จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2560
 
All Blogs
 
เส้นทางชีวิต... กว่าจะถึง พันตำรวจเอก ตอนที่ ๓๒



คืนหนึ่ง ผมกำลังนอนหลับอยู่ที่ระเบียงบ้านผมใช้ระเบียงบ้านเป็นที่นอน ไม่เข้าห้อง เพราะมักจะมีธุระตอนดึกๆ ไอ้พวกเพื่อนมันมักจะมาเรียกตอนดึกๆ สามสี่ทุ่ม สมัยนั้นก็ดึกแล้วมันจะมายืนอยู่บนก้อนหินที่หน้าบ้าน แล้วผิวปากเรียก ผมก็จะลุกขึ้นนุ่งกางเกงออกมา ผมเตรียมเครื่องแต่งตัวของผมไว้พร้อมทุกคืน

สมัยนั้นกางเกงขายาว เสื้อยืดคอกลมตัวหนึ่ง ก็พอแล้ว

คืนนั้นมันมาเรียกอย่างเคย สักสามทุ่มกว่าได้แล้วมั้ง มันบอกว่า หลวงพี่ให้มาตามไปที่กุฏิมีผีตายทั้งกลมมาที่โรงทึม จะไปทำพิธีลนน้ำมันคางผีกัน

ผมก็ไปกับมัน แต่งตัวทะมัดทะแมงมีผ้าขาวผ้าคาดพุง ไปถึงกุฏิ หลวงพี่ครองจีวรพร้อมอยู่แล้ว กับพรรคพวกอีกสองสามคน ไม่รอช้าออกจากกุฏิไปทันที

หลวงพี่ให้ผมนำหน้าถือไต้ไฟสว่างนำทาง ผมถือไต้มือซ้าย 

            มือขวา ถือดิ้วขนาดเหมาะมือ

ดิ้วก็คือ ไม้ตะบองทำด้วยไม้แข็ง เหลาเป็นเหลี่ยม ทางยาวขนาดประมาณนิ้วครึ่ง ทางกว้างยาวประมาณห้าสิบถึงหกสิบเซ็นต์ ทางด้านมือจับ เจาะรูไว้มีเชือกร้อยเอาไว้พันข้อมือเวลาจับด้าม แล้วบิดให้กระชับมือ เวลาสบัดข้อมือลงไป ไม่มีหลุด และมันฟาดได้หนักหน่วงพอดี

ผมเดินนำหน้าขบวนไปยังโรงทึมไอ้ชิต เพื่อนรักของผมเดินตามหลัง อุ้มบาตรสำหรับใช้รองน้ำมันคางผี ต่อไปก็เป็นหลวงพี่ถืออุปกรณ์ในการใช้ทำพิธี ต่อไปก็ขบวนการติดตามเป็นกลุ่มใหญ่ เกือบสิบคนรั้งท้าย

ถึงหน้าประตูโรงทึมผมก็หยุดอยู่ตรงนั้น หันไปมองหลวงพี่ หลวงพี่พยักหน้า เป็นสัญญาณให้แสดงได้ผมก็เอื้อมมือที่ถือไต้ไปดึงสายยูประตู ประตูนั้นเป็นประตูเปิดออก ผมดึงประตูเปิดกว้าง แล้วก้าวเข้าไป

พอแหงนหน้ามองตรงไอ้ตัวอะไรก็ไม่รู้ มันยืนขวางหน้าผมอยู่ ตัวดำมะเมื่อม นุ่งผ้าเตี่ยวสีขาวผืนเดียว ผมยาวรุงรัง แสงไต้ ในมือผมส่องหน้ามันเต็มหน้ามันยืนจังก้าตาโตเพ่งมาที่ผม ใจผมหล่นไปกองอยู่ที่เท้า ตัวเย็นวาบ หนีก็ไม่ได้เสียแล้วเพราะประจัญหน้ากันแค่ไม่ถึงมือเอื้อม ผมหลับหูหลับตา ฟาดดิ้วในมือออกไปเต็มแรงที่ใบหน้าของมัน เสียงดัง “โพละ” เหมือนจามมะพร้าว

ไม่ใช่ผีเสียแล้วถ้าผี มันคงไม่มีเสียงดังยังงี้

ผมทิ้งไต้มีแต่ดิ้วติดข้อมือไป หันหลังโกยอ้าวออกจากที่นั่น

ข้างหลังผม ไม่มีใครรอ หลวงพี่นั้น จีวรปลิวเหลืองอ๋อยไปแล้วก่อนหน้าผมไกล ผมอยู่ห่างจากขบวน กลับหลังหันนั้นทั้งคณะโกยไปก่อนผม ตั้งแต่เห็นไอ้ตัวดำนั่นแล้วละมั้ง

ผมตรงเข้าบ้านปีนรั้ว แล้วก็นอนหอบอยู่ตั้งนาน กว่าจะหลับ

ทั้งบ้านไม่มีใครรู้เรื่องราวของผมเล่าให้ใครฟังไม่ได้ ถ้าพ่อรู้เข้า ก็ไม่รู้ว่าจะโดนอะไร

ผมตื่นนอนก็ไปที่กุฎิหลวงพี่ ตอนนั้น โรงเรียนปิดเทอมใหญ่ ได้เป็นนักเลงเต็มที่ไม่ต้องไปโรงเรียน ไปถึงกุฎิหลวงพี่ ก็เห็นมีคนมาคุยอยู่แล้วคนหนึ่ง ผมย่องเข้าไป ก็รู้ว่า เป็นสัปเหร่อของวัด กำลังมาฟ้องหลวงพี่ให้หาคนที่ตีหัวเขา

หัวแกโพกผ้าเป็นแขกหัวโต

หลวงพี่เงยหน้ามามองผมแวบหนึ่งแล้วเงยหน้ามองเพดาน เป็นสัญญาณ ผมก็ค่อยๆย่องออกมา ไม่เข้าไป เผ่นแน่บกลับบ้าน ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยพ่อประหลาดใจที่ผมอยู่บ้านทั้งวันในวันนั้น กินข้าวบ้านเรียบร้อย

เรื่องแดนนักเลงและเป็นนักเลงประจำถิ่นนี้ มันดังจนผมโตเป็นนายตำรวจแล้ว

เรื่องเป็นยังไงแล้วจะเล่าให้ฟัง เมื่อถึงตอนนั้น

แดนของผมบอกแล้วว่า มันยาวจรดสะพานเสี้ยวมาจนถึงสะพานเทเวศน์ครอบครองไปจนถึงรัศมีโดยรอบของเส้นผ่าศูนย์กลางของบริเวณนั้น แต่ว่า แต่ละถิ่นย่อยๆ อย่างเทเวศน์เขาก็มีหัวหน้าขบวนของเขาอยู่

สะพานเสี้ยวก็มีของเขาอยู่ ท่าเกษม ตรงบริเวณวงเวียนบางขุนพรหม เขาก็มีหัวหน้าย่อยของเขาอยู่

ทั้งหมดนี้ก็จะมาขึ้นอยู่กับแคว้นบางลำภู เป็นพันธมิตรกัน เรียกใช้ เรียกหากันได้เวลาต้องการ และไม่ล่วงล้ำอธิปไตยซึ่งกันและกัน

นักเลงประจำถิ่นเหล่านี้เขาจะไม่รังแกผู้ตนในท้องถิ่น ไม่มีการเก็บค่าคุ้มครอง แต่กลับมาช่วยให้ทำมาหากินกันอย่างสงบไม่แก่งแย่งกัน

ส่วนมากทุกคนมีอาชีพของตัวเองอยู่แล้วขายหมูก็มี ขายผัก ขายปลาก็มี มีเขียงหมูในตลาดเป็นของตัวเอง ช่วยพ่อแม่ทำมาค้าขายจะเที่ยวเตร่ก็เฉพาะว่างงานเท่านั้น ที่ยังเป็นนักเรียน ก็เรียนหนังสือไป

เมื่อถึงเวลาเรียนอย่างผมก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ ตอนที่กำลังดังนั้น ผมอยู่มัธยมเจ็ด และอยู่ห้องนักเรียนชั้นดี คือ เจ็ด ข.

เขาคัดเลือกเอานักเรียนที่คะแนนดีไปอยู่ห้องเรียนดีๆ

ผมอยู่ในพวกเรียนดีทั้งๆที่ใม่ค่อยจะเรียบร้อยนัก เรื่องชกต่อยกันในโรงเรียนนั้นเป็นของธรรมดาที่มีอยู่ในโรงเรียนส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาลหรือโรงเรียนราษฎร์

ว่างชกต่อยกันเองก็ยกพวกไปชกต่อยกับนักเรียนโรงเรียนอื่น ฝึกวิทยายุทธไว้





Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2560 3:03:30 น. 1 comments
Counter : 552 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:16:49:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.