กริ่งโทรศัพท์ในห้องนอนของพรานเจนเชิง ดังรัวขึ้น เมื่อใกล้จะ ๒๔.๐๐ น. พรานลืมตาขึ้นอย่างพิศวง เอื้อมมือไปยกโทรศัพท์ขึ้นฟังทันที
ฮัลโหล นั่น นักสืบพรานใช่ไหมครับ เสียงจากสายดังขึ้น ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไรลงไป
เขารีบตอบลงไปทันที ใช่ครับ นี่ พราน กำลังพูด
ผมกำลังอยู่ในอันตราย เสียงจากสายดังต่อไป โปรดมาพบผมหน่อย ที่บริเวณใต้สะพานพุทธยอดฟ้า ฝั่งพระนคร ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกให้คุณทราบ เกี่ยวกับเรื่องปล้นคลังของกรมสรรพสามิต
คุณเป็นใครเล่า พรานถามด้วยความตื่นเต้น
ผมยังไม่มีเวลาพอที่จะตอบคำถาม ถ้าคุณไม่รีบมาพบผมตามที่นัดหมายเดี๋ยวนี้ ทุกอย่างจะสายไป เสียงนั้นพูดอย่างระล่ำระลัก
ตกลง ผมจะไปพบคุณเดี๋ยวนี้ คุณมีอะไรเป็นที่หมายให้ผมรู้จักบ้าง
ผมแต่งตัวด้วยเสื้อขาว กางเกงขาว ผมจะคอยคุณอยู่ก่อนที่ท่าน้ำ เลิกกันนะครับ เสียงข้างโน้นวางหูในทันทีที่พูดจบ
พรานวางหูโทรศัพท์ลงกับที่ มือข้างหนึ่งยังคงกำอยู่ที่เครื่องโทรศัพท์ เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักครู่ เอนกายลงพิงกับพนักเตียง ใช้มือทั้งสองประสานกันรองไว้ที่ท้ายทอยครั้นแล้วก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวอย่างรีบร้อน เขาหยิบปืนพก สำรวจกระสุนเรียบร้อย ยัดมันลงกระเป๋ากางเกง แล้วลงบันไดมาชั้นล่างทันที
เขาปลุกเจ้าช่วย คนขับรถของเขา ให้ลุกขึ้น และสั่งให้เตรียมรถในขณะนั้น
เมื่อพราน เจนเชิง จอดรถของเขาไว้ที่ซอยท่ากลางนั้น เป็นเวลาเลยสองยามมาแล้ว ๓๐ นาที
เขาก้าวลงจากรถ เดินลัดเลาะไปตามชายคาของตึกแถว มุ่งหน้าไปทางสะพานพุทธยอดฟ้า
ในบริเวณนั้นเงียบสงัด แสงไฟที่ริมถนนสว่างเป็นตอน ๆ นานๆ จึงจะมีคนเดินผ่านไปมาสักคนหนึ่ง
เมื่อพราน เดินมาถึงบริเวณใต้สะพาน เขากวาดสายตาไปในความมืดของบริเวณนั้นรอบ ๆ
ไม่มีสิ่งทีชีวิตใด ๆอยู่ในสายตาของเขาเลย เขาล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง มือกุมปืนพกไว้แน่น และก้าวไปสู่ท่าน้ำที่ใต้สะพาน ด้วยความระมัดระวัง
ขณะที่เขาก้าวขึ้นบนบาทวิถี และกำลังจะก้าวขึ้นไปบนยกพื้นของท่าน้ำ เท้าของเขาก็สะดุดกับอะไรสิ่งหนึ่งเข้า เขาหลุดชะงัก ก้มมองดูร่างของคนคนหนึ่ง ในเครื่องแบบกางเกงขาว เสื้อขาวนอนพลิกคว่ำหน้าอยู่แทบเท้าของเขา
พรานย่อตัวลงจับร่างนั้นให้หงายขึ้นมา ใช้ไฟฉายเดินทางขนาดเล็กส่องดูใบหน้า เขาต้องรีบดับไฟ เพราะใบหน้านั้นบิดเบี้ยว แสดงความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสาหัส ตรงคอหอยด้านหน้าของร่างนั้น มีรอยถูกเฉือนเป็นแผลยาว เลือดไหลรินอยู่บนขอบทางที่ร่างนั้นนอนคว่ำหน้าอยู่ ร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายนั้นยังอบอุ่น แสดงว่า เขาเพิ่งจะประสพเคราะห์กรรมเพียงไม่กี่นาทีมานี่เอง
พรานลุกขึ้นยืน มองดูร่างของศพนั้นด้วยความเวทนา
ในทันใดนั้นเองโดยสัญชาติญาณ เขาได้ยินเสียงผิดปกติดังขึ้นในความเงียบ ทางเบื้องหลังของเขา
พรานหันหลังกลับ พร้อมกับฟุบตัวลงต่ำ เขาได้เห็นประกายไฟแวบขึ้นในมุมมืดทางด้านขวาของใต้สะพานอีกฟากหนึ่ง พร้อมกับเสียงปืนลั่น เงาของคนคนหนึ่ง เผ่นออกจากที่มืด
ก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ปืนพกในมือของ พราน ซึ่งเขากระชากออกจากกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาฟุบตัวลงนั้น ได้แผดเสียงออกไปสองนัดซ้อน ร่างดำทะมึนนั้นล้มฮวบลง
พรานรีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปยังร่างในชุดดำที่ล้มลงนั้น เขาพบปืนพกกระบอกหนึ่งตกอยู่ไม่ห่างจากร่างนั้น เขาหยิบมันใส่กระเป๋ากางเกงอีกด้านหนึ่ง ครั้นแล้วรีบวิ่งย้อนกลับไปทางเก่าที่เขาผ่านมา ทิ้งความลึกลับของศพทั้งสองนั้นไว้เบื้องหลัง