Business, Management, Skill, Experiences--แลกเปลี่ยน เรียนรู้ แบ่งปัน ประสบการณ์ บริหาร และอื่น ๆ
Group Blog
 
All blogs
 
“เถ้าแก่น้อย”ขยายช่องทางขาย - เปิดช้อปเพิ่ม-บริการดิลิเวอรี่

“เถ้าแก่น้อย”ขยายช่องทางขาย - เปิดช้อปเพิ่ม-บริการดิลิเวอรี่



((( อ่านประวัติของคุณ อิทธิพัทธ์ และดูวิธีคิดของเขาแล้ว .... ชื่นชมจริง ๆ ครับ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย .... )))

---------------------------------------------------

ตลาดสินค้าขนมขบเคี้ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้รักสุขภาพ ด้วยในปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคให้ความใส่ใจรสชาติที่แปลกใหม่และแตกต่าง โดยเฉพาะสาหร่ายที่เน้นในรายละเอียดของวัตถุดิบและส่วนประกอบ และคุณภาพของสินค้า รวมไปถึงการเป็นอาหารที่ให้พลังงานจากการทำงานที่ต้องเร่งรีบ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานรุ่นใหม่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันแนวโน้มการแข่งขันก็สูงขึ้นตามไปด้วย

อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ผู้ผลิตและทำตลาดสาหร่ายทอดและอบแบรนด์เถ้าแก่น้อย ให้สัมภาษณ์ Exclusive ว่า บริษัทมีแผนลงทุนกว่า 70 ล้านบาท ขยายร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายรูปแบบใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ในเครือ รวมทั้งจำหน่ายสินค้าที่ระลึกต่างๆ ของเถ้าแก่น้อย เพื่อสร้างแบรนด์ในระยะยาวและรองรับการให้บริการดิลิเวอรี่ในอนาคต ตั้งเป้าขยายร้านดังกล่าวให้ได้ 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หลังทดลองเปิดสาขาแรกที่ห้างซีคอนสแควร์เมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก ซึ่งการลงทุนเปิดร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์แต่ละแห่งคาดใช้งบลงทุนราว 2-3 ล้านบาทแล้วแต่ขนาดของพื้นที่

สำหรับการทำตลาดแบรนด์เถ้าแก่น้อยในปีนี้ จะใช้งบทำตลาดรวม 40 ล้านบาท เน้นการออกสินค้าทั้งรสชาติใหม่และผลิตภัณฑ์เซ็กเมนต์ใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น รวมทั้งการทำโปรโมชันร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดขาย ไม่เน้นการทำโฆษณาผ่านสื่อมากนัก

“ภาพรวมตลาดสาหร่ายมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท เป็นสาหร่ายทอด 60-65% โดยเถ้าแก่น้อยเป็นผู้นำในตลาดด้วยส่วนแบ่ง 85% ขณะที่ 15% ของตลาดเป็นสาหร่ายอบ ซึ่งเถ้าแก่น้อยมีส่วนแบ่งมากกว่า 50% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มอื่นเช่น สาหร่ายเทมปุระ หรือกลุ่มสินค้าของผลิตภัณฑ์ชุมชนต่างๆ”

ขณะเดียวกันบริษัทอาจทบทวนปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้ใหม่ จากเดิมที่วางไว้ 1,500 ล้านบาท หลังจากยอดขายในไตรมาสแรกสามารถทำได้ 300 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยผลประกอบการของปี 2551 มียอดขายรวม 1,020 ล้านบาท

เถ้าแก่น้อยกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่นว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซูเปอร์ คริสป์ สาหร่ายรสหมึกย่าง หลังจากที่ได้ลงทุน 30 ล้านบาท เพื่อสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่สำหรับรองรับการผลิตเมื่อปีที่ผ่านมา และถือเป็นเจ้าแรกที่มีการทำตลาดสาหร่ายย่างเป็นครั้งแรกของตลาด เบื้องต้นจะเริ่มทดลองจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และหากได้รับการตอบรับที่ดีจะเพิ่มช่องทางจำหน่าย รวมทั้งพัฒนารสชาติใหม่เพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 30 ล้านบาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป มีขนาด 6 กรัม จำหน่ายในราคา 10 บาท พิเศษสุดในช่วงโปรโมชั่น จำหน่าย 2 ซองในราคา 16 บาทเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้หากพิจารณาจากรายได้ยอดขาย ในแง่ธุรกิจคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะสำหรับเด็กหนุ่มวัยอายุเพียง 25 ปี อิทธิพัทธ์กล่าวว่า ตอนอยู่ ม.4-ม.6 ไม่ค่อยได้เรียน เพราะติดเกมออนไลน์ เล่นกับคนที่อยู่สหรัฐฯ ทำให้มีรายได้จากการเล่นเกมตั้งแต่ ม.4 ไม่ได้ขอเงินพ่อกับแม่ เพราะหาเงินจากการเล่นเกมเดือนหนึ่งได้ 2-3 แสนบาท

โดยที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาก่อน ตั้งแต่เด็กเคยฝันว่า อยากเป็นนักธุรกิจ เห็นคุณพ่อเวลาเดินไปไหน มีคนหวัดดีครับเฮีย เท่ดี เลยอยากเป็นบ้าง พอเริ่มโตเริ่มเกเร ย้อมผมทองเป็นพังก์ก็รู้สึกว่า ไม่น่าจะเป็นนักธุรกิจได้ ความใฝ่ฝันเริ่มจะหมดลง แต่พอเริ่มเล่นเกมหาเงินได้ก็รู้สึกว่า ไม่ยากอย่างที่คิด หาเงินได้เองทำให้รู้สึกมีไฟขึ้นมา

จุดเปลี่ยนของชีวิต อิทธิพัทธ์บอกว่า เกิดขึ้นช่วงวิกฤติปี 2540 วันหนึ่งหาเงินจากเกมไม่ค่อยได้ เดินไปหาแม่บอกว่า ขอตังค์หน่อย คุณแม่เดินเข้าไปหยิบเงินนานมาก ประมาณ 10 นาที เดินไปหาเห็นคุณแม่หยิบเงินแล้วน้ำตาจะไหล เหมือนเขาเครียดเรื่องเศรษฐกิจมาก จึงคิดว่า ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยที่บ้าน ตอนนั้นอายุ 18 ปี

“มีอยู่วันหนึ่งไปเดินงานที่เมืองทอง เจอแฟรนไชส์เกาลัดจากญี่ปุ่นมาออกบูท น่าสนใจมาก เพราะแฟรนไชส์ของเขามีเครื่องคั่วเกาลัดแบบทันสมัย ผมเกิดความสนใจ เพราะส่วนตัวชอบกินเกาลัดอยู่แล้ว แต่ค่าแฟรนไชส์ราคาสูงมากเป็นล้านบาท ผมไม่มีเงินมากขนาดนัก เลยติดต่อกับเจ้าของแฟรนไชส์ว่า ขอเช่าตู้คั่วเกาลัด แล้วมาสร้างแฟรนไชส์ของตัวเอง”

โดยหลังเช่าตู้ได้แล้ว เช้าวันที่จะไปเซ็นสัญญาเช่าที่ขายเกาลัดหน้าห้างแห่งหนึ่ง ก่อนเดินทางออกจากบ้าน เจอคุณพ่อกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่ เล่าถึงเรื่องผมจะไปทำธุรกิจ แล้วหันมาพูดแซวผมให้เพื่อนฟังว่า ลูกอั๊วกำลังไปเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว ผมก็ได้หัวเราะตอบ ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไรมาก จนเมื่อไปถึงห้างต้องกรอกใบสมัคร ซึ่งให้ระบุถึงชื่อร้านหรือแบรนด์ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีชื่อในใจเลย แต่คิดถึงคำพูดพ่อที่แซว จึงเป็นที่มาของชื่อเถ้าแก่น้อย

จากนั้นได้ขยายสาขาแฟรนไชส์เกาลัดเถ้าแก่น้อย จากหนึ่งเป็น 30 กว่าสาขา และเห็นโอกาสว่า เมื่อมีหน้าร้านหลายแห่งแล้ว ทำไมต้องจำกัดตัวเองแค่ขายเกาลัดอย่างเดียว จึงลองนำเข้าสินค้าต่างๆ มาขายพ่วงที่หน้าร้านแฟรนไชส์เกาลัดเถ้าแก่น้อยด้วย ไม่ว่าจะเป็นลูกท้อ ลำไยอบแห้ง สาหร่าย ผลปรากฏว่า ในร้านสินค้าที่ขายดีที่สุดคือ สาหร่ายทอด ยอดขายมากกว่าเกาลัดเสียอีก จึงเป็นแรงบันดาลใจ อยากจะต่อยอดธุรกิจขายสาหร่ายอย่างจริงจัง

“ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสาหร่าย อยากขยายตลาดธุรกิจสาหร่ายไปตามร้านค้า เริ่มแบบง่ายๆ โดยบรรจุซองพลาสติกไปฝากร้านค้าต่างๆ ให้ลองขาย แต่พอทำจริง มีอุปสรรค อายุสินค้าสั้น และรูปลักษณ์ไม่สวย ทำให้ไม่สามารถเปิดตลาดได้ มีของคืนจำนวนมาก เพราะสาหร่ายเก็บไว้ได้ไม่นาน และพยายามคิดค้นหาทางแก้”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเถ้าแก่น้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า วันหนึ่งดูทีวี มีคำว่า ป่าล้อมเมืองเข้ามาในหู จึงคิดว่า ผมคือเมือง น่าจะมีต้นไม้เยอะๆ นั่นคือร้านสะดวกซื้อ เห็นร้านสะดวกซื้อต้องเห็นสินค้าเรา จึงเป็นแนวคิดแรก คือลุยเข้าไปที่เซเว่นอีเลฟเว่น คิดว่าถ้าสินค้าเราเก็บไว้ได้นานกว่านี้ มีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ วางขายในเซเว่นอีเลฟเว่น ตลาดน่าจะขยายตามไปด้วย ดีกว่าผมต้องวิ่งไปส่งด้วยตัวเอง แต่กว่าจะเข้าเซเว่นอีเลฟเว่นไม่ใช่ง่ายๆ อุปสรรคเยาะมากและตัดสินใจขายแฟรนไชส์เกาลัดเถ้าแก่น้อยทิ้งทั้งหมด ตอนนั้นมีจำนวนกว่า 30 สาขา สร้างรายได้รวมให้เดือนละล้านกว่าบาท เพื่อมาเป็นทุนสร้างโรงงานผลิตสาหร่ายทอด

“พอใจที่วันนี้เถ้าแก่น้อยประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ มีโรงงาน มีพนักงานกว่าพันคน มียอดขายทะลุพันล้านบาท แต่นี่เป็นแง่ส่วนตัว แต่ถ้าเป็นรูปบริษัทเราพอใจไม่ได้ ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ กำลังผลิตของโรงงานมีอยู่ 3-5 แสนซองต่อวัน แต่ยังสามารถขยายกำลังเพิ่มได้อีก การสร้างโรงงานไม่ยาก แต่จะบริหารอย่าไรเพื่อให้งานมีอยู่ตลอดเวลา”

อิทธิพัทธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาผมก็เหมือนเด็กไทยทั่วไปที่เกิดมา ค่อนข้างดื้อมาตลอด มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ ผู้ใหญ่ที่บ้านจะไม่ได้กำหนดว่าต้องเรียนอะไร การที่ไม่มีใครมาชักจูงหรือกำหนดกะเกณฑ์ตั้งแต่เด็ก ทำให้กล้าคิด กล้าทำ นั่นเป็นสิ่งดีที่ไม่มีกรอบมากำหนดตั้งแต่วัยเด็ก ในส่วนของการสร้างแบรนด์ ครอบครัวจะเป็นที่ปรึกษา ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ผมไม่มีระเบียบวินัย ขาดความอดทน ตอนที่ทำแฟรนไชส์ครบ 20 สาขา ทุกเช้าต้องขับรถเดินทางไปตรวจสาขา ถ้าตื่นสายคุณพ่อจะดุ ถือว่าโชคดีที่ขณะที่พ่อพยายามสร้างวินัยให้ผม ทำให้ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้…


ที่มา: //www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=65&nid=38746


Create Date : 27 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 14:02:07 น. 1 comments
Counter : 2337 Pageviews.

 
ดพำเนวยวยสาะ


โดย: prim IP: 117.47.134.85 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:10:09:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

byonya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




I am not a perfect, but simple!

 
 
Custom Search



 
 

Website น่าสนใจ  
 
หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท

เว็บการศึกษา Eduzones.com

Business Web Directory .biz - Business Directory
 


Word of the Day

This Day in History

Quote of the Day

Hangman




Friends' blogs
[Add byonya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.