|
|
คำถามของผู้คนในยุคโลกาภิวัฒน์ ยุคที่ 0
คำถามของผู้คนในยุคโลกาภิวัฒน์ ยุคที่ 0
คำถามของผู้คนในยุคโลกาภิวัฒน์ 3 ยุค (จากหนังสือ The World Is Flat)
ผู้เขียนหนังสือ เรื่อง The World Is Flat: Thomas L. Friedman ได้ตั้งชื่อ ยุคโลกาภิวัฒน์ ที่แตกต่างกัน 3 ยุค เป็น
Globalization 1.0
Globalization 2.0
Globalization 3.0
ขออธิบายรายละเอียดของแต่ละยุคเพิ่มเติมดังนี้
Globalization 1.0 (ประมาณ ค.ศ. 1429 1800) เป็นยุคล่าอาณานิคม คือ ประเทศต่างๆพยามใช้พลังอำนาจที่ตนมีอยู่ ขยายอิทธิพลออกไป
คำถามประจำยุค คือ ... ประเทศของฉันจะแข่งกับประเทศอื่นในโลกได้อย่างไร?
Globalization 2.0 (ราว ค.ศ. 1800 2000) เป็นช่วงที่เกิดสงครามโลก 2 ครั้ง เป็นยุคที่เกิดเศรษฐกิจถดถอย แต่เป็นยุคที่เกิดการพัฒนาทางอุตสาหกรรมอย่างมากมาย
ช่วงครึ่งแรกของยุคนี้ มีการประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำและรถไฟ ทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมและการขนส่ง
ในขณะที่ช่วงครึ่งหลังของยุค มีการคิดค้นเทคโนโลยีหลายประเภท เช่น โทรเลข โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เคเบิลใยแก้ว และอินเตอร์เน็ตยุคต้นๆ
คำถามประจำยุค คือ ... บริษัทของฉันจะแข่งในตลาดโลกได้อย่างไร?
Globalization 3.0 (ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา) เป็นยุคที่ปัจเจกชนมีอำนาจในการแข่งขันมาก เนื่องจากการพัฒนาทางเทคโนโลยี
คำถามประจำยุค คือ ... ตัวฉันจะแข่งกับคนอื่นๆในโลกได้อย่างไร?
ลองนั่งคิดดู ... (คิดหลายตลบ)
เปรียบเทียบกับชีวิตความเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน
เพื่อน ๆ (พี่ ๆ น้อง ๆ) ... คิดเหมือนผมไหม??
กับเจ้านายที่บริษัท ...... เรายังอยู่ในยุคที่ 2 (Globalization 2.0)
เพราะเราจะถูกเจ้านายไล่จี้เสมอ ๆ ทุกครั้งที่มีการตั้งเป้าหมายในปีต่อไป ...
โปรเจคนี้ ... ทำไมต้องใช้เงิน (งบประมาณ) มากขนาดนี้?
เราก็จะตอบว่า : ..... บลา ... บลา ... บลา ...
บางทีก็ตอบว่า .... มอ อ อ อ อ อ อ อ อ อ อ! (เสียง งัว นี่หว่า!)
แต่ทุกครั้ง เจ้านายจะต้องมีคำถาม ว่า
โปรเจค (ที่ต้องใช้เงินขนาดนี้) นี้ จะทำให้บริษัทของเราบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร?
เป้าหมายหลักของทุกบริษัท คือ ทำกำไรให้ได้สูงสุด
เราจะทำกำไรได้ ... เราต้องแข่งขันกับคู่แข่งได้ !!!
นั่น ก็ คือ เจ้านายต้องการถามว่า
บริษัทของเรา (ของเจ้านาย) จะแข่งขันกับคู่แข่งขัน (ในตลาดโลกและตลาดในประเทศ) ได้อย่างไร?
กับเพื่อนร่วมงาน ... เรายังอยู่ในยุคที่ 3 (Globalization 3.0)
หลายคน จะถามตัวเอง ... ตัวฉันจะแข่งกับคนอื่นๆ ได้อย่างไร?
(ผมขอบอกก่อนว่า ... ผมชอบหนังสือเล่มนี้
แต่รู้สึกว่า ... ทั้ง 3 ยุคของบทนี้ ล้วนแต่พูดถึง การแข่งขัน)
ผมกลับมาคิดอีกครั้ง .... ผมมองว่า
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ลืมยุคที่ 0 (Globalization 0.0)
Globalization 0.0 (เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมทั้งยุคหิน) ในยุคนี้ มุ่งเน้นการใช้กำลังของตนเป็นหลัก ผู้ที่แข็งแรงที่สุด จึงจะสามารถดำรงชีพอยู่รอด ตัวขับเคลื่อนให้เกิด Globalization จึงเป็นการใช้กำลัง
คำถามประจำยุค คือ ... ฉันจะดำรงชีพในยืนยาวอยู่ในโลกได้อย่างไร?
เปรียบเทียบกับ สภาพวิกฤติเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน
หลายบริษัท ได้ปรับลดเงินเดือนพนักงานแล้ว !
หลายบริษัท ได้ปลดพนักงานแล้ว !
หลายบริษัทกำลังจะปลดพนักงาน !
อีกหลายบริษัท ยังไม่แน่ไม่นอน !
???
พนักงานที่ถูกปลดไปแล้ว ....
หลายคน ยืนหยัด ต่อสู้ ไม่ท้อถอย
หลายคน โศกเศร้า เสียใจ เสียดาย
หลายคน กำลังเดือดร้อน
หลายคน กำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ
ถ้าเราไม่ยึดติดว่า .... เราอยู่ใน ยุคที่ 3
ถ้าเรายอมรับความจริงว่า ยังมี ยุคที่ 0
เราทุกคนต่างก็มีความฝัน และมีความหวัง
ถ้าเราลุกขึ้น ยืนหยัด ดิ้นรน ต่อสู้ เพื่อดำรงชีพให้ยืนยาวต่อไปในโลกกว้าง อย่างมีความหวัง
เรา ก็จะพบ ทางออก สำหรับชีวิต
ทุวันนี้.....เรามุ่งแต่การ แข่งขัน แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น
เพียงเพื่อ ชัยชนะ .............. บางคน ถึงขนาด เหยียบย่ำ ปีนบ่า เพื่อนฝูง เพื่อก้าวขึ้นไปเป็น ใหญ่
บางคน ก็ทำได้แม้กระทั่ง ฆ่าเพื่อน ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่ง สิ่งที่ตัวเองต้องการ
หลายคนบอกว่า การแข่งขัน ทำให้เกิดการพัฒนา
ผมยอมรับว่า .... การแข่งขัน ทำให้เกิดการพัฒนา นะครับ
แต่ถ้าเรามุ่งแข่งขันกัน จนลืมความเป็นเพื่อน ความเป็นญาติมิตร และไร้ซึ่งความเมตตาปราณี
ลืมว่า ........ ตอนแรกเกิด ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร
เราทุกคนเกิดมา ตัวเปล่า เท่าเทียมกันทุกคน
ถ้าเราชนะทุกคน
ถ้าเราได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการ
แต่ หันไปทางไหน ก็ไม่มีใครอยู่เคียงข้าง
แล้ว สิ่งที่ได้มา จะมีประโยชน์อะไร??
จะดีไหม? ถ้าเรา ไม่ชนะ ใครเลย แต่เราก็ ไม่แพ้
จะดีไหม? ถ้าเรา ไม่ได้เป็นใหญ่ เป็นโต แต่เราก็ ยืนหยัดอยู่ได้ อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
จะดีไหม? ถ้าเรา ไม่ต้องเหยียบย่ำ ข้ามบ่าเพื่อน แต่เราเป็นอยู่ ระดับเดียวกับเพื่อน
จะดีไหม? ถ้าเรา ไม่ต้องยึดติดอยู่กับยุคที่ 3 แต่เราย้อนกลับไปใช้ชีวิตอยู่อย่าง พอเพียง เพียงเพื่อพออยู่รอด
... ขอเพียงเริ่มก้าวแรก สักวันก็จะไปถึงความฝันและความหวัง ...
Byonya (27-1-2552)
| Create Date : 28 มกราคม 2552 |
| Last Update : 28 มกราคม 2552 13:02:08 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 1689 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: www.aroyathome.com (sumpaiyo  ) วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:17:38:24 น. |
|
|
|
| โดย: momo IP: 61.7.174.39 วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:21:02:21 น. |
|
|
|
| โดย: momo IP: 61.7.174.39 วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:21:12:36 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [
เห็นชอบอาหารญี่ปุ่น ไปกินฟู๊จิ๊มันแพง
ยำสาหร่ายถ้วยละ 120 ได้จึ๋งเดียว
แนะนำที่ซื้อถูกกว่า
ดีกว่า ถูกกว่าฟู๊จิ๊ อร่อยกว่าโอ๋อิ๊ชิ๊
จำหน่ายแพ็ค 100 กรัม (ได้3 ถ้วยในฟูจิ) ราคาเพียง 55 บาท
ผมจำหน่ายยำสาหร่ายเย็น แพ็ค 1 กิโล ราคาแพ็คละเพียง 470 บาท
ส่งฟรีภายในกรุงเทพฯ ส่งถึงบ้าน อร่อยแอทโฮม
จำหน่ายยำสาหร่ายเย็น จำหน่ายยำสาหร่ายญี่ปุ่น ยำสาหร่ายเย็น ยำสาหร่ายญี่ปุ่น ขายยำสาหร่ายเย็น ขายยำสาหร่ายญี่ปุ่น จำหน่ายสาหร่ายเย็น จำหน่ายสาหร่ายญี่ปุ่น สาหร่ายเย็น สาหร่ายญี่ปุ่น ขายสาหร่ายเย็น ขายสาหร่ายญี่ปุ่น
ปริมาณ 1 กิโลนี่ได้เกิน 20 ถ้วยที่ขายในฟูจิเลยนะครับ
สนใจติดต่อ sumpaiyo@hotmail.com
หรือโทร 081-933-4556
//www.aroyathome.com
ขายส่งอาหารญี่ปุ่น จำหน่ายอาหารญี่ปุ่น