จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
ถุงมือประหลาด ตอนที่ ๒๐

นวนิยายสืบสวน สอบสวน ของนักสืบพราน เล่มที่ ๒ โดย ๔๔๑๑
เรื่องที่ ๕
เรื่อง ถุงมือประหลาด

ตอนที่ ๒๐

นาฬิกาข้างฝาห้องชั้นนอก สำนักงานของ นักสืบพราน ชี้บอกเวลา ๒๑.๑๐ น. ขณะที่ พราน กำลัง เดินไปเดินมาอยู่ตามความยาวของห้องที่โต๊ะรับแขก อำไพ ยังคงนิ่ง มองดูกิริยาอาการของ พราน อยู่

เกรียง พิชิต เอนก และ กัลยา นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานนั้น

พราน หยุดอยู่ที่หน้าต่าง หันหลังพิงขอบหน้าต่าง และพูด ชี้มือมาที่ อำไพ
“ ผมบอกคุณแล้วว่า ในเรื่องการตายของ นายวิรัตน์ มีความเกี่ยวพันกับเงินสี่แสนนั่น และเวลานี้ ผมก็รู้ว่า เงินสี่แสนนั้นอยู่ที่ไหน ผมต้องการทราบแต่เพียงว่า นายวิรัตน์ กับ เสี่ยนงค์ มีความสัมพันธ์กันได้อย่างไร ”

อำไพ ยังคงมองดู พราน อยู่ พูดว่า
“ ป่วยการที่จะพูดกันให้ยาว ผมก็บอกคุณแล้วว่า ผมไม่ได้ไปพบคนที่ชื่อ รัตน์ และไม่ได้พบกับ เสี่ยนงค์ มาตั้งหลายวันแล้ว คุณเขียนชื่อ นายโรจน์ ให้ผมดู ตอนที่อยู่ที่กองปราบ ทำไม คุณจึงไม่ยอมบอกผมว่า เวลานี้ เขาอยู่ที่ไหน คุณจะเอาคำตอบจากผมข้างเดียว มันจะไม่เป็นการเอาเปรียบกันมากไปหรือ ”

“ ผมอยากรู้ที่อยู่ของนายรัตน์ เสียก่อนเวลานี้ ”

“ ผมก็อยากรู้ที่อยู่ของนายโรจน์ เหมือนกัน เวลานี้ ”
อำไพ พูดด้วยกิริยาเป็นปกติ

พราน ทำกิริยาอาการประหนึ่งว่า จำนนต่อคำถามนั้น เขานิ่งก้มหน้าอยู่ในท่าคิด และแอบมองดูเข็มนาฬิกาที่ข้อมือ

อำไพ พูดต่อไป
“ คุณเขียนให้ผมดูว่า โรจน์ ต้องการตกลงเรื่องเงินสี่แสน แต่ครั้นพอมาถึงที่นี่ คุณก็ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะพูดเรื่อง นายรัตน์ อะไรที่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งผมไม่รู้จัก คุณทำให้ผมเสียเวลามากโดยไร้ประโยชน์ ”

พราน ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากอาการเดิม มองดู อำไพ นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ
“ ให้ผม และ พรรคพวกของผม ใช้เวลาหารือกันสักครู่ แล้วประเดี๋ยวผมจะตอบให้คุณทราบ ”
เขาค่อยๆ เดินไปที่ประตูที่จะเข้าห้องชั้นใน พยักหน้าไปทาง พิชิต เอนก และ กัลยา ให้ตามเข้าไป พลางพูดกับ อำไพ ว่า
“ กรุณารออยู่สักครู่... เกรียง คุณช่วยเป็นเพื่อนคุยกับ คุณอำไพ สักประเดี๋ยว ”

พิชิต เอนก กัลยา ลุกขึ้นเดินตาม พราน เข้าไปข้างในห้อง ทิ้ง เกรียง ให้นั่งอยู่กับ อำไพ ที่เดิม

พราน เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม กัลยา

กัลยา ก้มศีรษะ พูดว่า
“ เรียบร้อยแล้วค่ะ ”

พรานนั่งที่เก้าอี้โซฟาร์ ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พ่นควันออกสู่เพดานเป็นทางยาว

พิชิต กับ เอนก มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ แล้วหันไปมอง กัลยา ซึ่งนั่งขีดเขียนอะไรเล่นอยู่กับสมุดบันทึกของหล่อน คนทั้งสองยักไหล่ แล้วควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเช่นเดียวกัน

ทั้งหมดคงนั่งกันอยู่เงียบๆ เช่นนั้น จนเข็มนาฬิกาข้อมือของ พราน บอกเวลา ๒๑.๒๐ น. เสียงกริ่งโทรศัพท์ ดังระรัวขี้น

พราน ผุดลุกขึ้น เดินไปยกหูโทรศัพท์ขึ้น และพูดว่า
“ ที่นี่สำนักงาน นักสืบพราน ครับ ”

“ นี่ ผมพจน์ พูด ” เสียง สารวัตรพจน์ ดังมาจากอีกทางหนึ่ง

“ พราน พูดครับ... มีอะไรหรือครับ ท่านสารวัตร ”

พราน พูดตอบไป ขณะนั้น เขาได้ยินเสียงกริ๊กเบาๆ ลอดเข้ามาในหูโทรศัพท์

พราน ยิ้มอย่างโล่งใจ และเงยหน้าขึ้นขยิบตากับ กัลยา

เสียง สารวัตรพจน์ พูดว่า
“ “ อำไพ ยังอยู่กับคุณหรือเปล่า ”

“ ยังอยู่ครับ ผมกำลังหารือกันอยู่ และเรายังตกลงอะไรกันไม่ได้ ”

“ คุณตกลงเรื่องอะไรของคุณ ”

“ เรื่องส่วนตัวครับ ”

“ ผมต้องการตัว อำไพ คุณจะต้องระวังไว้ให้ดี จะปล่อยให้หนีไปไม่ได้ ”

“ ทำไมอีกล่ะครับ ”

“ ทำไม... คุณรู้ไหมว่า ผมได้ตัวนายจำนงค์แล้ว หลังจากที่คุณออกจากผมไปเพียงไม่กี่นาที ผมให้ จำนงค์ กับ ลัดดา พบกัน และนำเอาคำให้การของ ลัดดา ออกมายันต่อหน้า นายจำนงค์ ก็รับสารภาพหมด ”

“ รับสารภาพ ? ”

“ รับสารภาพซี... เขาเล่าให้ฟังตลอด ตั้งแต่คดีฆาตกรรมนายวิรัตน์ เขาบอกว่า มันเป็นแผนการของนายอำไพทั้งนั้น และ นายอำไพ เป็นคนใช้ให้คนของเขาคนหนึ่งซึ่งชื่อ นายชิต เป็นคนแทงนายวิรัตน์ ตาย แล้วเอาถุงมือข้างหนึ่งของนายโรจน์ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ เพื่อจะป้ายความผิดให้แก่ นายโรจน์ นายอำไพ กับเขา ช่วยกันค้นหาเงินจำนวน สี่แสนบาท ที่นายวิรัตน์โกงไป เขาก็แน่ใจว่า นายวิรัตน์คงหลบไปพร้อมกับเงินจำนวนนั้น เขากำลังติดตามนายโรจน์อยู่ หลายวัน ก็ไม่สามารถจะพบได้ นายอำไพ เป็นคนออกความเห็นให้บีบบังคับนายรัตน์ ฝาแฝดของนายโรจน์ เพราะเข้าใจว่า พี่น้องคงจะรู้กันว่า นายโรจน์อยู่ที่ไหน นายรัตน์ มีความสนิทสนมกับนายจำนงค์ โดยเป็นคนชอบเล่นการพนัน จำนงค์ก็บอกว่า วันหนึ่ง คือ ในคืนที่เกิดเหตุฆาตกรรมที่บ้านนายโรจน์นั่นเอง เขากับ อำไพ กำลังคาดคั้นนายรัตน์ อยู่ และคืนนั้น รู้สึกว่า นายอำไพ กำลังโกรธมาก และกินเหล้าเมามาก เมื่อนายรัตน์ ยังคงยืนกรานว่า ไม่รู้ว่า นายโรจน์อยู่ที่ไหน เขาก็ให้ขังนายรัตน์ไว้ที่บ้าน และให้คนของเขาเฝ้าไว้ อำไพ ได้ชวนเขามาที่บ้าน สายสุนี บังเอิญไม่พบ อำไพก็อาละวาดรื้อข้าวของกระจุยกระจาย เขาเห็นตู้เซฟใบเล็กที่หัวนอน ก็เข้าใจว่า เงินคงอยู่ในนั้น จึงขนตู้เซฟใบนั้นขึ้นรถยนต์ไปด้วย และแล่นรถ ตะเวณหา สายสุนี ไปตามที่ต่าง ๆ เขาได้เห็น สายสุนี ที่หน้าโรงพักสามแยก กำลังจะเดินขึ้นสถานีตำรวจ เขาคอยอยู่สักครู่ ก็เห็น สายสุนี กัน นายโรจน์ ลงมาด้วยกัน และมีตำรวจขึ้นรถยนต์ไปด้วย เขาจึงหวนกลับมาที่บ้านที่ขังนายรัตน์ไว้อีกครั้งหนึ่ง และเริ่มลงมืออาละวาดกับ นายรัตน์ อีก หาว่า นายรัตน์โกหกว่า นายโรจน์ ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ เขาใช้ไม้ตี นายรัตน์ ไปหมอบฟุบอยู่ ปรากฎว่า นายรัตน์ ถึงแก่ความตาย ทำให้ นายอำไพ ลดความอาละวาดลงไป และกลับมีสติกลัวความผิด เรื่องมันออกจะยาวอยู่สักหน่อย พราน คุณมาพบกับผมไม่ดีกว่าหรือ... พา อำไพ มาด้วย ”

“ ผมกำลังจะปรึกษาอะไรกันอยู่ครับ ว่าไปเถอะครับ ผมกำลังตั้งใจฟังอยู่ ... แล้วยังไงต่อไปครับ ”

“ ทีนี้ก็... ขณะที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีนั่นเอง เขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก ลัดดา ว่า สายสุนี นำซองใส่ถุงมือมาฝากไว้ ให้ส่งให้กับคุณ จะให้ทำอย่างไร อำไพจึงเกิดความคิดขึ้น เขา จัดการให้ ลัดดา ส่งซองถุงมือนั้นไปให้คุณ และให้ ลัดดา โทรศัพท์มาบอกกับผม ในขณะเดียวกันนั้นเอง เขาก็ย้อนไปที่บ้านของ สายสุนี นำเอาร่างของ นายรัตน์ ไปด้วย จัดการเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวของศพ เอาศพไปทิ้งไว้ที่นั่น และใช้มีดแทงไว้ที่ตรงกับหัวใจ เป็นการพลางตา ทั้งนี้ เพื่อจะให้ทางฝ่ายเราเข้าใจว่า สายสุนี มีส่วนพัวพันกับคดีรายนี้ และคิดหาทางช่วยเหลือ นายโรจน์ ด้วยการนำถุงมือข้างนั้นไปให้คุณเก็บไว้ ”

พราน ทำเสียงครางเบาๆ ในลำคอ พูดว่า
“ ยังงั้นทีเดียวหรือครับ ผมไม่นึกว่า จะเป็นไปได้ขนาดนั้น แล้วก็ ทำไม นายพร จึงต้องถูกฆ่าด้วย จำนงค์รู้หรือเปล่าครับ ”

“ รู้... เขาบอกว่า อำไพ ใช้ให้คนไปตาม นายพร หลังจากที่ ลัดดา ได้มาบอกเขาว่า คุณเป็นคนกำความลับเรื่องเงินสี่แสน และรู้ที่อยู่ของนายโรจน์ นายพร เป็นคนสำคัญที่จะพาไปสู่เรื่องทั้งหมด เพราะเป็นคนที่ ลัดดา ใช้ให้นำเอาถุงมือไปให้คุณ ลัดดา ได้บอก อำไพ ว่า ได้แวะไปสั่งให้ นายพร มาพบกับ อำไพ และก่อนหน้าที่จะมาบ้านของ อำไพ คนทั้งสองรออยู่นาน ไม่เห็น นายพร มา จึงได้ให้คนไปตามอีก ก็ไม่พบ นายพร และได้ความว่า คุณเป็นคนเอาตัวไปให้กับทางตำรวจ ฉะนั้น พอเราปล่อยตัว นายพร ไป อำไพ จึงสั่งฆ่า นายพร ทันที... ”

ยังไม่ทันที่ สารวัตรพจน์ จะพูดจบ พราน ได้ยินเสียงหูโทรศัพท์ลั่นดังกริ๊กค่อนข้างแรง ดังลอดเข้ามา และมีเสียงฝีเท้าคนวิ่งอย่างรวดเร็วดังอยู่ทางนอกห้องของเขา เขาหันหน้าไปทาง พิชิต ให้ออกไปดูข้างนอกห้อง

พิชิต เปิดประตูออกไป แล้วกลับเข้ามา พูดว่า
“ อำไพ หายไปแล้วครับ เกรียง ก็ไม่อยู่ ”

พราน พยักหน้า ปิดปากกระบอกพูดที่โทรศัพท์
“ ดีแล้ว คุณอยู่เฉยๆ ”

เสียง สารวัตรพจน์ พูดดังมาตามสายว่า
“ ยังไงกัน พราน ผมได้ยินเสียงกริ๊กๆ สองหน ระหว่างที่เราพูดกันอยู่นี่ คุณทำอะไรกับเครื่องโทรศัพท์หรือเปล่า ”

พราน หัวเราะ
“ ผมไม่ได้ทำ แต่คนอื่นทำ... อำไพ หนีไปเสียแล้วครับ... ท่านสารวัตร ไม่ต้องเล่าอะไรให้ผมฟังอีกแล้ว ต่อไปนี้ คอยฟังรายงานจาก คุณผจญ ก็แล้วกัน ”

เสียง สารวัตรพจน์ หัวเราะลั่นมาทางสาย
“ ผมเข้าใจแล้ว... พราน... หวังว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ”

“ ครับ... ขอให้ ท่านสารวัตรโชคดี... ผมจะคอยฟังข่าว เช้าวันพรุ่งนี้ ... สวัสดีครับ ท่านสารวัตร ”

เขาวางหูโทรศัพท์ ยกมือทั้งสองข้างถูกันอย่างยินดี พูดกับ พิชิต ว่า
“ ต่อไปนี้... เราก็ยกสุราอาหารที่ค้างอยู่ มากินกันให้อิ่มหนำสำราญ คุณไปเรียก เกรียง เข้ามาได้แล้ว เขาคงจะอยู่ในห้องน้ำ ”

“ หัวหน้าเล่นอะไร คราวนี้ ผมงงไปหมด ”
พิชิต พูดขึ้น พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ

“ ผมไม่มีเวลาที่จะบอกคุณ กับ เอนก ” พราน พูดยิ้มๆ
“ ผมเองก็ยังหวั่นๆ ใจอยู่ว่า นายอำไพ เขาจะร่วมมือเล่นละครฉากนี้กับเราหรือไม่ นี่ก็เคราะห็ดีที่เขาโดดเข้ามาเล่นด้วยความเต็มใจ ... ต่อไปนี้ ก็เป็นฉากของ คุณผจญ ที่จะแสดงบทบาทต่อไป ”

“ แล้วเราจะต้องทำอะไรกันอีกบ้าง ต่อไปนี้ ” เอนก ถามขึ้น

“ เสพสุรา รับประทานอาหารต่อ แล้วก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน ”
พราน พูดหน้าตาเฉย

“ คุณเริ่มไปเรียก เกรียง เข้ามาเสียทีเถอะ ”
เขาพยักหน้าให้กับ พิชิต ซึ่งลุกไปตามคำสั่ง และหันไปมองดู กัลยา

“ คุณแอบจัดการกับเครื่องโทรศัพท์ตอนไหน ผมไม่ยักเห็น ”

กัลยา ยิ้มพราย
“ เป็นกลวิธีอันหนึ่งของเลขานุการค่ะ หัวหน้า ดิฉันได้ให้ช่างเขามาทำปุ่มสวิทช์ไว้ที่มุมโต๊ะของหัวหน้า หลายวันมาแล้ว เพียงแค่ขยับปุ่มนั้นนิดเดียว สายข้างนอกกับข้างในก็จะต่อกัน โดยเราไม่ต้องยุ่งกับสวิทช์ข้างนอก ”

พราน เดินไปที่มุมโต๊ะที่ตั้งโทรศัพท์ มองเห็นปุ่มสวิทช์เล็ก ๆ ติดอยู่ที่นั่น เขาเหลือบตามองดู กัลยา จุ๊ปากเบา ๆ ๒-๓ ครั้ง

“ คุณชักจะเล็งการณ์ไกลเกินหัวหน้าคุณไปเสียแล้ว... กัลยา... นี่มันเป็นการก้าวหน้าเกินผมไปหนึ่งก้าวเข้าไปแล้ว ”
เขาส่ายหน้าช้า ๆ เมื่อพูดจบ




Create Date : 17 มีนาคม 2558
Last Update : 17 มีนาคม 2558 2:06:26 น. 1 comments
Counter : 681 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog



โดย: ก้นกะลา วันที่: 18 มีนาคม 2558 เวลา:21:23:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.