไปไหนก็ไม่ได้ ... อาหารก็ยังไม่ได้รับเลย .. มันไม่หิว ”

พราน รินบรั้นดีลงในถ้วยแก้วใบเล็ก ยกขึ้นจดริมฝีปาก เขาได้กลิ่นหอมบางๆ ที่ถ้วยแก้วนั้น แล้วยกเทรวดเดียวเข้าไปในลำคอ เดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง พูดขึ้น พร้อมกับชี้ไปที่เก้าอี้ตรงหน้า
“ นั่งซิ คุณยุพดี... ผมมีเรื่องที่จะต้องทราบจากคุณบางอย่าง ”

ยุพดี เดินมานั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า
ความระโหยโรยแรงด้วยความอ่อนใจ ที่ฉายอยู่บนใบหน้าของหล่อน ยังไม่ลบรอยของความงามลงไปได้ หล่อนมองหน้า พราน นิ่งอยู่เป็นเชิงรอคำถาม

พราน พูดขึ้นว่า
“ คุณจะต้องตอบคำถามของผมด้วยความจริง และจะปิดบังอะไรไม่ได้เป็นอ้นขาด คุณรับรองได้ไหม ”
ยุพดี ก้มศีรษะน้อย ๆ รับคำ

“ ดีแล้ว ” พราน พูด นัยน์ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย “ เมื่อวันที่ ชาลี เขามาส่งคุณที่บ้าน คืนวันเกิดเหตุ คุณจำได้ไหม ขณะที่คุณไปถึงบ้าน เวลาประมาณเท่าไร ”
“ เกือบทุ่มครึ่งค่ะ ”
“ เวลาเท่าไร เอาที่แน่นอน คุณดูนาฬิกาหรือเปล่า ”

“ ที่บ้านดิฉัน มีนาฬิกาเรือนใหญ่อยู่ที่ห้องรับแขก เมื่อก้าวขึ้นไปก็ต้องมองเห็น ดิฉันได้เห็นเวลาขณะนั้น เลย ๑๙.๒๕ น. ไปเล็กน้อย แต่ไม่ถึง ๑๙.๓๐ น. ”

“ ชาลี เขาส่งคุณแล้ว เลยไปเลยหรืออย่างไร ”
“ ค่ะ... เขาจอดรถส่งเพียงหน้าบ้าน ดิฉันเชิญเขาขึ้นมาบนบ้าน เขายังบอกว่า เขามีธุระ จะต้องรีบไป แล้วเขาก็ถอยรถออกไป ”

พราน ยิ้ม แล้วเม้มริมฝีปาก
“ ต่อจากนั้น.. ได้มีใครมาพบคุณที่บ้านอีกหรือเปล่า ”

ยุพดี มองดูหน้า พราน ครั้นแล้ว ก้มลงมองดูมือของหล่อนที่ประสานกันอยู่บนตัก พูดเบาๆ ว่า
“ มีค่ะ “
“ ใคร”
“ พิชัย ”
“ ใครคือ พิชัย ”
“ คู่หมั้นของดิฉันเอง ”

พราน หรี่ตา พยักหน้าน้อย ๆ และ เม้มริมฝีปากครู่หนึ่ง เขาพูดว่า
“ คุณกำลังทำอะไรอยู่ ขณะนั้น ”
“ ดิฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องรับแขก หลังจากอาบน้ำ และรับประทานอาหารแล้ว ”
“ เวลาสักเท่าไร ”
“ ราวๆ สามทุ่มเศษๆ เกือบสี่ทุ่มได้ค่ะ ”

“ เขามาทำไม ”
“ เขาพรวดพราดเข้ามาในบ้าน แล้วก็เริ่มต่อว่าดิฉันว่า ไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา โดยไปเที่ยวกับคนโน้นคนนี้บ่อยๆ เขาถามดิฉันว่า คืนวันนั้น ดิฉันไปที่ไหนมา ”
“ คุณว่าอย่างไร ”
“ ดิฉันไม่ตอบ เขาคาดคั้นหนักเข้า ดิฉันก็บอกว่า เปล่า เขาหาว่า ดิฉันโกหก และว่าดิฉันไปนอนกับผู้ชายมาที่บังกาโลว์ประสานสุข ดิฉันปฎิเสธ เขาก็ตรงเข้ามาจับไหล่ของดิฉันเขย่า ทำท่าเหมือนจะฆ่า และเขาด่าว่าดิฉันด้วยถ้อยคำหยาบๆ หลายคำ เขาบอกว่า เขารู้จักกับผู้ชายคนนั้นดี ดิฉันถามว่า เขารู้ได้อย่างไร เขาบอกว่า ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องบอกดิฉัน ”
ยุพดี หยุดชะงักด้วยเสียงสะอื้น

พราน พูดขึ้นว่า
“ เล่าต่อไปให้ละเอียด ถึงเหตุการณ์ระหว่าง คุณกับ คู่หมั้นของคุณ ในคืนวันนั้น ”

ยุพดี กลืนเสียงสะอื้น แล้วพูดต่อไปว่า
“ เขาพูดต่อไปว่า เขาเพิ่งจะกลับมาจากบังกาโลว์ประสานสุข เขาได้ไปพบกับผู้ชายคนนั้นมาแล้ว และรู้ด้วยว่า ชื่อ ถาวร เขาบอกว่า ดิฉันรู้หรือเปล่าว่า การที่ดิฉันทำกับผู้ชายคนนั้นถึงขนาดนั้น จะทำให้เกิดความเดือดร้อน ดิฉันก็ตอบเขาไปว่า ก็สมกันแล้วไม่ใช่หรือ ที่มาทำกับดิฉันเช่นนั้น ตอนนี้ ดิฉันมาอาจปิดบังความจริงแก่เขาได้ จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เขาถามดิฉันว่า ดิฉันเอาปืนไว้ที่ไหน ดิฉันตกใจและแปลกใจ บอกว่า ดิฉันไม่มีปืน เขาหาว่า ดิฉันโกหก เพราะเขาได้พบว่า ถาวร ถูกยิงด้วยปืน ”

“ ก็เป็นอันว่า คุณได้ทราบว่า ถาวร ถูกฆ่าก่อนที่คุณจะมาพบผม ” พราน ขัดขึ้น

ยุพดี มองหน้าพราน
“ ดิฉันยังไม่แน่ใจนักว่า พิชัย พูดความจริง เขาเป็นคนอย่างนั้น บางทีชอบขู่ให้ดิฉันตกใจด้วยประการต่างๆ เขาอาจมาแกล้งหลอกให้ดิฉันตกใจเล่นก็ได้ ในคืนวันนั้น ”

“ แล้วอย่างไรต่อไป ”
“ เราเถียงกันอยู่พักใหญ่ เมื่อเขาเห็นว่า ดิฉันไม่สามารถนำปืนอะไรนั่น มาให้ได้จริงๆ เขาก็พูดว่า ดีละ ถ้าเธอไม่ไว้ใจฉัน เธอก็ต้องไปตามทางของเธอ แล้วเขาก็ผลุนผลันออกจากบ้านไป ”

“ คุณไม่รู้สึกตกใจอะไรบ้างหรือ เมื่อเขาบอกว่า ถาวร ถูกยิง ”
ยุพดี เขี่ยเก้าอี้เล่น
“ ดิฉันเข้าใจว่า เขาหลอกดิฉันเล่นมากกว่า เพราะความจริง ดิฉันฟาด ถาวร ด้วยรองเท้าเท่านั้นเอง แต่ถึงกระนั้น ในเช้าวันนี้ ก่อนจะไปทำงาน ดิฉันก็ยังใจคอไม่สู้ดี ดิฉันไปที่ทำงานแต่เช้าเพื่อจะคอยดูว่า ถาวร มาทำงานหรือเปล่า จนกระทั่งผู้จัดการมา เขาก็ยังไม่มา ”

“ ผู้จัดการของคุณมาทำงานกี่โมง ”
“ ตามธรรมดา แกมาราวๆ ก่อน ๙.๐๐น. เล็กน้อย แต่เมื่อเช้านี้ แกมาเกือบ ๑๐.๐๐ น. พอมาถึงก็หัวเสียมาจากไหนไม่ทราบ ถามหา ถาวร ยิ่งรู้ว่า เขายังไม่มาทำงาน ก็ยิ่งหัวเสียใหญ่ แกสั่งให้โทรศัพท์ไปที่บ้านถาวร ดิฉันกำลังอยากจะโทรศัพท์ไปอยู่ แล้วก็รีบทำตามคำสั่ง ดิฉันใจหายวาบ เมื่อทราบว่า ถาวร ไม่อยู่ที่บ้าน และเขาก็ยังไม่กลับมาบ้านเลย ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ดิฉันนึกถึงคำพูดของ พิชัย ขึ้นมาทันที ”

“ แล้วคุณก็เลยมาหาผม ”
“ ค่ะ... นี่ เขาตายเสียแล้ว จริงๆ หรือคะ ”
“แน่เสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดในโลก ... และ พิชัย พูดจริง .. เขาไม่ได้โกหกคุณ ”

“ โธ่ ... ” ยุพดี ฟุบหน้าลงกับฝ่ามือ “ แล้วดิฉันจะทำอย่างไรต่อไป เขาคงหาว่า ดิฉันเป็นคนฆ่า เขาคงจับดิฉัน เขาคงลงโทษดิฉันฐานฆ่าคนตาย เขาคง... โอ๊ย..”
เสียงของหล่อนหายไป มีเสียงสะอื้นดังขึ้นมาแทน

พราน ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ หรี่ตามองดูหล่อนอยู่อย่างใช้ความคิด

ยุพดีเงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ หล่อนผละจากเก้าอี้ที้นั่ง มาคู้เข่าอยู่ตรงหน้าพราน เกาะเข่าทั้งสองข้างของเขาไว้ เงยหน้ามองอย่างวิงวอน
“ คุณต้องช่วยดิฉันนะคะ ดิฉันไม่ได้ฆ่าเขาจริงๆ ”

พราน ทิ้งสายตามองมาที่หล่อน ดูดบุหรี่ที่ถืออยู่ในมือ พ่นควันออกไป ขณะที่สายตาของเขาจับอยู่ที่หล่อนเฉยอยู่

ยุพดี เลื่อนตัวขึ้นมาจากท่าคู้เข่า ใช้มือทั้งสองเกาะที่ไหล่ของ พราน เงยหน้าขึ้นสู่ใบหน้าของเขา ริมฝีปากเชิดอย่างท้าทายของหล่อน อยู่ห่างจากริมฝีปากของพราน ไม่ถึงคืบ

พราน รู้สึกลมหายใจของหล่อน สัมผัสกับริมฝีปากของเขาแผ่วๆ ขณะที่หล่อนพูดว่า
“ นะคะ... คุณพราน ... นึกว่าช่วยคนที่ไม่มีที่พึ่งขณะนี้เถอะค่ะ ”

พราน มองซึ้งลงไปในดวงตาของหล่อน ซึ่งมีแววระริกเป็นประกาย กลิ่นน้ำหอมจากร่างกายของหล่อนเข้าสู่ลมหายใจของเขา มันเป็นกลิ่นที่เย้ายวนพิลึก

พราน ขบกรามเบาๆ เขายิ้ม ขยับตัวโยนบุหรี่ลงไปในกระโถนที่วางอยู่ข้างๆ เขาค่อยๆ แกะมือทั้งสองของหล่อนออก และจับไหล่ทั้งสองข้างดันออกไปเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืน
“ นั่งเสียที่เก้าอี้นั่น ... ยุพดี ... ผมยังมีอะไรที่จะต้องถามคุณอีก และเวลาของเราก็มีไม่มากนัก ”

ยุพดี ลุกขึ้นกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม มองดู พราน ด้วยแววตาสลด

พราน พูดว่า
“ เรื่องระหว่างคุณ กับคุณธรรมนูญ เป็นความจริงตามที่ ถาวร พูดหรือเปล่า ”
ยุพดี สั่นศีรษะน้อย ๆ
“ ไม่จริงเลยค่ะ... ดิฉันไม่เคยมีอะไรกับคุณธรรมนูญ ”

พราน หรี่ตา เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ จริงๆ หรือ... แม้แต่จะไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็ไม่เคย ยังงั้นหรือ ”
ยุพดี หลบตาลงต่ำ
“ ก้อ... ก้อ... เพียงแต่เคยไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน ๒ – ๓ ครั้ง เท่านั้นเอง ”

“ คุณทำงานกับเขามานานเท่าใดแล้ว ”
“ ประมาณเกือบปีแล้วค่ะ ”

“นอกจากนั้นแล้ว เคยมีอะไรกัน นอกเหนือไปกว่านั้นหรือ ”
ยุพดี สั่นศีรษะ

พราน หัวเราะเบาๆ เขามองดูหล่อนเฉยอยู่สักครู่ จึงเดินไปที่โต๊ะ รินบรั่นดีใส่ถ้วยแก้วใบเล็ก ส่งให้หล่อน
ยุพดี สั่นหน้า
พราน ยกถ้วย เทบรั่นดีลงในลำคอของเขา วางถ้วยแก้วลง

ยุพดี พูดขึ้นว่า
“ เขาไม่ชอบดิฉัน เขาชอบคนอื่น ”
“ ใคร... ”
“ เมียของคุณ ถาวร ”

“ คุณหมายถึง ผกา ยังงั้นหรือ ”
“ ก็อย่างนั้นซิคะ ”
“ คุณทราบได้อย่างไร ”
“ ดิฉันเคยนั่งรถสวนกับเขาครั้งหนึ่ง เขานั่งไปด้วยกัน และคุณธรรมนูญเป็นคนขับ ”
“ ที่ไหน... ”
“ ดิฉันจำไม่ได้.. มันนานมาแล้ว ตั้งแต่ดิฉันมาทำงานได้ ๓ - ๔ เดือน ”
“ คุณไปกับใคร ”

ยุพดี นิ่ง
“ คุณไปกับใคร ” พราน ถามย้ำ ตามองดูหล่อนเขม็ง
“ กับ ถาวร ” หล่อนพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา

“ หมายความว่า ถาวร เขาก็ต้องรู้ว่า เมียของเขามีความเกี่ยวพันกับผู้จัดการของเขาเอง ”
“ เขาจะเห็นหรือเปล่า ดิฉันไม่ทราบ เพราะเขากำลังขับรถ และรถสวนกันเพียงแวบเดียว ธรรมมนูญไม่ได้ขับรถคันที่เขาเคยใช้ ดิฉันเห็น แต่ไม่ได้บอก ถาวรเขา ”

“ อีกฝ่ายหนึ่งเขาเห็นคุณหรือเปล่า ”
“ ดิฉันเข้าใจว่า
คงจะเห็น เพราะดิฉันเห็นเมียของ ถาวร รีบหันหน้าออกข้างนอกรถทันทีที่ดิฉันหันไปเห็นเข้า ”

พรานยิ้ม
“ ขอบใจมาก.. ยุพดี ผมคิดว่า ผมพอจะมองเห็นอะไรบางอย่างแล้ว ผมจะกลับละ ”

ยุพดี ลุกขึ้นยืน
“ คุณจะกลับหรือคะ อยู่คุยเป็นเพื่อนดิฉันนานๆ ไม่ได้หรือคะ ”

พราน มองดูหล่อน แล้วยิ้ม เขาพูดช้า ๆ ว่า
“ ไม่ใช่ เวลานี้ ”

“ ดิฉันจะต้องอยู่อย่างนี้อีกนานสักเท่าใด ”
พราน ลูบริมฝีปาก มองดูหล่อน
“ จนกว่า ผมจะสั่งให้กลับบ้านได้ ”
“ อีกเมื่อไรเล่าคะ ”
พราน สั่นศีรษะ
“ ยังทราบไม่ได้ คุณยิ่งเก็บตัวได้นานเท่าใด ยิ่งจะเป็นประโยชน์แก่คุณมากขึ้น คุณต้องการให้ผมช่วยเหลือคุณ ไม่ใช่หรือ ”


พราน ยิ้ม เขาไม่ตอบว่ากระไร ขยับตัวจะเดินไปที่ประตู ครั้นแล้วหันหน้ากลับมา ชี้ไปที่เครื่องโทรศัพท์ ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวนอน พูดว่า
“ ระวังเครื่องโทรศัพท์หน่อย อย่าใช้มันเป็นอันขาด ต่อไปนี้ และถ้ามีใครโทรศัพท์ถามชื่อ คุณต้องทำเป็นไม่รู้จัก และพยายามดัดเสียงเล็กน้อย ถ้าผมพูดมา ผมจะใช้ชื่อว่า เจน ... จำไว้ ”
ยุพดี รับคำ

พราน กล่าวคำ สวัสดี และก้มศีรษะให้ ขณะ ยุพดียกมือไหว้

เขาถอดกลอนประตูออกค่อย ๆ แล้วชะโงกหน้าออกไป มองดู ซ้าย ขวา แล้วหันมาโบกมือกับ ยุพดี ก่อนที่จะเปิดประตู ก้าวเท้าออกไป




 

Create Date : 28 กันยายน 2557
1 comments
Last Update : 28 กันยายน 2557 2:18:11 น.
Counter : 663 Pageviews.

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog

มาอ่านและโหวตจ้า ..

 

โดย: ก้นกะลา 30 กันยายน 2557 1:41:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.