All Blog
ยากล่อมใจในคืนฝัน...โดยโนเอะรุและเทราสเฟียร์

A tranquilizer for your Chrismas Eve

ยากล่อมใจในคืนฝัน...โดยโนเอะรุและเทราสเฟียร์


จิตแพทย์หนุ่มผู้พรั่งพร้อมด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติ


แต่มีบางอย่างขาดหายไป...

เด็กสาวผู้งดงาม แต่มีอดีตอันเลวร้าย ทำให้ไม่ยอมพูดกับใคร
เขากับเธอต่างมีบาดแผลในใจและความลับที่เปิดเผยต่ออีกฝ่ายไม่ได้...


จิตติ รับ ทัตตวา เป็นคนไข้เนื่องจากเธอไม่ได้เป็นใบ้แต่ไม่ยอมพูด

เขาทดลองทำทุกอย่างแต่ทัตตวาก็ไม่ยอมเอ่ยสักคำ

ทำให้เขาต้องการสืบหาอดีตที่เธอซ่อนไว้อย่างมิดชิด


จิตติมักระบายอารมณ์ผ่าน ‘การวิเคราะห์ตนเอง’ ในโลกไซเบอร์โดยแต่งเรื่องหลอกลวงว่าตนเป็นหญิงสาวผู้น่าสงสารเพื่อให้ผู้คนแสดงความเห็นใจ เขาสรุปว่าคนเหล่านั้นเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ขณะที่แสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ราวกับเทวดานางฟ้ามาโปรด แต่ตัวตนในโลกความจริงก็ประณามเขาไม่มีชิ้นดี


กระทั่งเขาได้แชตกับ เรคต์ ซึ่งฉลาดเหลือร้าย สามารถจับได้ว่าจิตติโกหก

เรคต์ปั่นหัวเขาด้วยอารมณ์ขันแกมทะลึ่ง และคอยช่วยจิตติค้นหาความลับอันดำมืดในอดีตของทัตตวา


แต่ยิ่งค้นจิตติก็พบว่าเบื้องหลังการไม่ยอมพูดของทัตตวาน่ากลัวเพียงไร เรื่องราวของเธอสะกิดบาดแผลในใจเขาเช่นกัน ในที่สุดจิตติก็รู้ตัวว่าเขาไม่ได้ช่วยเหลือเธอจริงๆ แต่กลับทำร้ายเธอโดยไม่รู้ตัว เขาสับสนระหว่างต้องการเหนี่ยวรั้งเธอไว้หรือผลักเธอออกไปจากชีวิต ขณะเดียวกันก็หวั่นไหวไปกับถ้อยคำของเรคต์ จนคิดว่าตัวเองคงชอบเพศเดียวกัน...

***ขอบคุณเรื่องย่อจากเวบสถาพรค่ะ***

(สนพ.พิมพ์คำ ตีพิมพ์ ก.ค. 56 จำนวนหน้า 348 ราคาปก 220)


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


     อาจเป็นเพราะไม่คุ้นชินกับวิธีการเล่าเรื่องที่ผ่านมุมมองของตัวเอกเพียงคนเดียวของเรื่องอย่าง จิตติ นายจิตแพทย์หนุ่ม ผู้มีพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ หน้าที่การงานสมบูรณ์ แต่งานอดิเรกที่เขาตั้งชื่อเองว่า 'การวิเคราะห์ตนเอง' คือการโพสกระทู้บนเว็บบอร์ดสาธารณะ โดยอ้างตัวเองเป็นสาวไทยที่พบเจอความรักสุดรันทดในต่างแดน และเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น “เรื่องโกหก” ที่เขาแต่งขึ้นเองหรืออาจมีเค้าโครงจากบางส่วนในชีวิตจริงของเขา เพื่อดูปฏิกิริยาของผู้คนที่เข้ามาโจมตี วิพากษ์วิจารณ์หรือปลอบโยนผู้ตั้งกระทู้แสนรันทดนั้น ทำให้คนอ่านมองว่า “นี่มันจิตสมชื่อจริงๆ” บวกกับการบรรยายลากยาว ไม่แยกเป็นบทแบบนิยายทั่วไป ทำให้เหมือนไม่ได้พักหายใจ เมื่ออ่านไปได้ 50 กว่าหน้าก็เกือบยอมแพ้ที่จะอ่านเรื่องนี้ต่อไป (และไม่คิดด้วยว่าจะมีรีวิวนี้เกิดขึ้น เพราะเรื่องมันซับซ้อนเกินไป) แม้ว่าในเวลาต่อมาจิตติจะเจอเคสคนไข้ที่น่าสนใจอย่าง ทัตตวา แต่การเล่าเรื่องก็ยังเหมือนเดิมคือคนอ่านจะได้เห็นเพียงวิธีการคิดวิเคราะห์แบบหมอ หรือความคิดแบบสุดโต่งในบางเรื่องของการดำเนินชีวิต ชีวิตวนอยู่ในลูปเดิมที่ตื่นเช้าไปทำงานที่รพ. บอกเล่าปัญหาของคนไข้ที่พบเจอ ขับรถกลับบ้าน คว้ากระป๋องเบียร์ เปิดคอมเล่นอินเตอร์เน็ต เพื่อชื่นชมผลงานของตัวเองต่อไป...แต่แล้วเมื่อเรื่องดำเนินมาเกือบถึงครึ่งเล่ม คนอ่านก็พบว่าไม่สามารถหยุดอ่านได้อีกต่อไป...



     เมื่อผู้เขียนสามารถดึงความสงสัยใคร่รู้ของคนอ่านถึงสาเหตุของการ 'ไม่พูด' ของทัตตวา เธอไม่ใช่คนใบ้ เธอไม่ได้หูหนวก แต่มีบางสิ่งปิดกั้นเธอจากภายในไม่ให้เธอพูด หรือแม้แต่แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา ปิดกั้นเธอจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เหมือนเธอเป็นแค่เพียงภาชนะว่างเปล่าที่เดินได้ หายใจได้ ทำได้อย่างมากคือการพยักหรือส่ายหน้า ทำไมเธอถึงมีบุคลิกที่เหมือนถูกแยกออกจากโลกนี้ตลอดเวลา บ่อยครั้งที่จิตติต้องตีความจากสิ่งที่เธอแสดงออกไปในสองทางคือ เธอรู้สึกแบบเดียวกับสิ่งที่ทำอยู่ กับ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่คืออะไร แค่บอกให้ทำ เธอก็ทำไป จิตติค่อยๆกะเทาะเปลือกของเธอออกทีละนิด และอาศัยความร่วมมือในการสืบสาวเรื่องราวในอดีตเล็กน้อยของเธอจาก เรคต์ บุรุษนิรนามบนโลกออนไลน์ที่สามารถจับโกหกเรื่องการวิเคราะห์ตนเองของจิตติได้ เรคต์ไม่ได้เปิดโปงเรื่องโกหกของเขา แต่กลับชื่นชมหรือเกือบจะเทิดทูนเขาด้วยซ้ำ จนจิตติเกือบหวั่นไหว...



     คนอ่านไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าสิ่งใด หรืออะไรสร้างประกอบบุคคลที่มีบุคลิกแบบทัตตวาขึ้นมาได้ เมื่อความจริงเริ่มเปิดเผย คนอ่านพบว่าแท้จริงแล้วคนอย่างทัตตวาหรือจิตติ แทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย พวกเขามีพื้นฐานเหมือนกัน เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน เป็นลูกครึ่งเหมือนกัน โตมาในครอบครัวแบบเดียวกัน มีแผลในใจเหมือนกัน นั้นคือการไม่รู้ความหมายในการดำรงอยู่ของชีวิต เช่น ทัตตวาไม่เข้าใจว่าเด็กผู้หญิงจะเดินจูงมือกันทำไม เธอไม่รู้ความหมายในการกระทำนั้น? เหมือนที่จิตติเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันในตอนที่มีแฟนว่าจะเดินจับมือกันไปทำไม เขาอ้างว่าเมืองไทยนั้นร้อนแสนร้อนจะเหนียวมือเปล่าๆ แต่สิ่งที่ทั้งคู่ต่างกันคือ ทัตตวาไม่ได้เลือกให้ตัวเองมีสภาพชีวิตจิตใจเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่เมื่อเธอมีโอกาส เธอก็ยังเลือกที่จะเรียนรู้บุคลิกของตัวเอง เลือกที่จะร้องไห้ออกมาเมื่อสูญเสียคนสำคัญในชีวิตไป แต่จิตติเลือกที่จะปฏิเสธความรักและความเชื่อมั่นจากคนรอบตัว เช่นถ้าเขาได้รับคำปลอบใจจากใครคนหนึ่ง จิตติจะคิดว่าเมื่อเวลาผ่านพ้นไปถึงพรุ่งนี้ เขาคนนั้นก็จะลืมมัน ที่ทำไปเพียงเพราะมารยาททางสังคมเท่านั้น เหมือนที่เขาเองก็จะลืมเรื่องของเมื่อวานเช่นกัน แล้วดำเนินชีวิตต่อไปในวงวนเดิมๆ โดยไม่สนใจใคร เขายืนยันว่าเข้มแข็งอยู่ได้โดยไม่มีใคร จึงสร้างเรื่องจอมปลอมเป็นข้ออ้างในการหลีกหนีจากความจริง เช่นเดียวกับการโพสในกระทู้ เพื่อยืนยันความสำคัญของตนเอง เป็นดั่งวิธีกล่อมใจให้เขาหลับใหลลงได้ในยามค่ำคืน...



เมื่อเรื่องดำเนินมาเกือบสุดทาง จิตติหมดความเชื่อมั่นในตนเองถึงขีดสุด ไม่เชื่อแม้กระทั้งว่าตนนั้นเป็นหมอเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้ทัตตวาดีขึ้นได้แล้ว เขาพยายามพลักไสทัตตวาไปจากการดูแลของตน เหมือนการชิงเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนกับหญิงสาวที่คบกันคนแล้วคนเหล่า หมดความรักในตัวเองโดยสิ้นเชิงเมื่อความเชื่อมั่นนั้นหมดไป...



แต่บทสรุปของเรื่องเป็นอะไรที่คนอ่าน 'เดาได้' ว่าใครเป็นใครและคนทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร อาจเพราะมาจากสำนักพิมพ์ที่ได้ตีพิมพ์นี้ทำให้เรื่องจบแบบ 'ตามสูตรของนิยาย' แต่ตลอดเวลาที่อ่านกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกของการอ่านนิยายเลย เหมือนกำลังอ่านบทคิดวิเคราะห์จิตของจิตแพทย์อยู่มากกว่า เลยรู้สึกว่าตอนจบมันเป๋ออกไปจากโทนเรื่องทั้งหมด แอบคิดไปเองว่าถ้าพิมพ์กับสำนักพิมพ์อื่น อาจได้ตอนจบที่ดูสมจริงกว่านี้ หรือจบแบบให้คนอ่านกลับไปคิดเอาเองจะดีกว่า...




Create Date : 03 สิงหาคม 2556
Last Update : 27 ตุลาคม 2556 19:42:04 น.
Counter : 2714 Pageviews.

19 comments
  
เมื่อ สักครู่ไปหยิบๆ จับๆ เล่มนี้ที่ร้านหนังสือ อ่านหลังปกดูน่าสนใจมากค่ะ แต่ยังไม่กล้าซื้อ มาอ่านรีวิวนี้แล้ว คิดว่าเนื้อเรื่องโดยรวมน่าสนใจ แต่วิธีการนำเสนออาจไม่ใช่แนวที่ชอบ สรุปไว้รอซื้อตอนลดราคาเยอะๆ ดีกว่าค่ะ 5555
โดย: polyj วันที่: 3 สิงหาคม 2556 เวลา:13:52:27 น.
  
น่าสนใจมากค่ะ ไปเห็นที่ร้านหนังสือมาแล้วแต่ก็ยังตัดใจไม่หยิบมา พออ่านรีวิวแล้วชักลังเลแล้วสิคะ...
โดย: Aneem วันที่: 3 สิงหาคม 2556 เวลา:13:54:45 น.
  
เพิ่งเห็นในร้านหนังสือค่ะ
อ่านโปรยปกหลังแล้วก็วาง ...ไม่รู้สิคะ อ่านเรื่องที่มีฉากในโลกไซเบอร์ที่ไร ไม่ปลื้มทีนั้น ....( ยกเว้นเงาระบายสีไว้เรื้องนึง )



ปล. อิโม น่ารักจังชอบ ชอบ

( เล่นต่อ )
โดย: Serverlus วันที่: 3 สิงหาคม 2556 เวลา:23:54:48 น.
  
--- ขอบคุณทุกคอมเม้น และทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวยาวๆนี้นะคะ 555 ---


@polyj --- เหมือนกันเลยค่ะ เพราะคำโปรยปกหลังดึงดูดเราให้ซื้อเล่มนี้ เนื้อเรื่องแปลกน่าสนใจจริงๆ ส่วนวิธีการเล่าเรื่องต้องใช้เวลานิดนึงอยู่เหมือนกัน พอเริ่มเข้าใจตัวละคร เริ่มจูนติดแล้วแทบหยุดอ่านไม่ได้เลยค่ะ

@Aneem --- ถ้าให้บอกจากความรู้สึกตัวเอง เรื่องนี้น่าจะเป็นนิยายแนวสืบสวน มีปมปริศนา เชิงจิตวิทยา (เพราะคนเล่าเรื่องเป็นจิตแพทย์อะนะ) ถ้าชอบแนวสืบสวนก็แนะนำเลยค่ะ เล่มไม่หนามากด้วย (ส่วนที่เราสะดุดในตอนจบ เพราะเห็นว่าจบแบบชัดเจนไปหน่อยอะค่ะ แต่สำหรับคนอื่นอาจชอบก็ได้)

@Severlus --- เรื่องนี้ดำเนินเรื่องผสม 'การค้นหาความจริง' ของในโลกจริง (เรื่องของทัตตวา) ในโลกไซเบอร์ (เรื่องของเรคต์) และการบอกเล่าชีวิตของตัวเอก (เรื่องจิตติ) ไปพร้อมๆกัน จนสุดท้ายเรื่องทั้งหมดก็มาบรรจบรวมกัน โดยใช้วิธีเล่าเรื่องเชิงจิตวิทยา (บอกตรงๆว่ามีงงบ้าง 55 กะว่าถ้ามีเวลาก็อยากอ่านซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียดอยู่เหมือนกันค่ะ)

***ปล.อิโม นั่งใส่โค้ดตั้งนาน 555 แค่เห็นเพื่อนๆเอามาใส่ในคอมเม้นก็ปลื้มแล้ววว
โดย: kunaom วันที่: 4 สิงหาคม 2556 เวลา:11:29:43 น.
  

อ่านรีวิวแล้ว น่าสนใจค่ะ ขอจดไว้ก่อน
จะลองไปหามาอ่านบ้าง
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:14:48:13 น.
  
อยู่ในคิวที่จะอ่านแล้วครับ
โดย: อุ้มสม วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:19:13:03 น.
  
@กล้ายางสีขาว --- ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ^^

@อุ้มสม --- จ้า รออ่านรีวิวนะ
โดย: kunaom วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:12:40:24 น.
  
มาอ่านรีวิวค่ะ
โดยส่วนตัวแล้ว ชอบเรื่องนี้มาก อาจเป็นแนวที่ชอบด้วย เขียนได้ดี ชอบทั้งการนำเสนอ และเนื้อเรื่อง จากตอนแรกที่เช่ามาอ่าน อ่านจบแล้วก็ซื้อมาเก็บค่ะ อาจมีบางจุดที่รู้สึกสะดุดใจบ้างเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมแล้วโอเคค่ะ ^____^
โดย: วิรตี วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:10:32:23 น.
  
@ วิรตี --- ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ เห็นด้วยคะ ถ้าคนที่ชอบแนวนี้อยู่แล้วน่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ส่วนตัวอาจไม่คุ้นกับวิธีการนำเสนอของผู้เขียนอยู่บ้าง พอเริ่มจูนติดแล้วก็วางไม่ลงเลยค่ะั
โดย: kunaom วันที่: 7 สิงหาคม 2556 เวลา:16:25:11 น.
  
พล็อตเรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ ตุ๊มๆต่อมๆจะซื้อดีหรือไม่
โดย: Sab Zab' IP: 58.11.206.57 วันที่: 11 สิงหาคม 2556 เวลา:22:53:35 น.
  
@Sab Zab' --- ยกคำตอบที่เคยตอบคุณ Aneem ไปนะคะ

ถ้าให้บอกจากความรู้สึกตัวเอง เรื่องนี้น่าจะเป็นนิยายแนวสืบสวน มีปมปริศนา เชิงจิตวิทยา (เพราะคนเล่าเรื่องเป็นจิตแพทย์อะนะ) ถ้าชอบแนวสืบสวนก็แนะนำเลยค่ะ เล่มไม่หนามากด้วย
อาจมีสะดุดบ้างกับวิธีการนำเสนอ และในตอนจบ ที่เห็นว่าจบแบบชัดเจนไปหน่อยอะค่ะ แต่สำหรับคนอื่นอาจชอบก็ได้
โดย: kunaom วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:16:00:36 น.
  
สอบเสร็จจะไปสอยมาอ่านค่ะ พล็อตน่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 12 สิงหาคม 2556 เวลา:21:26:52 น.
  
@ คุณหวานเย็น --- สู้ๆค่ะ
โดย: kunaom วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:11:17:21 น.
  
แม้ตอนจบจะดูแปลกจากเนื้อเรื่อง
แต่ว่าเป็นสองหน้าที่อ่านซ้ำไปซ้ำมาเลยนะคะ อิอิ
โดย: Nnn319 IP: 124.120.186.84 วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:9:19:47 น.
  
@ Nnn319 --- ใช่ค่ะ ตอนจบนั้นคนละโทนกับเนื้อเรื่องทั้งหมดเลยค่ะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากสนพ.ที่ได้ตีพิมพ์มากกว่า เรื่องจึงลงแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะจบแบบให้คนอ่านกลับไปคิดเองน่าจะดีกว่า อันนี้มันชัดเจนไปอะ เพราะพัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครที่ผู้เขียนปูมาทั้งเรื่องดูไม่น่าจะเร็วได้ขนาดนั้นเลยอะ
โดย: kunaom วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:11:03:04 น.
  
เรื่องตอนจบเป็นความตั้งใจของนักเขียนค่ะ ไม่เกี่ยวข้องกับ สนพ. ค่ะ ยืนยันได้จากบทความแรงบันดาลใจของนักเขียนที่เราอ่านมาจากในเฟสบุ๊คของนักเขียนท่านนี้ค่ะ
โดย: Nnn319 IP: 37.228.105.214 วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:0:27:49 น.
  
@ Nnn319 --- ขอบคุณค่ะที่ช่วยมาแก้ไขข้อที่จขบ.เข้าใจผิดนะคะ

ไม่รู้ว่าคุณ Nnn319 จะเข้ามาอ่านอีกไหม แต่สงสัยว่าคนเขียนเป็นคนไทยหรือญี่ปุ่นคะ เห็นในประวัติที่อยู่หลังเล่มก็มีลงชื่อไทยของนักเขียนท่านนี้ไว้ แต่งงว่าทำไม่ต้องมีคนแปลด้วย?...
โดย: kunaom วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:12:15:47 น.
  
คิดว่าเป็นคนไทยค่ะ
เหตุผลที่ต้องแปลก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
เพราะเราไม่ได้สนิทอะไรกับคุณนักเขียน
เป็นแค่แฟนคลับตัวน้อยๆ ที่แอบปลื้มอยู่ห่างๆ ค่ะ 555
โดย: Nnn319 IP: 124.120.64.79 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:22:36:14 น.
  
@ Nnn319 --- ขอบคุณค้าา
โดย: kunaom วันที่: 7 กันยายน 2556 เวลา:9:50:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kunaom
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]



iLength = document.images.length; for(i=0;i

kunaom's bookshelf: read

Saikano: The Last Love Song on This Little Planet, Vol. 01
really liked it
เวลาคนเป็นแฟนกัน เขาต้องทำอะไรกันบ้างนะ? เออ..จริงนะ เป็นคนที่คิดไม่ออก บอกไม่ถูก นึกคำตอบไม่ได้เช่นกัน คนเป็นแฟนกันเขาต้องทำไงบ้างหว่า? อาจเพราะในชีวิตนี้เรามีแค่ช่วงเวลาของการแอบๆรักคนเดียวเท่านั้นอะ ไปไม่ถึงขั้นรัก..กันแบบคนอื่นเขาเสี...
ฆาตกรรมคืนฝนดาวตก
liked it
ไม่ถึงกับผิดหวัง น่าจะบอกว่าความตื้นเต้นเร้าใจมีน้อยกว่าผลงานอื่นๆที่ได้ลองจากผู้เขียนอย่างที่เคยอ่านผ่านๆมา อาจเพราะเคยชินในมุกหรือวิธีการคิดซ่อนเงื่อนไขต่างๆที่คนเขียนมี จะว่าเป็นวิธีเก่าก็ไม่เชิง แต่ถูกนำเสนอในแบบที่นักเขียนสืบสวนส่วน...
เจ้าหญิงเม็ดทราย
really liked it
จะบอกว่าอ่านโปรยหลังแล้วสยดสยองมาก อะไรจะยุ่งเหยิงปานนั้น น้องชายพยายามจะแย่งคู่หมั้นพี่ชาย ส่วนไอ้คนพี่ก็จ้างวานเมียเก็บ (นางเอก) ของน้องให้มาเป็นเมียตัวเอง เพื่อช่วยปกปิดและรับเป็นพ่อเด็กที่ไอ้น้องเลวมันไข่ทิ้งไว้... คือคิดอะไรกันอยู่...
สายไปไหมที่จะรักเธอ, #2
it was amazing
ใจไม่แข็งพอ อย่าอ่าน... ก็ว่าเล่มนี้ไม่เห็นมีอะไร แต่ทำไมน้ำตาต้องไหล บอกได้แค่ว่านี่เป็นแค่นิยายน้ำเน่าเรื่องนึง ที่ไม่ใช่แค่นิยายน้ำเน่า...ดาดดื่นธรรมดาแน่นอน หลังจากงงกับเล่มหนึ่งว่าจะไปต่อได้ยังไง มาเล่มนี้อารมณ์ไม่เห็นจะบีบใจกันเท่...

goodreads.com
New Comments