จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2560
 
All Blogs
 
เส้นทางชีวิต... กว่าจะถึง พันตำรวจเอก ตอนที่ ๓๔





         ระหว่างระยะเวลาเรียนตั้งแต่ปี ๒๔๗๙ ย้อนหลังลงไป การศึกษาชั้นมัธยมสูงสุด ถึงมัธยมปีที่ ๘
         ต่อจากนั้นก็สอบเข้าอุดมศึกษาไปเลย จะเลือกไปศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรือ นายร้อย จุฬาฯ หรือธรรมศาสตร์ ก็แล้วแต่ปูมวิชาความรู้ เพราะแต่ละแห่ง จะต้องสอบคัดเลือกเข้า นอกเสียจาก ธรรมศาสตร์ซึ่งเปรียบเสมือนตลาดวิชาสมัยนั้น หลงหลุดจากสถาบันต่างๆ ก็จะมาเข้า ธรรมศาสตร์ไม่ต้องสอบเข้า สมัครเข้าเรียนได้เลย

นักเรียนม.๘ ถ้าใครสอบได้คะแนนรวมเป็นที่ หนึ่ง-สอง-สาม ทั่วประเทศ ก็จะได้ไปเรียนต่อเมืองนอกโดยอัตโนมัติ

ข้อสอบสมัยนั้นเป็นข้อสอบของกระทรวง ทุกโรงเรียนใช้ข้อสอบเดียวกันหมดทุกวิชาแยกเป็นแผนกวิทยาศาสตร์ และแผนกภาษา

พวกที่ได้ไปนอกก็จะเป็นพวกแผนกวิทยาศาสตร์ เพราะเรียนยากกว่า และสวนกุหลาบ มักจะผูกขาดในเรื่องนี้ คือ นักเรียนที่สอบได้ หนึ่ง-สอง-สามจะเป็นนักเรียนสวนกุหลาบเสียเป็นส่วนมาก ทุกปี

ทางโรงเรียนมีการบันทึกเกียรติคุณของนักเรียนที่เรียนดีๆ เหล่านี้ และสอบได้ไปนอกไว้บนแผ่นทองคำ ซึ่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ติดเอาไว้บนห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียน ให้นักเรียนรุ่นหลังๆ ได้พบเห็น เอาไว้เป็นตัวอย่าง

ส่วนที่พวกที่ชอบทำความเลวเอาไว้ ก็มีบันทึกชื่อไว้เหมือนกัน แต่ต้องเป็นความเลวถึงขนาดที่นำความเสื่อมเสียมาให้โรงเรียน เขาจะบันทึกเอาไว้บนหนังหมา เรียกว่า หนังสุวาณ ติดเอาไว้ในห้องประชุมใหญ่นั้นเหมือนกัน

ตั้งแต่มีหนังสุวาณ ก็เห็นมีนักเรียนที่ได้รับเกียรติบันทึกลงไว้เพียงหนเดียวเป็นพวกที่แอบมุดรั้วโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยซึ่งเป็นโรงเรียนหญิง อยู่ถึงบางกะปิเข้าไปแอบดูนักเรียนหญิงอาบน้ำ แล้วทางโรงเรียนนั้นเขาจับได้ หรือว่าเอาตำรวจมาจับ ผมก็จำความไม่ได้ คงจะแอบไปดูบ่อยๆจนเขารู้ ไปบอกตำรวจมาซุ่มจับ แล้วแจ้งชื่อมา ทางโรงเรียนสวนกุหลาบก็เอาชื่อนั้นขึ้นหนังหมาไว้ให้ดูเล่น

นักเรียนกลุ่มนั้นเป็นนักเรียนโค่ง ที่เรียนไม่รู้จบ และพวกเขาได้รับการบันทึกชื่อบนแผ่นทองเหมือนกัน แต่เป็นการลงไว้ก่อนหน้าที่จะไปมุดรั้วโรงเรียนวัฒนาฯ พวกนั้นได้เคยออกไปช่วยรัฐบาลปราบขบถบวรเดช ปี ๒๔๗๖ ทั้งๆ ยังเป็นลูกเสือ และได้ออกรบแนวหน้าเหมือนทหาร

ความดีความชอบที่รัฐบาลสมัยนั้น ยกย่องมาเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้เขาได้รับการบันทึกชื่อไว้บนแผ่นทองคำของโรงเรียนก่อนหน้านั้น พวกนี้จึงมีชื่อ ทั้งบนแผ่นทองคำ และหนังสุวาณ อยู่ในห้องประชุม

หลายๆคน ก็ยังมีชีวตอยู่จนบัดนี้ และบางคนก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ กันอยู่ มันเป็นแต่เพียงความหลังที่ทำไปด้วยความคะนองของเด็กหนุ่มทั้งสองรายการ ผมจำชื่อได้ แต่จะไม่ออกชื่อเขาในที่นี้ 

ผมไม่ทราบว่า ขณะนี้ ทางโรงเรียนยังคงใช้มาตรการนี้อยู่หรือเปล่า เข้าใจว่าเลิกไปแล้ว

ม.๘ รุ่นผม ไม่มีโชค เพราะเป็นปีที่รัฐบาลเลิกการให้นักเรียนที่สอบได้ที่หนึ่ง-สอง-สาม ทั่วประเทศ ไปเรียนต่างประเทศ ยกเลิกเพราะอะไรก็ไม่ทราบ อาจจะไม่มีทุนส่งก็ได้

วิธีการคัดส่งนักเรียนไปนอกนั้น ในขั้นแรก เขาจะเอานักเรียนที่สอบได้คะแนนตั้งแต่แปดสิบเปอร์เซนต์ขึ้นไป เอามานั่งสอบแข่งขันกันอีกที ใครสอบได้คะแนนดีเป็นที่ หนึง-สอง-สามก็จะได้ไปเมืองนอกโดยทุนของรัฐบาล

ปีที่ผมสอบแปดเป็นปีที่รัฐบาลยกเลิก

เขาคัดเอานักเรียนที่สอบได้ที่หนึ่งถึง ที่หก ทั่วประเทศ ไปเข้าจุฬาฯ ในทันที โดยทุนของรัฐบาล ไม่มีการสอบไปต่างประเทศ

ในปีนั้นผมสอบได้คะแนนแปดสิบกว่า เปอร์เซนต์ หวังว่าจะได้ลองเข้าสนามสอบไปนอกกับเขาบ้าง ก็พอดีเขามายกเลิกเสีย ไม่มีวาสนา





Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2560 21:25:24 น. 1 comments
Counter : 394 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:20:21:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.