Business, Management, Skill, Experiences--แลกเปลี่ยน เรียนรู้ แบ่งปัน ประสบการณ์ บริหาร และอื่น ๆ
Group Blog
 
All blogs
 
แนวโน้มดอกเบี้ย (((รู้แล้ว ก็รีบ ...)))

แนวโน้มดอกเบี้ย

..............................................................................................
(((รู้แนวโน้มอย่างนี้ (ถ้าเป็นจริง) ... ใครคิดจะทำอะไรก็รีบทำนะครับ)))
..............................................................................................

รายงานโดย :สุกิจ อุดมศิริกุล: วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สวัสดีครับทุกท่าน สัปดาห์นี้ผมมีประเด็นในเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมานำเสนอ


ทั้งนี้ เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ตลาดการเงินในสหรัฐมีการกลับมาคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. 2552 อย่างน้อย 0.25% จากระดับอัตราดอกเบี้ย Fed fund ในปัจจุบันที่ 0.25% โดยระดับของความน่าจะเป็นที่สะท้อนผ่าน Fed fund future ระบุว่ามีความเป็นไปได้ 41.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% และมีความเป็นไปได้ 15.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรืออาจจะกล่าวได้ว่า มีความน่าจะเป็นถึง 57.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ความเป็นไปได้ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมลดลงเหลือเพียง 36.7% ซึ่งหากพิจารณาระดับความน่าจะเป็นในระดับดังกล่าว พบว่าต่ำกว่า 50% และต่ำกว่าระดับ 80% ที่มีการคาดการณ์อยู่ในปัจจุบัน

สำหรับการคาดการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นการคาดการณ์ที่แตกต่างจากเดิมที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเร็วที่สุดปลายปี 2553 ผมคิดว่า หากประเมิน จากสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่คงไม่ คิดว่าธนาคารกลางที่ไหนในโลกนี้จะกล้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2552 ดังนั้น ความเชื่อเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอาจจะยังคงไม่แพร่หลายมากนัก แต่ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมเชื่อและคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2552

หากดูการเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรสหรัฐ พบว่านักลงทุนในตลาดพันธบัตรเริ่มเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ย มีโอกาสปรับขึ้น เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (1-2 ปี) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17-38 bps ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มีนัยสำคัญ ดังนั้นผมจึงอยากเรียนให้ทุกท่านติดตามเรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอย่างใกล้ชิด

พูดถึงสถานการณ์ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับขึ้นกันมาพอสมควรแล้ว ผมอยากจะอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตลาดการเงินคาดการณ์ในเรื่องดังกล่าวบ้างว่ามีแนวคิดอย่างไร โดยสรุป ผมคิดว่ามี 2 ประเด็น คือ 1) การที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ โดยล่าสุด ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) เดือนพ.ค. ลดลง 3.45 แสนราย ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ ในขณะที่สัปดาห์นี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลข Retail sales เดือนพ.ค. จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4%mom ส่งผลให้ตลาดการเงินมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวได้เร็วโดยเฉพาะในด้านการบริโภค ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุด คือ 70% ของ GDP สหรัฐ

2) ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ เนื่องจากการที่เฟดอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบการเงินผ่านการซื้อพันธบัตร และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว 100% จากระดับต่ำสุดในปีนี้ ผมคิดว่าทั้งสองปัจจัยก็ยังคงมีน้ำหนักไม่มาก โดยเฉพาะในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งยัง คงต้องใช้เวลา และอาจส่งผลให้ยังคงไม่เกิดเงินเฟ้อใน ปี 2552 แต่สาเหตุสำคัญที่ผมคิดว่าเป็นปัจจัยที่เร่ง ให้เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น คือ การส่งสัญญาณในเรื่องการจัดการกับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดการเงิน ซึ่งกำลังนำไปสู่ภาวะฟองสบู่อีกครั้งในตลาดหุ้น หรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทย หากพิจารณา ดูจากภาวะเศรษฐกิจและความตึงตัวในตลาดการเงินระยะสั้น คงต้องบอกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงไม่น่าจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2552 เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินมีอยู่อีกมาก แต่สำหรับ ในปี 2553 นั้นมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้ 25 bps เนื่องจาก 1) ผมคาดว่าสภาพคล่องทางการเงินในประเทศจะลดลง จากการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับคาดว่าธนาคารพาณิชย์คงเริ่มปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เนื่องจากผมคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัวมากขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น 2) ในเรื่องการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ (Inflation expectation) จะเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น

ผลกระทบหากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นผมจึงคาดการณ์ว่าก่อนที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะต้องมีมาตรการรองรับที่ชัดเจนแล้ว ส่วนผลกระทบต่อไทย ในส่วนของภาคธุรกิจไม่น่าจะมากนัก หากอยู่ในระดับ 25-50 bps เนื่องจากอัตราดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำ เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้น แต่ที่น่าจะมีมากหน่อยในช่วงนี้ คือ ตลาดพันธบัตรที่คาดว่าจะทำให้มีความผันผวนเพิ่มขึ้น



ที่มา: //www.posttoday.com/stockmarket.php?id=51586


Create Date : 10 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 22:37:27 น. 3 comments
Counter : 797 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะไปอวยพรวันเกิดให้ ขอให้ จขบ มีความสุขมากๆ สมหวังเช่นกันค่ะ


โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:12:16:10 น.  

 
หวัดดีค่ะ ขอบคุณที่แวะเยี่ยมอวยพรวันเกิดให้ที่บล็อกนะคะ..ว่าง ๆ ก็แวะเยี่ยมกันอีกนะคะ


โดย: Sweety PB วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:12:40:40 น.  

 
ขอบคุณ คุณ กิ่งลีลาวดี และคุณ Sweety PB ที่แวะมาเยี่ยม Blog ผมนะครับ


โดย: byonya วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:10:10:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

byonya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




I am not a perfect, but simple!

 
 
Custom Search



 
 

Website น่าสนใจ  
 
หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท

เว็บการศึกษา Eduzones.com

Business Web Directory .biz - Business Directory
 


Word of the Day

This Day in History

Quote of the Day

Hangman




Friends' blogs
[Add byonya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.