All Blog
แรกแสงรัก...โดย มาภา


แรกแสงรัก...โดยมาภา


          บอกเล่าเรื่องราวของ อาภากร หญิงสาวผู้มาทำงานยังแดนไกล เมื่อไม่เหลืออะไร จึงจำใจรับงานดูแล ธีรัญญ์ ชายพิการเจ้าอารมณ์
          และแล้วคนสองคนผู้ไม่คิดถึงแสงสว่าง กลับได้พบหนทางกลับสู่คำว่าครอบครัว...อีกครั้ง


(สนพ.พิมพ์คำ    ตีพิมพ์ ต.ค.58    จำนวนหน้า 600    ราคาปก 390)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...



          เยอะมาก...พล็อตเยอะมากนี่ก็นับได้แล้วประมาณ 4-5 พล็อต จริงๆคนเขียนก็เอ่ยเตือนในคำนำไว้แล้วว่า เนื้อหาจะเต็มไปด้วย 'ความบังเอิญ' แต่เรามองว่ามันเยอะเกิน จนเหมือนอัดนิยายหลายๆเรื่องไว้ในเรื่องเดียว แต่ไอ้ความบังเอิญมากมายที่ใส่ไว้นั้น ก็ต้องยอมรับว่าเชื่อมโยงร้อยเรียงกันได้ดี ไม่รู้สึกประดักประเดิดไป ไม่รู้สึกว่าง่ายไป ไม่ได้รู้สึกไร้เหตุผลจนเกินไป อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกสะดุดอะไร รู้สึกอย่างเดียวแค่ว่าเรื่องมัน...เยอะเกิน เพราะมีหลายจังหวะที่เรารู้สึกว่าเรื่องจะจบแล้ว มันอิ่มแล้ว สมบูรณ์แล้ว แต่..อ่าว!..เอ๊ะ! หน้ากระดาษยังเหลือเยอะอยู่เลย ยังไม่จบหรือนี่!


          ถ้าคนเขียนลองตัดทอนออกสัก 2-3 พล็อต แล้วเลือกโฟกัสเพียง 1-2 พล็อต ตัวนิยายจะน่าจดจำกว่านี้ ด้วยสำนวนสำเนียงภาษาของเขาทำได้ดีอยู่แล้ว เหมือนกำลังอ่านความเรียงง่ายๆที่หยิบจับใจคนอ่านได้ง่ายอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นเลยที่จะต้องอัดอะไรลงไปในงานมากมายขนาดนั้น


          อย่างประเด็นที่ชอบ คิดว่าคนเขียนนำมาเล่นไม่เหมือนใครดี และยังทำได้ดี คือปมระหว่างพระเอกกับเพื่อนหมอ ไม่คิดว่าจะมีมุมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดด้วย เวลาผู้ชายทะเลาะถกเถียงกันทำได้เป็นธรรมชาติมากๆ เป็นปมที่เจาะเล่นได้อีก เพราะมีการปูพรมมาแล้วแต่ต้น เสียดายที่ปมคลายตั้งแต่กลางเรื่องเสียก่อน


          เข้าใจว่า'แรงแสงรัก' ไม่ได้หมายถึงแค่ในมุมของนางเอกมาช่วยเป็นแสงส่องใจให้พระเอกซึ่งเป็นคนพิการได้มีแรงฮึดสู้ที่จะมีชีวิตอย่างมีคุณค่าอีกครั้ง แต่คนเขียนยังได้พยายามและตั้งใจอย่างมากที่จะให้พระเอกเป็นคนพยายามเปิดประตูใจนางเอก ทลายกำแพงของอารมณ์มากมายที่เธอกักเก็บไว้ไม่ให้ใครได้เห็น จนนำไปสู่ฉากไคลแมกซ์ของการปิดกั้นแม้แต่คนที่เธอรัก เพียงเพื่อไม่ให้เขาเจ็บปวดไปกับเธอ ซึ่งสุดท้ายแล้วคนอ่านยังมองว่าพระเอกก็ยังต้องอยู่กับความพยายามนั้นต่อไป...

          การปูทางเสริมเติมแต่งให้เนื้อหาไปสู่จุดที่คนเขียนต้องการนั้น ให้ความรู้สึกว่าเยิ่นเย้อไปสักหน่อย จนทำให้บางครั้งบางทีคนอ่านก็หลงลืมเนื้อหาในช่วงต้นไปเลยก็มี จึงได้แต่คิดว่าถ้าทำให้เรื่องเดินกระชับกว่านี้จะดีกว่า


          เมื่อลองเทียบงานนี้ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรกของเขา กับเอาเรื่องล่าสุดมาเปรียบกัน 'พร่างพรายในความเงียบงัน' เรื่องที่แทบไม่มีสตอรี่อะไรให้เราเลยกลับจับใจคนอ่านได้เลย เขาก็ทำได้นี่นา...




Create Date : 18 มีนาคม 2560
Last Update : 18 มีนาคม 2560 14:51:19 น.
Counter : 1224 Pageviews.

3 comment
your name เธอคือ... โดย มาโคโตะ ชินไค




your name เธอคือ... โดย มาโคโตะ ชินไค
ปาวัน แปล

          บอกเล่าเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นภายใต้การปรากฏของดาวหางเทียแมท ซึ่งจะโคจรผ่านโลกอีกครั้งในรอบพันปี หนึ่งเด็กหนุ่มและหนึ่งสาวน้อย ทาคิ และ มิตสึฮะ พวกเขาสลับร่างกันในบางวัน แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมาก็จะพบว่าสิ่งนั้นคือฝันไป... 

          รู้สึกเหมือนว่าเคยพบ เคยเห็น เคยสัมผัส รับรู้เหมือนว่ามีอยู่จริง ก็แล้วใครจะไปจำได้หมดล่ะ ว่าเมื่อคืนเราฝันอะไร

         ...แล้วเธอคือใคร?


(สนพ. PHOENIX    ตีพิมพ์พ.ย.59    จำนวนหน้า 222    ราคาปก 275)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้หลังอ่าน...


          ยอม..ยอม.. เป็นเรื่องที่ยอมไม่ดูหนังก่อน กลัวว่าดูก่อนอ่านทีหลังจะไม่สนุก เมื่อจะได้อ่านก็คิดว่าหนังสือจะสื่อสารออกมาสวยงามเท่าภาพปกหรือตัวอย่างของหนังที่เห็นรึป่าว? ภาพที่ถูกบรรยายผ่านมุมมองบุรุษที่หนึ่ง จากของเขาและของเธอ จะสวยงามหรือไม่?
         เมื่ออ่านแล้ว ก็ราวกับว่าเราเห็นภาพดวงดาวกระจายเต็มฟ้า และกำลังวิ่งไล่ตามเวลาและดาวหางดวงนั้นไปพร้อมๆกับเขาและเธอ...


          เป็นความยากนะที่ต้องเล่าสลับฉากระหว่างมุมมองของเขาและของเธอ คิดว่าถ้าเล่าด้วยหนังน่าจะทำได้ง่ายกว่า แต่คนเขียนก็ทำได้นะ เราอ่านแล้วไม่งง



อนิเมชั่นในชื่อเดียวกัน your name (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) ออกฉายในปี 2016



          ผลงานของผู้เขียน(หรืออีกตำแหน่งคือผู้กำกับด้วย) หลายครั้งที่เราสัมผัสได้จากงานของ มาโคโตะ ชินไค จะเป็นเรื่องราวของคนคู่หนึ่งเสมอ พวกเขาจะได้มาอยู่ใกล้ชิดกันมาก อย่างเช่นในเรื่องนี้พระ-นางแทบจะหลอมรวมกลายเป็นคนคนเดียวกัน แทบจะรับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย
          เขากลายเป็นเธอ...กลายเป็นสาวม.ปลายผู้เบื่อหน่ายชีวิตในเมืองชนบท
          เธอกลายเป็นเขา...กลายเป็นเด็กหนุ่มในเมืองหลวงที่ชีวิตเต็มไปด้วยสีสัน
          ในความใกล้ชิดที่ผู้เขียนบรรจงสร้างขึ้นมาขนาดนี้ เขายังใส่กำแพงสูงชันขวางกั้นคนคู่หนึ่งนั้นไว้เสมอ
           เหมือนใกล้...แต่ความจริงนั้นห่างไกล


          จะเป็นอย่างไรหากเราพบว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ ภาพของคนคนนั้นจะหายไป คนที่เรารัก คนที่เราเคยผูกใจ จะหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตน...


          ผู้เขียนให้พวกเขาได้ผูกพันและใกล้ชิดกันด้วยการสลับร่าง แล้วฉีกกระฉากพวกเขาออกจากกันด้วย...การลืมตาตื่น ให้ความรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาแค่ฝันไป ไม่มีใครจะจำได้อย่างละเอียดหรอกว่าเมื่อคืนเราฝันอะไรบ้าง รู้หรอกว่าฝันแต่จำได้ไม่หมดว่าฝันถึงเรื่องอะไรหรือฝันถึง...ใคร


        ความฝันเปรียบดั่งความทรงจำที่พร่าเลือนทันทีทันใดเมื่อเราลืมตาตื่น ของที่เคยสำคัญ เหตุการณ์ชีวิตที่เคยมีความสุข คนที่เรา...ชอบ นอกจากเวลาที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นเลือนหายไป สมองของคนเรายังเล่นตลกด้วยการที่เราก็ไม่สามารถเลือกได้เองว่าจะลืมหรือจะจำเรื่องไหน บางครั้งเราก็ลืมไปด้วยซ้ำว่าลืมอะไรไปแล้วบ้าง


          นิยายเรื่องนี้บอกเราว่าแม้เราจะลืมไปแล้ว...ลืมสิ่งที่เราลืม ในขณะที่อ่านเราอาจจะเศร้าใจที่ตัวละครลืมสิ่งสำคัญนั้นไป แต่เราจะได้เห็นการดิ้นรน...อย่างงดงาม ไม่ใช่เพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขาหลงลืม แต่เป็นการดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตอยู่ เพื่อเติมเต็ม เพื่อนำไปสู่ความเชื่อที่ว่าหากเราไม่หมดหวังที่จะดิ้นรน เราก็จะเข้าใกล้สิ่งแสนสำคัญที่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร เข้าใกล้ความสุขที่เราไม่เคยรู้จัก พยายามมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อรอวันที่จะได้พบสิ่งสวยงาม

          เพื่อจะได้เข้าใกล้ไปทุกที...และทุกที


          เพื่อจะพบว่า เธอคือ...




Create Date : 25 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2559 20:45:45 น.
Counter : 1786 Pageviews.

6 comment
ภูตสวาท ...โดย กงจื่อฮวนสี่




ภูตสวาท...โดย กงจื่อฮวนสี่
เฟื่อง แปล

          บอกเล่าเรื่องราวของ คงหวา จ้าวแห่งปรภพจำต้องขึ้นมายังโลกมนุษย์เพื่อตามหาทัณฑ์สวรรค์ที่หายไป ทว่าศาสตราวุธแห่งเทพนั้นกลับส่งกลิ่นไอออกมาจากผีชั้นต่ำตนหนึ่ง ภูตสวาทอย่าง ซางโม่ จึงตกเป็นผู้สงสัย ใครจะรู้ว่าคำสารภาพเล่าแจ้งแถลงไขจากผีตนนั้น จะเฉลยเรื่องราวอันน่าประหลาดใจเพียงใด

          เส้นด้ายแห่งชะตากรรมที่เคยลืมเลือนไป บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครา...




(สนพ.Fu Novels    ตีพิมพ์ มิ.ย.59 จำนวนหน้า 242    ราคาปก 320 วาย 18+)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          ตั้งชื่อเรื่องว่า...ภูตสวาท ความหมายในเรื่องคือผีชั้นต่ำที่ดำรงชีพด้วยการล่อลวงมนุษย์(ผู้ชาย)มาเสพสมสูบไอชีวิต นิยายเรื่องนี้ที่ดำเนินด้วยชีวิตของภูตสวาทตนหนึ่ง แต่เนื้อหาข้างในไม่ได้สวาทเย้ายั่วอย่างนั้น เนื้อหาไม่ได้กลวงโบ๋ตื้นเขินอยู่ที่เรื่องอย่างว่าแค่นั้น...

          ไม่ใช่เลย...


          สิ่งที่เราจะเห็นคือ...การเล่า ผีตนนั้นเล่าถึงความรัก ความหลัง และความแค้นที่มีต่อชายคนหนึ่งให้พญายมได้ฟัง ชายชุดดำผู้ดำเนินจากปรภพขึ้นมาหาทัณฑ์สวรรค์ที่หายไปบนโลกมนุษย์ หลังจากที่เจ้าแห่งยมบาลค่อยๆนิ่งฟังเรื่องราวเหล่านั้นจากภูตสวาท เรื่องราวที่ช่างห่างไกลตัว แต่กลับคล้ายเป็นบางสิ่งที่หลบซ่อนเพียงใต้จมูกเขานั่นเอง...


          แม้เรื่องจะดำเนินด้วยการเล่าเป็นหลัก แต่เป็นการเล่าที่มีชั้นมีเชิง มีความลึก ควบคู่ไปกับการดำเนินเล็กๆน้อยๆในการกระทำของตัวละคร ชวนดึงจิตดึงใจกันอย่างประหลาด ในขณะที่เราค่อยๆฟังตำนานเรื่องนั้นนิทานเรื่องนี้ที่ภูตสวาทหยิบยกขึ้นมา แทนที่จะเบื่อหน่ายเรากลับอยากจะฟังต่อไปเรื่อยๆ อยากค้นเข้าไปข้างใน ใครเป็นใคร สิ่งใดทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง...กลายเป็นภูตสวาทเช่นนี้

          อ่านแล้วจะรู้สึกว่าคนเขียนวางผังวางพล็อตค่อนข้างดี มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีการวางค่ายกลของการกระทำ เปลี่ยนจากนิยายดราม่าที่ควรจะบีบใจ กลายเป็น 'ขมในใจเข้ามาทำหน้าที่แทน


          ทุกความสัมพันธ์ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์ วันนั้นสิ่งที่เราต้องการมีเพียงแค่คนคนหนึ่งยืนอยู่เคียงข้างก็พึงใจ แต่แล้วกิเลสที่เพิ่มพูนขึ้นตามเวลาและตามวัย ได้เปลี่ยนเขาและเปลี่ยนเรา ไม่อาจกลับเป็นดังคนคู่เดิมที่เข้าอกเข้าใจกันอย่างง่ายดายในอดีต ภาพที่เคยจับมือกันและกันรางเลือนอยู่แค่ในความฝัน พอตื่นขึ้นมาจะพบความจริงว่ามีมีดและดาบหลบอยู่ในมือด้านหลังของอีกฝ่าย...เราไม่เชื่อใจกันอีกแล้ว
          ความเชื่อมั่นยังต้องแลกมาด้วยการหลั่งเลือดเถือนใจของคนอีกคน...เราเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร!

          วันนี้เรื่องราวในอดีตกลายเป็นเพียงผงธุลี ไม่มีใครมานั่งจดนั่งจำโศกนาฏกรรมในหน้าประวัติศาสตร์นั้นอีกแล้ว แต่กรรมที่เคยก่อไว้ไม่เคยเลือนหาย สิ่งที่เขาและเขาทำจึงเป็นการชดใช้...และชดใช้ จนตราบสิ้นดินฟ้าสลาย


          ขมจริงๆ เป็นความขมใจกันมากจริงๆ เข้าใจว่าคนเขียนคงไม่อยากใจร้าย จึงหาทาง(แถ)ลงให้กับตัวละคร แม้ไม่สมหวังแต่ก็ยังไม่เลวร้าย...หึ หึ 




Create Date : 17 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2559 14:49:55 น.
Counter : 2943 Pageviews.

4 comment
พร่างพรายในความเงียบงัน... โดย มาภา




พร่างพรายในความเงียบงัน... โดย มาภา


          บอกเล่าเรื่องราวของ นิทรา หญิงสาวผู้อยากให้ลมหายใจของตัวเองหมดไปเสียที หญิงสาวผู้ไม่อยากมีวันพรุ่งนี้ ตัดสินใจโดยไม่ใช้สมองบินตาม โทเบียส ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งได้พบกันในบาร์เพียงไม่นาน ไปใช้ชีวิตร่วมกับเขาตามลำพังในออสเตรีย ประเทศอันเงียบสงบ
          บ้านเกิดของเขา ที่ที่ความเงียบงัน...จะเป็นนิรันดร์ตลอดไป



(สนพ.อรุณ    ตีพิมพ์ ก.ย.59    จำนวนหน้า 336    ราคาปก275)



ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          นิยายที่น้อย...แต่มากเป็นอย่างนี้เอง


          นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องชายหญิงแปลกหน้าคู่หนึ่งตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ 'ร่วมบ้าน' เดียวกัน ความหมายตามนั้นคือแค่ร่วมบ้านเท่านั้นจริงๆ พวกเขาแค่ทำกับข้าวด้วยกัน นั่งเล่นเกมกัน ปลูกต้นมะนาว เลี้ยงเต่า ขับรถไปซื้อกับข้าว เดินเล่น วาดรูป ขี่จักรยาน ใช้ชีวิตสงบเรียบง่าย สโลวไลฟ์สุดๆ

          แต่ในความนิ่งงันนั้น...คนอ่านจะมองเห็นบางอย่าง ความอบอุ่น ความเศร้า คลุกเคล้าไปกับความวาบหวาม โรแมนติค และชวนให้เรากระหายใคร่รู้บางสิ่ง...อย่างประหลาด


          และจนสุดท้ายนั้นเองเราจะรู้ได้ว่าคำตอบของคำถามในปมต่างๆที่เรามัวสงสัยมาตลอดเรื่องนั้น...อาจไม่สลักสำคัญใดๆต่อใจคนอ่านเลยก็ได้... เพราะเรื่องราวระหว่างนั้นต่างหาก บทสนทนา ภาษาพูด ภาษากายที่ตัวละครทั้งสองสื่อถึงกัน ได้สลักลึกให้เราผูกพันกับเขาและเธอ พวกเขาได้ส่งผ่าน 'แก่นสาร' บางอย่างมาเปลี่ยนความคิดของเราด้วย


          จากที่เราคิดมาตลอดว่าไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้ เมื่อตั้งอยู่ก็มีวันสิ้นสลาย การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่มีอะไรอยู่ได้ตลอดไป เราจึงมองโลกอย่างเข้าใจ ไม่ทุกข์ร้อนเท่าใดเมื่อความเปลี่ยนแปลงมาเยือน แต่เราก็อดย้อนคิดไม่ได้สักทีว่าเราคิดถูกคิดผิดที่เลือกเดินทางนั้นทางนี้ ไม่วายมานั่งคิดมากโทษตัวเองอยู่ดี แต่ในความเงียบงันของนิยายเรื่องนี้ได้ตะโกนบอกเราราวกลับจะให้เข้าใจขึ้นไปอีกว่า แม้ทุกสิ่งจะมีวันเปลี่ยนแปลงสูญสิ้นไป แต่มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งหนึ่งเสมอ โลกมีเหตุผล ทุกอย่างมีสมดุลของมัน


          จากเรื่องราวของพวกเขาเราจะได้เห็นว่าชีวิตของคนคนหนึ่ง ...ได้ใช้เยียวยารักษาคนอีกคนหนึ่ง พลังของคนอีกคนส่งต่อให้คนอีกคน เหมือนใบไม้ที่เคยผลิใบเขียวสดใส และแล้ววันหนึ่งก็จะแห้งกรอบเหี่ยวเฉาร่วงโรยไปกลายเป็นปุ๋ยให้ใบต่อๆไปได้แตกหน่อ ในความสูญเสียอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดเรื่องน่ายินดีอีกเรื่องหนึ่ง


          พร่างพรายในความเงียบงัน... เป็นนิยายเรื่องหนึ่งที่เรียบง่ายมากๆ แต่กลับมีพลังส่งเสียงผลักดันให้เรามองเห็นภาพชีวิตที่แปลกตาออกไป


          นิยายที่...ไม่ต้องพยายามเป็นอย่างนี้เอง




Create Date : 31 ตุลาคม 2559
Last Update : 31 ตุลาคม 2559 17:42:02 น.
Counter : 4631 Pageviews.

10 comment
ภาพหลอกตา RATMAN...โดย มิจิโอะ ชูสุเกะ


ภาพหลอกตา RATMAN...โดย มิจิโอะ ชูสุเกะ

พรพิรุณ กิจสมเจตน์ แปล


          เมื่อ 23 ปีก่อนอุบัติเหตุพรากลมหายใจพี่สาวของ เรียว ไปอย่างเป็นปริศนา พร้อมคำพูดทิ้งท้ายในวันที่พ่อจะจากลาเขาไปตลอดการ ...พ่อทำถูกแล้ว
          เงาดำจากอดีตยังคงคุกคามเฝ้าตั้งคำถามในใจเขาเรื่อยมา จวบจนเกิดการตายด้วย 'อุบัติเหตุ' ของคนใกล้ชิดเขาอีกครั้ง ภาพความทรงจำซ้อนทับปัจจุบันราวกับเป็นภาพเดียวกัน หรือสิ่งที่ทำได้ต่อจากนี้มีเพียง...
          เดินตามรอยพ่อ...
          ทำอย่างที่พ่อทำ...



(สนพ.Bilss    ตีพิมพ์ ต.ค.53    จำนวนหน้า 250    ราคาปก 210)


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


           ภาพหลอกตา...เป็นนิยายลึกลับสืบสวนที่ว่าด้วยการ 'มโน' แบบสุดๆมนุษย์อีกเรื่อง หลังจากที่เราเคยสัมผัสการเล่นกับประเด็นแบบนี้มาแล้วใน คืนฝนลวง อีกผลงานหนึ่งของคนเขียน มาเรื่องนี้มันหนักกว่า กลับกลอกยิ่งกว่า พลิกฟ้าพลิกตำรามากกว่า จับหัวเราหมุนไปหมุนมาตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย...


          บอกเล่าเรื่องของ'เรียว' ชายหนุ่มผู้เคยประสบกับเหตุการณ์สยองขวัญในวัยเด็ก เขาได้เห็นพี่สาวตัวน้อยที่สนิทสนมกันมาก กลายเป็นร่างไร้วิญญาณต่อหน้า ด้วยความเดียงสาของวัยจึงทำให้เขาไม่เข้าใจต่อ 'พิรุธ' หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นว่าพี่สาวของเขาไม่ได้ตายจาก...อุบัติเหตุ
          ในวันที่เติบโตขึ้นจิ๊กซอว์เหล่านั้นถูกเติมต่อด้วยประสบการณ์แห่งวัย ความเข้าใจที่มาพร้อมกับความไม่เข้าใจกลายเป็นหมอกเงาดำมืดปกคลุมจิตใจเขาให้ต้องทุกข์ทรมาน และเมื่อมรสุมพัดผ่านเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง การถูกหักหลัง การนอกใจ ความรู้สึกผิด หรือมิตรภาพ จะกดดันให้เขาเดินไปทางใด เขาเหมือนคนหลงทางที่ควานหาเชือกนำทางไม่เจอ...
          และตอนนั้นเองบังเกิดสิ่งหนึ่งให้เขายึดเกาะ คำพูดก่อนวาระสุดท้ายของพ่อในวันนั้นหลังจากพี่สาวตายจากไปได้ไม่นาน...มันดังกังวานอยู่ในหู
         ...
พ่อทำถูกแล้ว
         ทำอย่างที่พ่อทำ...


          ชีวิตคนเราก็เป็นแบบนี้...เป็นเพียงแบบที่ลอกเลียนมา
          เรามักเริ่มต้นจากความหลงใหล ความพอใจ จนอยากทำตาม ไม่ว่าจะเป็นการเสพหนัง อ่านนิยาย ฟังเพลง หรือเห็นภาพเขียน สิ่งต่างๆกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากดำเนินรอยตามแบบและทำตาม บางคนอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลัง...เลียนแบบ เป็นเรื่องยากที่เราจะค้นพบเอกลักษณ์ของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการลอกเลียนแบบนี่แหละ... คือจุดเริ่มต้นให้เราได้ค้นพบตัวตนของเราเอง


          นอกจากประเด็นขบคิดลึกซึ้งที่กล่าวข้างต้น  ในเนื้อหายังเล่นเกมจิตวิทยากับทุกคน ทั้งตัวละคร ไม่ละเว้นคนอ่าน สร้าง 'ภาพหลอกตา' ให้ทั้งเขาและเราหลงผิด ใช้ภาพหลอกเขา ใช้คำพูดหลอกเรา ...ทุกคนเข้าใจผิดหมดเลย

          ราวกับคนเขียนกำลังค่อยๆกระซิบบอกเราเบาๆว่า...หน่อเนื้อร้ายของความผิดพลาดทั้งมวล สิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดทนทุกข์ทรมาน มาจากจินตนาการ มโนสุดติ่ง คิดไปเองของมนุษย์เราเองนี่แหละ


          ต้องบอกว่าเราชอบทุกหน้า ทุกคำพูด ทุกบทสนทนา ทุกบทบรรยาย ทุกรายละเอียด ทุกๆอย่าง แทบจะหาจุดพลาด ความผิดข้อติใดๆไม่ได้เลย และไม่คิดเลยว่าจะเป็นการอวยแต่อย่างใด เชื่อว่าถ้าใครเป็นสายเจบุ๊คคอสืบสวนเช่นเดียวกัน หากได้ลองอ่านแล้วน่าจะรู้สึกได้...ไม่ต่างกัน


          คุณต้องอ่านนะ...ต้องอ่าน



Create Date : 24 ตุลาคม 2559
Last Update : 24 ตุลาคม 2559 12:30:54 น.
Counter : 2186 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

kunaom
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]



iLength = document.images.length; for(i=0;i

kunaom's bookshelf: read

Saikano: The Last Love Song on This Little Planet, Vol. 01
really liked it
เวลาคนเป็นแฟนกัน เขาต้องทำอะไรกันบ้างนะ? เออ..จริงนะ เป็นคนที่คิดไม่ออก บอกไม่ถูก นึกคำตอบไม่ได้เช่นกัน คนเป็นแฟนกันเขาต้องทำไงบ้างหว่า? อาจเพราะในชีวิตนี้เรามีแค่ช่วงเวลาของการแอบๆรักคนเดียวเท่านั้นอะ ไปไม่ถึงขั้นรัก..กันแบบคนอื่นเขาเสี...
ฆาตกรรมคืนฝนดาวตก
liked it
ไม่ถึงกับผิดหวัง น่าจะบอกว่าความตื้นเต้นเร้าใจมีน้อยกว่าผลงานอื่นๆที่ได้ลองจากผู้เขียนอย่างที่เคยอ่านผ่านๆมา อาจเพราะเคยชินในมุกหรือวิธีการคิดซ่อนเงื่อนไขต่างๆที่คนเขียนมี จะว่าเป็นวิธีเก่าก็ไม่เชิง แต่ถูกนำเสนอในแบบที่นักเขียนสืบสวนส่วน...
เจ้าหญิงเม็ดทราย
really liked it
จะบอกว่าอ่านโปรยหลังแล้วสยดสยองมาก อะไรจะยุ่งเหยิงปานนั้น น้องชายพยายามจะแย่งคู่หมั้นพี่ชาย ส่วนไอ้คนพี่ก็จ้างวานเมียเก็บ (นางเอก) ของน้องให้มาเป็นเมียตัวเอง เพื่อช่วยปกปิดและรับเป็นพ่อเด็กที่ไอ้น้องเลวมันไข่ทิ้งไว้... คือคิดอะไรกันอยู่...
สายไปไหมที่จะรักเธอ, #2
it was amazing
ใจไม่แข็งพอ อย่าอ่าน... ก็ว่าเล่มนี้ไม่เห็นมีอะไร แต่ทำไมน้ำตาต้องไหล บอกได้แค่ว่านี่เป็นแค่นิยายน้ำเน่าเรื่องนึง ที่ไม่ใช่แค่นิยายน้ำเน่า...ดาดดื่นธรรมดาแน่นอน หลังจากงงกับเล่มหนึ่งว่าจะไปต่อได้ยังไง มาเล่มนี้อารมณ์ไม่เห็นจะบีบใจกันเท่...

goodreads.com
New Comments