เล่ม 2 เรื่องที่ 1 ขัดลำ
ตอนที่ ๗
พงษ์หยุดหัวเราะ เขาสาวเท้ามาที่เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่เดิม
ใครจะไปอยากติด ...คุณพราน ... ผมไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องไปติดตะราง เพราะเรื่องนี้ "
พราน ลุกขึ้น เขาหยิบหมวกขึ้นมาถือ
ถ้ายังงั้น ผมก็จะไปละ คุณอยู่รอรับ คุณผจญ หรือจะทำอะไรก็ตามใจ เขาก้าวเท้าเดินไปที่ประตูห้อง
พงษ์ พูดขึ้น ขณะที่พราน ขยับตัว
เดี๋ยวก่อน คุณพราน ... อย่าเข้าใจผิด..
พราน ชะงักเท้า เขาหันกลับมา พงษ์ พูดขึ้นอีก
นั่งลงก่อนครับ คุณพราน ผมมีอะไรที่จะพูดกับคุณเหมือนกัน
พรานทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับเขา มองดู พงษ์ นิ่งอยู่
พงษ์เดินมาหยุดตรงหน้าเขา แล้วพูดว่า
ถ้าสมมุติตำรวจมาเอาตัวผมจริง ๆ คุณรับว่าจะช่วยผมได้ไหม ผมหมายถึงหาตัวคนที่ฆ่านายพร จริง ๆ ให้ได้
พรานยิ้ม เขาหมุนหมวกที่ถืออยู่ในมือเล่น
นั่นมันก็แล้วแต่เหตุผลและสิ่งแวดล้อม โดยเงื่อนไขที่ว่า คุณไม่ได้ฆ่า นายพร จริง ๆ ผมไม่เคยช่วยผู้ที่มีมือสกปรก
พงษ์เปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียด
เป็นความจริง...ผมไม่ได้ฆ่า ... ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย แต่ผมจะไม่หนี เพราะการหนีก็เท่ากับรับไปในตัวว่า เป็นผู้ฆ่า
ถ้าเช่นนั้น คุณได้พบได้เห็นอะไรบ้างในบ้านนั้น คุณต้องเล่าให้ผมฟังให้หมด โดยไม่ปิดบัง เล่าเสียเดี๋ยวนี้เร็ว ๆ
พงษ์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า พราน นิ่งคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แล้วพูดว่า
ผมไม่ได้เห็นอะไรเลย ผมได้บอกคุณแล้วว่า ผมได้ไปที่นั่น แต่ไม่ได้พบใคร มันเงียบไปหมด เงียบจนกระทั่งผมเองเกิดสังหรณ์ใจ ต้องรีบกลับออกมา
คุณสังหรณ์ใจว่าอย่างไร
ไม่ทราบครับ มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ ผมรู้แต่เพียงว่า ผมไม่ควรจะอยู่ในที่เงียบ ๆ อย่างนั้น บรรยากาศมันบอกผมว่า ผมไม่ควรจะอยู่เท่านั้นเอง มันเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง คุณคงเข้าใจ
คุณอยู่ในบ้านนั้น นานสักเท่าไร
ประมาณ ๗-๘นาทีเห็นจะได้ พงษ์พูดหลังจากทบทวนความจำ
ว่าแต่คุณรู้จักกับ เพ็ญทิพย์ได้อย่างไร
นั่นไม่ใช่ปัญหาที่ผมจะต้องตอบคุณในขณะนี้ ว่าแต่ต่อไปนี้ คุณจะต้องไม่พูดอะไรทั้งนั้นถึงเรื่องที่คุณขบขันว่า ได้มีผู้มีความคิดบังเอิญมาตรงกับคุณ ในข้อที่อยากฆ่านายพร เพราะมันจะไม่ใช่เรื่องขบขันสำหรับตำรวจ คุณรับกับเขาได้ว่า คุณได้ไปที่นั่นเวลานั้น เล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาฟัง เมื่อถูกสอบสวน แต่ให้ระงับอารมณ์ขบขันของคุณลงเสียบ้าง อย่าได้โกหกผู้สอบสวนไม่ว่าด้วยประการใดๆ นอกเสียจากความคิดอันบังเอิญกับผู้อื่นของคุณเท่านั้น เข้าใจไหม ?
ผมจะต้องถูกขังด้วยไหมครับ
มันต้องแล้วแต่สารวัตรผจญ แต่ผมคิดว่า เขาคงไม่ปล่อยให้คุณมีอิสระแน่ ๆ
แววตาของพงษ์สลดลง นัยน์ตาของเขาตกลงดูพื้น
มีเสียงเคาะประตูถี่ๆ หลายครั้งดังขึ้นจากข้างนอก พราน พยักหน้าไปที่ พงษ์
ไปเปิดประตูและทำกิริยาให้ดี อย่ามีกิริยากังวล
พงษ์เดินไปที่ประตู จับลูกบิดเปิดประตูออก
ผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้อง เป็นผู้ชายสามคน แต่งกายพลเรือน
พราน ลุกขึ้นยืนก้มศีรษะ
สวัสดีครับ คุณผจญ ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ คุณพงษ์ สถาพร พ่อเลี้ยงแห่งจังหวัดเชียงใหม่
เขาหันไปทาง พงษ์ผายมือไปที่ ผจญ
และ นั่นคือ นายร้อยตำรวจเอก ผจญ สุรไกร แห่งกองปราบปราม
ร.ต.อ. ผจญชะงักเท้าอยู่กับที่ สีหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจชั่วขณะหนึ่ง แล้วกลับยิ้ม พูดว่า
อ้อ ... คุณพราน... บังเอิญเสียด้วยที่มาพบนักสืบเอกของเราอยู่ที่นี่ ...ผมเสียใจที่จะต้องจับเพื่อนของคุณเสียแล้ว คุณพราน
เรื่องอะไรกันครับ คุณผจญ
ผจญ หันไปทาง พงษ์
ผมเข้าใจว่า คุณพงษ์ คงข้อหาดีอยู่แล้ว โปรดเตรียมตัวไปกับผมได้ หรือ คุณจะให้ผมแจ้งข้อหาให้คุณทราบอีก สงสัยอะไรไหมครับ คุณพราน
พราน สั่นศรีษะช้า ๆ แล้วยิ้ม
ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะสงสัย แต่ผมเข้าใจว่า คุณพงษ์ คงอยากจะทราบ ใช่ไหมครับ
พงษ์ มองหน้า พรานแล้วหันไปทาง ผจญ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog
ติดตามอ่านจ้า..