ชดใช้...โดย มินาโตะ คานาเอะ
กนกวรรณ เกตุชัยมาศ แปล
เรื่องราวเกิดขึ้นง่ายๆ ในบ่ายวันหนึ่งของช่วงเทศกาลที่ใครๆหลายคนต่างมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด เด็กหญิงประถมสี่ จำนวน 5 คน ตกลงไปเล่นที่โรงเรียน ขณะที่กำลังเดาะลูกบอลกันอยู่ ชายท่าทางคล้ายช่างคนหนึ่งเดินเข้ามาขอคนอาสาเพื่อช่วยงานที่ห้องแต่งตัวของสระว่ายน้ำโรงเรียน เอมิลี คือผู้ที่ถูกเลือก ทั้งคู่เดินจูงมือหายลับไป...แล้วไม่มีใครกลับออกมาอีกเลย
ต่อไปนี้คือเรื่องราวของเด็กหญิงที่เหลืออีก 4 คน หลังจากบ่ายวันนั้น....
เมื่อแม่ของเอมิลีกล่าวว่า...
'...พวกเธอต้องหาตัวคนร้ายให้ได้ ก่อนที่คดีจะหมดอายุความ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องชดใช้ความผิดในรูปแบบที่ฉันยอมรับได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะตามไปแก้แค้นพวกเธอ...'
15 ปีต่อมา...
(สนพ.แพรวสำนักพิมพ์ ตีพิมพ์ มี.ค.60 จำนวนหน้า 211 ราคาปก 195)
ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...
เหมือนเป็นเรื่องที่คืนฟอร์มของคนเขียนต่อจาก คำสารภาพ หลังจากที่เราเฉยๆกับ คดีฆาตกรรมเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ จนมาถึงเรื่องนี้ ชดใช้ กึ่งๆจะเป็นเรื่องของการให้คำสารภาพแต่จริงๆไม่ใช่ เมื่อเด็กๆที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ที่เพื่อนถูกฆาตกรรมกลับมาบอกเล่าเรื่องราวของพวกเธอบ้าง ว่าหลังจากเวลาผ่านไป 15 ปีพวกเธอต้อง...ชดใช้ ...ด้วยอะไร
ในนิยายสืบสวนหลายเรื่องจะมีพล็อตที่เพื่อนถูกฆ่าในวัยเด็ก หลังจากนั้นคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ต่างเติบโตขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว แล้วมีเรื่องราวให้ย้อนกลับมาเจอกัน ให้คนอ่านสืบเสาะไปว่าพวกเขาเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมยังไง แล้วใครคือฆาตกรตัวจริงกันแน่!
มาถึงเรื่องนี้ที่ใช้ชื่อว่า ชดใช้ เราก็ต้องคิดไปว่าพวกเธอเหล่านั้นต้องมีส่วนกับการตายของเพื่อนแน่ๆ แต่นิยายเรื่องนี้กลับใช้วิธีคิดตลบหลัง...
หากพวกเธอไม่เคยผิดล่ะ หากพวกเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของเพื่อนสักนิดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กๆที่ยังเยาว์วัยและหวาดกลัวเกินกว่าจะเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้า ถูกตราหน้าว่ามีส่วนผิด ถูกตราหน้าว่าคือ...ฆาตกร เพียงเพราะจำหน้าคนร้ายไม่ได้ ถูกอารมณ์โกรธแค้นเศร้าโศกของผู้ใหญ่ตอกตรึงให้ใช้ชีวิตย่ำอยู่กับเหตุการณ์สะเทือนขวัญนั้น ชีวิตพวกเขาจะเติบโตไปอย่างไรบ้าง...
มีคนมายมายต่างถามเด็กๆถึงรายละเอียดในวันนั้น แต่กลับไม่มีใครเลยจะถามเด็กๆว่า 'หลังจากวันนั้น' พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง หวาดกลัวอย่างไร สูญเสียความยึดมั่นในตัวเองอย่างไร เข้าใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นดีแค่ไหน และได้รับการดูแลจิตใจหรือไม่ แทบไม่มีใครสนใจเลย แม้แต่ผู้ปกครองก็ยังไม่ใส่ใจ ยิ่งแม่ของเด็กหญิงที่ตายตอกย้ำว่าเป็นความผิดของพวกเธอ พันธสัญญาที่มองไม่เห็นจึงเริ่มทำงาน...
ในแต่ละบทคือการเล่าเรื่องชีวิตของพวกเธอแต่ละคนว่า15 ปีหลังจากวันนั้นเป็นไปอย่างไร เป็นการเล่าไปเรื่อยๆแบบสรรพนามบุรุษที่ 1 อาจจะอ่านยากอยู่สักหน่อย อารมณ์เหมือนตัวละครคุยกับตัวเอง แต่ถ้าใครเคยอ่านงานของคนเขียนก็จะรู้ว่าเป็นสไตล์ของเขา แรกๆอาจมีง่วงอยู่เหมือนกัน
จนเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกลับทำเราอยากรู้ไปเรื่อยๆ และจนเมื่อเราคิดว่าประเด็นคนร้ายตัวจริงอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญนั่นแหละ คนเขียนก็ทำการ 'ตลบหลัง' ทั้งเราและตัวละครอีกรอบ ว่าเขายังไม่ลืมนะ ยังไม่ลืมว่าใครบ้าง...ต้องชดใช้
อ่านจบแล้ว...ขนลุกเลย