เงื่อนไขการปฏิวัติ - บททืั้ 1 ก้าวแรกของการปฏิวัติ (ตอนที่ 3)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
เขียนระหว่างปี พ.ศ. 2526 - 2528
บทที่ 1 ก้าวแรกของการปฏิวัติ คอนที่ 3
พ่อก็ยังไม่ถามผมว่า เมื่อไรผมถึงจะไปโรงเรียน คงจะคิดว่า โรงเรียนคงจะปิดตลอดไป ผมไม่ไปโรงเรียนก็ดี เพราะพ่อไม่ต้องให้สตางค์สำหรับกินข้าวกินขนมตอนกลางวัน วันละสิบสตางค์ ไม่รวมค่ารถราง เพราะผมใช้คูปอง ซื้อมาเป็นเล่ม ฉีกเที่ยวละแผ่นให้กระเป๋ารถราง
โรงเรียนปิดอยู่สองอาทิตย์ก็ถึงเวลาที่จะเปิดเทอมสอง ผมก็บอกพ่อว่า ผมจะย้ายโรงเรียน พ่อก็ถามว่า เอ็งจะย้ายไปเรียนโรงเรียนไหน
ตอนนั้น พวกที่เขาปฏิวัติโรงเรียน เขาได้ผู้ใหญ่ของคณะฝ่ายราษฏร์ ฯ ช่วยเปิดโรงเรียนใหม่ให้ ชื่อว่า โรงเรียนบูรพาวิทยา ตั้งอยู่ที่วงเวียนบางขุนพรหม ทางด้านท่าเกษม ตรงข้ามกับวังบางขุนพรหม ซึ่งเป็นที่ตั้งธนาคารชาติเดี๋ยวนี้
โรงเรียนนี้มีดีหลายอย่าง คือ นักเรียนจะแต่งตัวไปโรงเรียนยังไงก็ได้ ขอให้ปิดร่างกายให้มิดชิดก็พอ จะใส่แต่เสื้อ ไม่นุ่งกางเกง ปล่อยร่างกายส่วนล่างโล่งโจ้งไม่ได้ หรือจะนุ่งแต่กางเกง ไม่สวมเสื้อก็ไม่ได้ นอกนั้นจะแต่งอะไรก็ได้ทั้งนั้น
นักเรียนบางคนตัดผมทรงหลักแจวแบบคนโบราณไปเลยก็มี เป็นการแสดงเอกลักษณ์ของไทยแท้ให้ประจักษ์ ทีนี้นักเรียนแต่ละคนก็แต่งตัวไม่เหมือนกัน บางคนแต่งเป็นเจ๊ก บางคนแต่งเป็นแขก ตามใจชอบ เป็นปรากฏการณ์ล้ำยุคสมัยนั้นของนักเรียน และยังมีกฎข้อบังคับทันสมัยอีกอย่างหนึ่งเป็นประชาธิปไตยจ๋า คือ นักเรียนสามารถจะโหวตเอาครูคนไหนออกจากโรงเรียนก็ได้ ถ้าไม่พอใจ
ผมเล่าให้พ่อฟังถึงคุณภาพของโรงเรียนนี้อย่างละเอียด มันอยู่ใกล้บ้านดี
ตอนนั้น ผมอยู่กับพ่อที่บ้านบางลำพู ในตรอกพระสวัสดิ์ หรือที่เรียกว่า ตรอกโรงหนังตงก้ก เดินไปโรงเรียนก็ยังได้ ไม่ต้องเสียค่าคูปองรถราง ผมจะไปเข้าโรงเรียนนี้ เผื่อไม่ชอบใจครู ก็ยังชวนเพื่อนโหวตไล่ครูได้อีก
พ่อตวาดใส่ผมแว๊ต แล้วด่าแถม ก่อนที่จะพูดว่า ไอ้โรงเรียนส้น... อย่างนี้ กูไม่ให้มึงเข้า งั้นพ่อจะให้ผมไปเข้าเรียนที่ไหน ผมถาม มึงกลับไปเข้าโรงเรียนเก่าของมึง พ่อสั่งสั้น ๆ เขาปิดรับสมัครแล้วครับ ผมตอบ พ่อมองดูผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คงกำลังคิดอยู่ว่า จะทำยังไงกับผมดี ผมถอยห่างออกมาให้พ้นรัศมีมือ เอ็งไปสมัครเข้าที่สวนกุหลาบ พ่อพูดยังกับเป็นเจ้าของโรงเรียน
ตอนนั้น โรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงมากโรงเรียนหนึ่ง กำลังจะเปิดเทอม เพราะเปิดหลังโรงเรียนฝรั่งไม่กี่วัน
เมื่อพ่อสั่ง ผมก็ต้องไป
ผมโดดขึ้นรถรางที่หน้าบ้านเหมือนกัน แต่สวนทางไปอีกทางที่จะไปโรงเรียนเก่า ไปลงที่สี่แยกพาหุรัต แล้วเดินต่อไปอีกราว ๆ สี่-ห้า กิโลเมตร ไปเขียนใบสมัครเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบได้ทันเวลา พอผมยื่นใบสมัครเข้าเรียนให้ครูผู้ปกครองที่นั่งคอยรับใบสมัครอยู่ ท่านอ่านข้อความในใบสมัครของผมอยู่ครู่หนึ่ง ก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับผมว่า
เธอมาจากโรงเรียนเซ็นต์คาเบรียลนี่ เห็นจะรับยาก เพราะนักเรียนทิ่มาจากที่นั่น รู้สึกว่าจะไม่ดี
ผมเรียนดีครับ ผมชี้แจง ผมสอบได้ที่หนึ่งทุกครั้ง ได้ติดเหรียญทุกครั้งที่สอบซ้อมและสอบไล่
อันนี้เป็นความจริง ผมเรียนเก่ง บราเดอร์รักผม แกเรียกผมไปพบในห้องทำงานทุกครั้งที่สอบได้ที่หนึ่ง แล้วก็เอาตัวเข้าไปกอด จนผมแทบสำลักกลิ่นเสื้อกระโปรงที่แกสวมอยู่ แล้วแกก็ให้สตางค์ผมสลึงหนึ่งเป็นรางวัลทุกครั้ง ผมได้สตางค์จากบราเดอร์อาจารย์ใหญ่สักสอง-สามบาทแล้วมั้ง ตั้งแต่เรียนอยู่ที่นั่น
ถ้ายังงั้น เธอต้องไปเอาใบสุทธิจากโรงเรียนมาให้ดู ทางนี้จึงจะรับได้ ครูอาจารย์ผู้ปหครองพูด มองดูผมอย่างไม่ค่อยจะเชื่อนัก
ใบสุทธินั้นก็คือ ใบชมเชยจากโรงเรียนที่จะออกให้ก็เฉพาะนักเรียนที่มีความประพฤติดีและเรียนดี เพื่อนำไปแสดงกับสถาบันอื่น และเป็นสิทธิที่อยู่ในความพิจารณาของอาจารย์ใหญ่ของแต่ละโรงเรียน ที่จะออกให้กับนักเรียนคนใดหรือไม่
ผมต้องกลับไปหาบราเดอร์อาจารย์ใหญ่ ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียลอีก อาจารย์ใหญ่สมัยนั้นท่านชื่อ ฮิว แบรต์ เพิ่งจะรับช่วงต่อจาก บราเดอร์ เฟเดอริค ซึ่งเดินทางกลับไปฝรั่งเศส เพราะหมดเทอม
ผมถูกกอดโดยทั้งสองบราเดอร์นี้มาแล้ว พร้อมทั้งสตางค์สองสลึงแต่ละครั้งที่สอบได้ที่หนึ่ง พูดแล้วจะว่าคุย เวลาประกาศผลสอบในห้องประชุมทีไร พอถึงชั้นที่ผมเรียน ผมก็ลุกขึ้นเดินไปได้ทันทีก่อนที่จะประกาศชื่อ ไปยืนหัวแถวที่ริมฝาห้อง ซึ่งเป็นที่ยืนของผู้ที่สอบได้ที่หนึ่ง ไม่มีที่จะเป็นชื่ออื่นใครไปได้
บราเดอร์ ฮิว แบรต์ เห็นผมเข้า ก็ดึงตัวเข้าไปกอดอีก แล้วถามว่า เธอจะมาสมัครเข้าเรียนต่อหรือ
ผมบอกว่า เปล่าครับ ผมจะมาขอใบสุทธิ เอาไปสมัครเข้าโรงเรียนอื่น
เธอยังเรียนต่อที่นี่ได้อีก บราเดอร์พูด ครูรู้ว่า เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะไปกับพวกนั้น
ผมไปสมัครเข้าที่สวนกุหลาบไว้แล้วครับ ผมตอบ ทางโรงเรียนให้ผมมาขอรับใบสุทธิจากบราเดอร์
มีนักเรียนที่เข้าชื่อออกไปแล้ว กลับมาหาครู เพื่อที่จะขอใบสุทธิไปเข้าที่อื่น ครูไม่ออกให้ใครเลย บราเดอร์พูดทิ้งไว้แค่นั้น
ผมใจหายวาบ ได้แต่ยืนนิ่ง พูดอะไรไม่ออก
เธอยังยืนยันที่จะไปเรียนที่สวนกุหลาบอยู่หรือ บราเดอร์ถาม
ครับ ผมรับออกมา ผมได้ลงชื่อไปแล้ว ผมเปลี่ยนใจไม่ได้ เพื่อน ๆ มันจะดูถูกเอา
บราเดอร์ดึงตัวผมเอาไปกอดอีกนิ่งนาน แล้วหันเก้าอี่เข้าหาโต๊ะ ดึงเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากลิ้นชักข้าง ๆ ใช้ปากกาเขียนข้อความลงบนกระดาษแผ่นนั้น แล้วส่งให้ผม พร้อมพูดเสียงเบา ๆ ว่า ครูจะออกใบสุทธิใบนี้เป็นใบสุดท้าย เอ้า เอาไป
ผมยื่นมือไปรับใบสุทธิแผ่นนั้นมาจากบราเดอร์ แล้วก้มลงไหว้ ขอให้โชคดี และเรียนดีอย่างที่เธออยู่ที่นี่ ครูเสียดายเธอจริง ๆ
ผมรู้สึกใจหายเหมือนกันขณะนั้น ตื้นตัน ผมรู้ว่า บราเดอร์ รักผมจริง ๆ แต่ผมก็ตั้งใจเสียแล้ว
Create Date : 17 มีนาคม 2555 |
Last Update : 26 มีนาคม 2555 2:53:57 น. |
|
1 comments
|
Counter : 830 Pageviews. |
|
|
|