All Blog
คมรักกามเทพ...โดย หันหรร

คมรักกามเทพ...โดย หันหรร


           บอกเล่าเรื่องราวความรัก ของนักผจญเพลิงหนุ่มกับคุณหนูแห่งบ้านพิชิตชาญชัย แม้ว่า ยรรยง จะเคยเป็นผู้ต่อลมหายใจให้ ยาหยัง ในครั้งที่เขาช่วยชีวิตเธอจากกองไฟ แค่สิ่งนั้นก็ยังไม่เพียงพอให้เขาได้สมรักกับคุณหนูผู้ร่ำรวย เพียงเพราะเขาเป็นแค่ผู้ชายจนๆและคนไร้ซึ่งอนาคตในสายตาของคนอีกฝั่ง… 

          เดือดร้อนให้ วิกรานต์ น้องสาวต่างสายเลือดของยรรยง จำต้องยื่นมือเข้ามาจัดการอะไรสักอย่าง ก่อนที่กำลังใจชีวิตพี่ชายของเธอจะมอดไหม้ลงบนกองไฟ ในทุกครั้งที่เขาออกไปปฏิบัติงาน...

          งานกู้ภัยใดๆที่เธอเคยอาสา ดูจะไม่เคยเสี่ยงภัยเทียบเท่างานนี้ เมื่อต้องมาสู้รบตบตีกับนาย นักรบ หัวเรือใหญ่ของพิชิตชาญชัย ผู้ไม่เคยยอมแพ้ใคร ในสมองไม่เคยมีคำว่าขาดทุนนอกจากกำไร ห่วงและหวงพี่สาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ ศึกครานี้ใครกันที่จะได้อยู่หรือไป ก่อนกามเทพจะแผลงศร คงต้องมีคนที่เจ็บตัวและ..เจ็บใจไม่แพ้กัน



(สนพ.กรีนมายด์   ตีพิมพ์ พ.ค.57    จำนวนหน้า 367    ราคาปก 269)


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          นิยายเรื่องนี้ เราได้รู้จักจากหนังสือที่เพื่อนๆนำมาออกเดทกันเมื่อคราวกระโน้นน (ยังมีใครจำได้ไหมนะ 555) เราเองได้อ่านจบมานานมากกก+แล้ว แต่เพิ่งจะมีอารมณ์เขียนถึง Smiley

          จากโทนเรื่องและหน้าปก ดูจะเป็นเรื่องราวกุ๊กกิ๊กโรแมนติกของใครสักคนที่อยากทำตัวเป็นกามเทพเชื่อมรักให้คนใกล้ตัว แต่กลับกลายเป็นตัวที่โดนศรรักเข้าเสียเอง...ใช่ นั่นคือพล็อตใหญ่ ที่รายละเอียดภายในมีความแตกต่าง...


          ที่แตกต่างคือ นางเอกเราไม่ได้ต้องการเป็นกามเทพให้พี่ชายของเธอตั้งแต่แรก กลับกันเธออยากให้เขาตัดใจจากรักครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะตัดอนาคตตัวเองต่างหาก เธอรู้ข้อแตกต่างของพี่ชายและหญิงสาวผู้นั้นดี ถึงจะรักกันเช่นไร แต่ในสายตาของสังคมที่วัดคุณค่าของทุกๆสิ่งด้วยทรัพย์สิน หนี้ชีวิตที่พี่ชายเธอมีต่อหญิงสาวให้รอดตายมาได้ ดูจะเป็นเรื่องเศร้าที่มันไม่มีคุณค่ามากพอที่จะซื้อใจ แม้แต่เศษเสี้ยวของความเคารพนับถือในฐานะของผู้มีพระคุณก็ยังไม่มี เมื่อครอบครัวนักธุรกิจฝั่งนั้นไม่มีทางที่จะเอาอนาคตดีๆของคนของพวกเขา มาวางไว้ในมือของคนที่ไร้หลักประกันใดๆในชีวิต อย่างนักผจญเพลิงเช่นนั้น…


          ความจริงในแง่ความดราม่าของคู่พี่ชาย (นางเอก) - พี่สาว (พระเอก) ไม่ได้เด่นเท่าไหร่หรอก เรื่องนี้ยังมีความน่ารักของคู่พระ-นางหลักต่างหาก...

          พระเอกเป็นพวกนักธุรกิจบ้าพลัง เห็นทุกอย่างเป็นกำไรขาดทุนไปซะหมด ขาดเซ้นท์ด้านความรักโดนสิ้นเชิง ในสายตาคุณครูอย่างนางเอกของเรา เขาจึงเหมือนเด็กเกเรบ้าคลั่งชัยชนะสมชื่อเล่น วีสาม (ที่มาของชื่อน่ะ ฮามากนะคะ 555) แม้นางเอกจะรับมือกับอารมณ์ชอบเอาชนะแบบเด็กๆของพระเอกได้ แต่เขาก็ฉลาดเว่อร์ๆแก้เกมนางเอกได้เช่นกัน เรียกว่าพระ-นางเท่าทันกันตลอดเว เราชอบคาแรคเตอร์ทั้งพระ ทั้งนางเลย ชอบๆ Smiley


          เรื่องนี้คนเขียนยังนำเสนอเรื่องราวของคน 2 กลุ่ม นักผจญเพลิง กับคนที่เป็น ออทิสติก มาให้คนอ่านรู้จัก ซึ่งไม่ได้ลงลึกอะไรมากนัก นอกจากให้เราได้เห็นคุณค่าคนของคนทั้งสองกลุ่มนี้ โดยปมหลักจะเป็นรักต่างชนชั้นมากกว่าที่ทำให้ทั้งคู่หลักและคู่รองรักกันไม่ได้ แม้แต่บุญคุณชีวิตที่เคยมีต่อกัน ยังไม่มีค่าพอให้ตอบแทน ถือว่าผู้เขียนเปิดปมและไขปมนี้ได้ดี ให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงค่อยๆเป็นค่อยๆจนจบ มีหักคะแนนในช่วงกลางเรื่องที่ใส่ปมสืบสวนเล็กๆเข้ามา ให้เรื่องออกอ่าวไปหน่อย แถมบรรยายหลุดๆ บริบทของตัวละครกระโดดไปมา เว้นวรรคประโยคแปลกๆ อันนี้คงต้องโทษคนพิสูจน์อักษรด้วย


          ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่ารักและดีทีเดียว ชอบวิธีการถ่ายทอดความคิดของคนเขียน ให้มุมคิดอะไรได้หลายอย่าง ภาษาสำนวนดี ลื่นไหล บางฉากเล่นและเร้าอารมณ์ระทึกใจ เป็นอีกนามปากกาเลยที่จดจำไว้ตามผลงาน...




Create Date : 03 กรกฎาคม 2558
Last Update : 3 กรกฎาคม 2558 1:31:04 น.
Counter : 1874 Pageviews.

11 comment
เจตนาเลือด...โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ

เจตนาเลือด...โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ

สุริยงวรวุฒิ สิริวิวัฒน์กุล แปล


          บอกเล่าเรื่องราวในคราวที่นักเขียนชื่อดังถูกพบเป็นศพในบ้านของตัวเอง ตัวฆาตกรเป็นคนกันเอง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวผู้ตาย สำนวนคดีดูเหมือนจะคลีคลาย พบทั้งผู้กระทำ พร้อมทั้งทุกหลักฐานที่ชี้นำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่พบ...แรงจูงใจ!

          เจตนาเลือดที่หลบซ่อนลึกลงในจิตใจ คือสิ่งใดกันแน่?



(สนพ.เนชั่นบุ๊คส์    ตีพิมพ์ ส.ค. 52    จำนวนหน้า 384    ราคาปก 265)


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          เป็นนิยายที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแกะห่อของขวัญ ...ที่สุดท้ายกลายเป็นกล่องปริศนา
          เราทึ้งโบว์น้อยอันนั้น ฉีกกระดาษสีสด กรีดฝากล่องเปิดออก คุณคาดว่าจะได้พบของขวัญแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นของข้างใน มีกระดาษหนังสือพิมพ์ขย้ำเป็นก้อนบังเอาไว้ คุ้ยมันออกไป ก็ยังเจอกล่องซ้อนไว้อีกใบ เปิดกล่องนั้นก็ยังเจอกล่องอีกใบ อีกใบ และอีกใบ...


          สิ่งที่ซ่อนลึกสุดในนิยายสืบสวนเรื่องนี้คือ 'เจตนา' ของฆาตกร หรือที่เรียกในศัพท์สืบสวนคือ ‘แรงจูงใจ’ ของการฆาตกรรม ผู้เขียนซ่อนมันไว้ด้วยกลเม็ดของการเล่าเรื่องผ่านตัวอักษร ในรูปแบบของบันทึกความทรงจำของตัวฆาตกร...


          เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเสพ 'เรื่องเล่า' ไม่ใช่เรื่องจริง...

          แม้ว่าเรื่องเหล่านั้นเราจะได้ยินได้ฟังจากผู้ที่ประสบพบเหตุด้วยตนเองก็ตาม กระนั้นมันก็ยังได้รับการปรุงแต่งออกมาจากกระบวนความคิดของคนผู้นั้นมาบ้าง ไม่มาก..ก็น้อย มิใช่หรือ? ยิ่งตัวเอกของเรื่องเป็นนักเขียนนิยาย จึงเป็นการง่ายที่จะบิดเบือนเนื้อหาด้วยคำศัพท์ ด้วยวลี ด้วยสำนวน เพื่อสร้าง ‘มนุษย์’ ตกแต่งตัวละครออกมา แล้วนำมาปลูกสร้างในความคิดของเรา ในหัวสมองของเรา มีทั้งล่อหลอกรวมทั้งปลุกปั่น ให้ความคิดเหล่านั้นหนีห่างจากประเด็นของ..ความเป็นจริง ไปได้ไกลแสนไกลเพียงไร...


          ในแง่อรรถรสของการอ่าน คิดว่าหลายๆคนคงมีหาวเป็นแน่ เพราะเป็นการเล่าด้วยบันทึกซะเป็นส่วนใหญ่ เหมือนเรากำลังอ่านไดอารี่ของใครคนอื่นอยู่ จะมีบทสนทนาบ้างในบางช่วงบางตอน ภาษาแปลที่ใช้เรียบเรียงก็ไม่ค่อยสละสลวยนัก หากว่าใครไม่ใช่คอนิยายสืบสวน หรือไม่ชินกับแนวแปลญี่ปุ่น เนิบๆ เรื่อยๆมาเรียงๆ คงได้มีถอดใจวางกันก่อนเป็นแน่…


          โดยส่วนตัวแล้วอาจเพราะความเคยชินก็เป็นได้ หรือเพราะชื่นชอบงานของผู้เขียนเป็นทุนเดิม ถึงเรื่องนี้จะไม่ได้พีคมากในบรรดางานของเคโงะที่เคยได้เสพ และยังเล่าด้วย 'ผม' ในสไตล์ที่เราไม่ถนัด แต่ก็ยังชวนอ่านได้อย่างน่าประหลาดใจ เพราะอยากรู้ว่าสิ่งใดซุกซ่อนไว้ใน...เจตนา

          ที่เทคะแนนสูงให้ อาจเพราะลำเอียงต่อผู้เขียนที่ชื่นชอบก็ส่วนหนึ่ง 555+ แต่อีกส่วนซึ่งสำคัญมากๆคือ ความล้ำลึกและซับซ้อนของเนื้อหาต่างหากเล่า... แบบว่าถ้าไม่ใช่เขา ไม่ใช่เคโงะ คงทำไม่ได้นะนี่...




Create Date : 18 มิถุนายน 2558
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 6:19:49 น.
Counter : 2240 Pageviews.

6 comment
สิ้นแสงฉาน...โดย Inge Sargent

สิ้นแสงฉาน...โดย Inge Sargent

มนันยา แปล


           บอกเล่าเรื่องราวดุจดั่งเทพนิยายของ อิเง่ เมื่อครั้งหญิงสาวตัดสินใจจากบ้านเกิดของตนเองที่ออสเตรีย มาเริ่มต้นชีวิตคู่ที่บ้านเกิดของสามี ในทันทีที่เธอย้ำเท้าลงบนพื้นแผ่นดินพม่า เธอกลับค้นพบความจริงเกี่ยวกับ จาแสง ผู้ชายที่ยืนอยู่เคียงข้างเธอคนนี้ ความจริงที่ทำให้ชีวิตจากนี้ของเธอไม่อาจกลับไปอยู่จุดเดิมได้อีกตลอดกาล...



(สนพ.มติชน    พิมพ์ครั้งที่ 6 ก.พ.58    จำนวนหน้า 336    ราคาปก 240)


ความรู้สึกหลังจากที่อ่าน...


          สิ้นแสงฉานแปลจากเรื่อง TWILIGHTOVER BURMA : My Life as a Shan Princess เป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาจากชีวิตของตนเอง ชีวิตของ อิงเง่ ซาเจนท์ เหมือนดั่งอยู่ในเทพนิยาย เธอได้ค้นพบในภายหลังว่าชายชาวตะวันออกที่เธอตัดสินใจแต่งงานด้วยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา! เมื่อเขาพาเธอกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันยังแผ่นดินพม่า บ้านเกิดเมืองนอนของเขา เธอต้องตกตะลึงเมื่อผู้คนต่างจัดพิธีต้อนรับอย่างใหญ่โต ให้สมกับการกลับมาของ เจ้าฟ้าจาแสง ผู้ครองเมื่องสีป่อ แห่งรัฐฉาน และตัวเธอนั้นได้กลายเป็นพระชายามีนามใหม่ว่า สุจันทรี


          เรื่องราวเล่าผ่านชีวิตของสาวสามัญชนชาวตะวันตกที่ต้องปรับตัวจากชีวิตคนธรรมดาอย่างกะทันหัน ทั้งในฐานะทางสังคมที่เปลี่ยนแปลง และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทั้งภาษา วัฒนธรรมประเพณี ผู้คนที่แปลกใหม่ ทั้งยังความกดดันทางการเมืองที่ไม่เคยสงบนิ่งของแผ่นดินนี้ แม้เธอจะมีเพียงพระสวามีเป็นหลักพิง เธอก็สามารถปรับตัวปรับใจ พัฒนาตนขึ้นมายืนอยู่เคียงข้างเขาได้สมเกียรติ และเป็นที่รักของชาวประชา แต่ช่วงชีวิตเหมือนฝันนั้นช่างแสนสั้น เมื่อไฟแห่งอำนาจคืนคลานเข้ามา เผาพลาญความหวังพลังใจของเธอให้มอดไหม้ลงไปทุกวัน...   


          แม้จะเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของผู้เขียน แต่ก็ไม่ได้เล่าผ่านมุมมองของหญิงสาวเพียงฝ่ายเดียว เราจะได้รสของนิยายด้วยเรื่องมีการเล่าผ่านมุมของเจ้าฟ้าจาแสงด้วย เป็นมุมมองที่มองให้ดีแล้วล้วนต้องผ่านการกลั่นกรองจากประสบการณ์และ...จากจินตนาการผู้เขียนเท่านั้น ความคิดของเขา ปณิธานของเขา และสิงที่เขาต้องประสบในบางช่วงบางตอนซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้เขียนพบเจอเอง ทุกอย่างล้วนเกิดจากความหวังอย่างแรกกล้าของผู้เขียน ให้สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขาและเธอไม่เคยเกิดขึ้นจริง...T-T

“คุณสามารถจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนที่นี่ให้ดีขึ้นได้แน่ๆ ฉันเชื่อค่ะ”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันแหละว่าจะทำได้หรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีใครทำได้ไหม”


          สิ้นแสงฉานเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์พม่า ในเหตุการณ์รัฐประหารยึดอำนาจของนายพลเนวินช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นานนัก มีการใส่เนื้อหาวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองผ่านสายตาของผู้เขียนอยู่มากมาย เหมาะสำหรับนักอ่านที่สนใจแนวอิงประวัติศาสตร์คงจะชื่นชอบได้ไม่ยากนัก 

          ส่วนตัวมีอ่านข้ามเป็นพักๆ เนื่องจากสนใจความเป็นไปในชีวิตของเจ้าฟ้าจาแสงและพระนางสุจันทรีมากกว่า เมื่อเราเองได้ตะหนักรู้ว่า เรื่องราวในมุมของเจ้าฟ้าจาแสงที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้โลกรับรู้นั้น น้อยเสียยิ่งกว่าน้อยเพียงใด ยังความสะเทือนใจอยู่ลึกๆภายในเมื่อได้อ่านจบ

          เพราะโลกก็คงยังไม่ได้รับรู้...ต่อไป



พระรูปที่ฉายอย่างเป็นทางการของเจ้าฟ้าจาแสงกับพระนางสุจันทรี



สิ้นแสงฉานกำลังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกับหนังสือต้นฉบับ Twilight over Burma น่าดูทีเดียวเชียว...




Create Date : 28 พฤษภาคม 2558
Last Update : 28 พฤษภาคม 2558 1:18:32 น.
Counter : 3229 Pageviews.

14 comment
ลำนำบุปผา เล่ม 1...โดย วสันต์จันทรา/ อาทิตยคิมหันต์/ อนิลสารท

ลำนำบุปผา เล่ม 1...โดย วสันต์จันทรา/ อาทิตยคิมหันต์/ อนิลสารท


กรงดอกท้อ ...ขังกายมิอาจขัง ดวงจิต

โคมอวี้หลาน ...ผูกชิดวิญญาณ เราสอง

ม่วงระย้ารำพัน ...เดียวดายไร้ คนครอง

ลำนำบุปผา เล่าทำนอง ชั่วนิรันดร์..



(หนังสือทำมือ    ตีพิมพ์ ก.พ.58    จำนวนหน้า 302    ราคาปกชุดละ 750)




กรงดอกท้อ – วสันต์จันทรา

"เจ้ารักข้าไหม" หญิงสาวย้ำคำถามเดิม
นัยน์ตาของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
"เถาฮวา...เจ้าจะรักคนที่ขังเจ้าไว้ได้ลงคองั้นหรือ"

น้ำเสียงที่ชายหนุ่มใช้ ไม่ใช่การตำหนิหรือยียวนกวนประสาท
หากแต่เป็นการตั้งคำถามย้อนกลับให้นางรู้สึกตัว
เพราะจะอย่างไรก็พูดไม่ได้ว่า เถาฮวาไม่ได้กระทำผิด


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...

          กรงดอกท้อ ...เป็นเรื่องของคุณชายที่พลัดหลงเข้าไปในสวนดอกไม้งาม และเกิดเป็นที่ถูกตาต้องใจของภูตบุปผาสาวนางหนึ่งเข้า (ดอกท้อ) นางจึงยึดเอาตัวเขามาใส่กรง (บ้านที่นางเสกขึ้น) ให้อยู่เป็นเพื่อนคุย ให้มาเป็นหมอนหนุน? ของนาง...

          เรื่องนี้คนเขียนออกตัวไว้ตั้งแต่คำนำแล้วว่า..เบาๆ เมื่ออ่านแล้วก็พบว่า...เบาจริงๆ ==” อ่านแบบพัก มีเปิดมีปิดไปตลอดทาง ทั้งพล็อต ทั้งเหตุผลรองรับการกระทำตัวละครดูจะบางเบาง่ายๆไปเสียหมด ไม่ค่อยปลื้มที่ดูเหมือนพัฒนาการของรักเกิดหลังสัมพันธ์ทางกาย หากใครไม่คิดมากกระไรคงฟินๆได้อยู่กระมัง ยังมีข้อดีได้ตรงบทพิสูจน์ใจกันช่วงท้าย ถือว่ามุขนี้ผ่านทีเดียว...   




โคมอวี้หลาน – อาทิตยคิมหันต์

"ข้าจะลิ้มรสเจ้าทั้งตัว
ล่อลวงให้เจ้ายินยอม แล้วค่อยๆจดมีดเล่มบางลงบนผิวของเจ้า
ให้เลือดหลั่งชโลมกาย แล้วถลกหนังของเจ้าออกมาช้าๆ"
น้ำเสียงของปีศาจหนุ่มเต็มไปด้วยการเชื้อเชิญแสนอันตราย
"ท่านหมายถึงว่าก่อนจะถลกหนัง

ท่านจะร่วมภิรมย์ชั่วคืนกับข้าก่อน?"


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...

          โคมอวี้หลาน ...คือเรื่องของคุณหนูขี้โรค ทั้งยังที่นางเกิดมาเป็นเพียงบุตรสาว จึงไร้ผู้ใดในสกุลแลเหลียว ในวันที่เดียวดายเช่นทุกวัน นางกลับได้พบปีศาจรูปงามตนนั้นใต้ต้นอวี้หลาน...

          เรื่องนี้เริ่มปมด้วยการพบกันของปีศาจหนุ่มกับคุณหนูสกุลใหญ่ จู่ๆเธอก็พบเขาที่หลังบ้านของเธอเอง แต่มีหรือที่ตัวเธอจะแยแส แม้เขาจะประกาศขู่ว่าอยากถลกเนื้อหนัง เธอก็ยังไม่เคยกลัวเกรง? คนเขียนทำเหมือนว่าการพบปะพูดคุยของเขาและเธอ จะเป็นเพียงส่วนประกอบและการปูทางมากกว่า บทพูดบทสนทนาอาจมีงงๆบ้าง ต้องตีความบ้าง หื่นบ้าง ฟินบ้าง แต่เนื้อหาหลักคือการตีแพร่ชีวิตดราม่าในครัวเรือนนางเอกต่างหาก ก่อนจะนำเราไปสู่จุดจบหักศอก ดึงกรามล่างของคนอ่านให้อึ้ง ตะลึงค้าง *0* ในความดาร์กดราม่า ฮาร์ดคอ...เช่นนั้น




ม่วงระย้ารำพัน – อนิลสารท

เขาเป็นบุรุษ...
และ...และข้าก็กำลังเตรียมตัวหาบุรุษสักหนึ่งคน
แล้ว...เหตุใดข้าจึงต้องไปเสาะหาบุรุษคนอื่น
เมื่อคนที่หนุ่มแน่นและพร้อมจะเป็นขุมพลังของข้า มาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...

          ม่วงระย้ารำพัน ...เป็นเรื่องราวของภูตบุปผาสาว (ดอกจื่อเถิง) ที่ต้องการหาบุรุษสักคนไว้เป็นโถยาของตน ปราณบุรุษเท่านั้นที่จะช่วยคงรูปกายแบบมนุษย์ของนางไว้ได้ และเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่นางช่วยไว้ บุญคุณจักต้องตอบแทนกันบ้าง...

          ถือว่าเป็นเรื่องที่กลมกล่อมลงตัวที่สุด ถึงพล็อตจะคล้ายๆกับเรื่องแรก แต่มีการตีความ หาเหตุรองรับการกระทำตัวละครที่น่าเชื่อถือกว่า เล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมยังแลดูมีลับลมคนในในเวลาเดียวกัน ภาษาลึกซึ้งละมุนละไม สอดแทรกไว้ด้วยบทกลอนไพเราะ ทำให้รู้สึกเขินอายและลุ้นไปกับความรักของพระนางคู่นี้ได้จริงๆ มีในช่วงสองสามหน้าสุดท้าย ที่ว่าคล้ายหน้ากระดาษมีจำกัด จึงรวบรัดตัดความด้วยการเฉลยเรื่องผ่านปากเล่า แต่ก็แลดูเศร้าได้อีกนัยหนึ่ง... T-T




          ทั้งหมดคือเรื่องสั้น เป็นเรื่องเล่าผ่านความงามของบุปผาชาติ มีหัวเราะบ้าง หื่นบ้าง เสียน้ำตาบ้าง สุขบ้าง เศร้าบ้าง หลากหลายรสคละเคล้ากันไป เป็นฝีมือของนักเขียนไทย ร้อยเรียงถ้อยคำไว้ด้วยสำนวนจีน ส่วนตัวอ่านแล้วมิได้อึดอัดขัดใจ อาจมีแตกต่างกันไปตามระดับความสละสลวยในภาษา...

          ส่วนรูปเล่มไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นเหตุผลหลักที่ซื้อหา 55+ ปกสวยงามแปลกตา มีภาพประกอบพร้อมกระดาษไขคั่นในตัว เล็งเห็นความตั้งใจของผู้จัดทำจริงๆ (แม้ยังมีคำผิดตกหล่นบ้างเล็กน้อย เนื่องจากผู้เขียนตรวจทานกันเอง) 

          จขบ.ต้องขออภัยที่นำมาบอกกล่าวหลังหนังสือออกมาได้สักพักแล้ว (แบบว่าดองอยู่ ...เอิ๊กก) เพราะน่าเสียดายที่พิมพจำกัด ไม่กลับมาพิมพ์ซ้ำเสียแล้ว หากใครสนใจคงต้องลองมองๆดู เผื่อมีใครนำมาปล่อยกันนะคะ...     


(ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจากเพจ ลำนำบุปผา ค่ะ)




Create Date : 05 พฤษภาคม 2558
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 11:02:27 น.
Counter : 7244 Pageviews.

15 comment
ดั่งฝันวันวาน...โดย นณกร

ดั่งฝันวันวาน...โดย นณกร


           บอกเล่าเรื่องของหญิงสาวผู้ตื่นขึ้นมาพบว่าตนไร้ซึ่งความทรงจำ และยังมีชายหนุ่มสามคนเข้ามาวนเวียนชิดใกล้ แต่เธอจำไม่ได้แล้วว่าเคยฝากใจไว้ที่ใคร คนไหนกันแน่คือตัวจริงในใจเธอ…

          หรือเขากับเธอคงได้พบกัน แค่เพียงในฝัน และ...วันวาน



(สนพ.คำต่อคำ    ตีพิมพ์ ส.ค.57    จำนวนหน้า 387    ราคาปก 270 )


ความรู้สึกหลังจากที่ได้อ่าน...


          นะ-นะ-กอน ชื่อคนเขียนอ่านแบบนี้ ทีแรกมองผ่านๆอ่านเป็น นอ-ระ-กอน ทุกที ==; ภาษาสำนวนคล้องจองลื่นไหลอ่านเพลินดี มีสะดุดเพียงสรรพนาม ‘เขา’ ในฉากที่มีชายหนุ่มมากกว่าหนึ่งคน บางทีอ่านแล้วมีงงว่าหมายถึงเขาคนไหนกัน... 

          เพราะในนิยายเรื่องนี้จะมีชายหนุ่มแสนดีถึง 3 คน มาให้นางเอกเลือก มาให้เธอเดา มาให้เธอต้องปะติดปะต่อเอา ว่าคนไหนที่ใจเธอต้องการ เมื่อเธอจำไม่ได้แล้วว่าเคยรักใคร มันเลือนหายไปพร้อมกับความทรงจำทั้งหมดที่มี!..

          ช่วงแรกคนเขียนปูเหตุการณ์ ตัดสลับฉากให้เหมือนว่าชายทั้งสามมีรักและผูกพันกับเธอทั้งนั้น และเธอก็ดูจะไหวหวั่นไปกับทุกคน แต่เมื่อคนเขียนนำพาให้คนอ่านรู้จักกับพวกเขาเหล่านั้นจนครบทั้งสามคน ความสับสนงุนงงก็หมดไป พอเดาได้และมองออกว่าใครจะใช่ และใครกันที่ไม่ใช่ ความน่าลุ้นอะไรก็เลยลดลงไป...แต่นั้นก็แค่ครึ่งแรกของเรื่องเท่านั้นเอง

          และกับคาแรคเตอร์นางเอก ในบางครั้งเธอก็มีไว้ตัว ในบางคราวที่ไม่กลัวเธอก็กล้าเย้าแหย่ เลยดูมีจริตจะก้านมารยาหญิงโดยไม่ตั้งใจ ในสายตาคนอ่าน (ที่เป็นหญิง 55+) จึงมองไม่เห็นว่าน่ารักตรงไหน แต่คงน่าเอ็นดูในสายตาผู้ชาย หัวกระไดบ้านเธอจึงไม่เคยเหือดแห้งได้เลยสักที ก็พอเข้าใจว่าบทตั้งใจให้เธอเป็นคนเช่นนี้ เพราะหากให้เธอชัดเจนมากพอ คงไม่เกิดโศกนาฏกรรมได้อย่างวันนั้น...


ชายคนหนึ่ง รักเธอเพื่อครอบครอง...



ชายคนหนึ่ง ยินดีเฝ้ารอแม้เธอยังไม่รัก...



ชายคนหนึ่ง ต้องกักเก็บรักนั้น..ให้ลึกสุดใจ



          ไม่ว่ารูปแบบความรักจะแตกต่างกันไป สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ไม่เคยต่างกัน พวกเขาพร้อมทำเพื่อคนคนเดียวนั้น ให้เธอพบรักและมีความสุขเท่านั้นเป็นพอ คนอ่านจึงขอยกตำแหน่ง ‘พระเอก’ ให้เขาทั้งสาม ไม่มีใครเป็นรองใคร เพราะพวกเขาต่างก็เจ็บปวดใจไม่แพ้กัน อ่านแล้วร้องไห้ไปกับพวกเขาทั้งสามคนเลย T^T


          หรือที่แท้แล้วใครจะใช่หรือไม่ใช่ตัวจริง อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ใครมีลับลมคมในนั้นดูกันไม่ยาก คำตอบที่นอนรออยู่ปลายทางต่างหากที่ผู้เขียนตั้งใจจะบอก

          คนเราจะยอมรับกับคำตอบที่รู้อยู่แล้วหรือไม่?...

          หรือจะยอมหลอกตัวเอง ปิดหูปิดตาคิดว่าเขามีใจ ยึดติดกับครั้งหนึ่งที่เคยมีกัน หรือวาดหวังให้ได้รักกันสักครั้ง โดยไม่สนว่าจะทำร้ายคนรอบกายไปเท่าใดกัน กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่ฝันได้พังสลาย กลายเป็นตัวเองที่เจ็บปวดจนปางตาย ทั้งหมดก็เพราะเรา...ไม่ยอมรับความเป็นจริง 


          ดั่งเช่นความจริงสุดท้ายที่ตัวละครต่างรู้ และคนอ่านก็รู้!! มันพิสูจน์ใจกันจริงๆ ยากนักที่ใครจะยอมรับ ขนาดคนอ่านเองยังไม่อยากทำใจรับ คงไม่แปลกนักที่ให้เธอ...ลืม จริงๆผู้เขียนจะเล่นปมนี้ให้ดาร์กดราม่าสุดๆไปเลยก็ได้ ให้เจ็บปวดจนตายกันไปเลยก็ดี (แบบว่าคนอ่านซาดิสม์เล็กๆ 55+) ให้สมกับเหตุที่เธอควรจะลืม... ลืมไปหมดทุกอย่างได้ก็คงจะดี T-T




Create Date : 25 เมษายน 2558
Last Update : 26 เมษายน 2558 11:29:47 น.
Counter : 2037 Pageviews.

13 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

kunaom
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]



iLength = document.images.length; for(i=0;i

kunaom's bookshelf: read

Saikano: The Last Love Song on This Little Planet, Vol. 01
really liked it
เวลาคนเป็นแฟนกัน เขาต้องทำอะไรกันบ้างนะ? เออ..จริงนะ เป็นคนที่คิดไม่ออก บอกไม่ถูก นึกคำตอบไม่ได้เช่นกัน คนเป็นแฟนกันเขาต้องทำไงบ้างหว่า? อาจเพราะในชีวิตนี้เรามีแค่ช่วงเวลาของการแอบๆรักคนเดียวเท่านั้นอะ ไปไม่ถึงขั้นรัก..กันแบบคนอื่นเขาเสี...
ฆาตกรรมคืนฝนดาวตก
liked it
ไม่ถึงกับผิดหวัง น่าจะบอกว่าความตื้นเต้นเร้าใจมีน้อยกว่าผลงานอื่นๆที่ได้ลองจากผู้เขียนอย่างที่เคยอ่านผ่านๆมา อาจเพราะเคยชินในมุกหรือวิธีการคิดซ่อนเงื่อนไขต่างๆที่คนเขียนมี จะว่าเป็นวิธีเก่าก็ไม่เชิง แต่ถูกนำเสนอในแบบที่นักเขียนสืบสวนส่วน...
เจ้าหญิงเม็ดทราย
really liked it
จะบอกว่าอ่านโปรยหลังแล้วสยดสยองมาก อะไรจะยุ่งเหยิงปานนั้น น้องชายพยายามจะแย่งคู่หมั้นพี่ชาย ส่วนไอ้คนพี่ก็จ้างวานเมียเก็บ (นางเอก) ของน้องให้มาเป็นเมียตัวเอง เพื่อช่วยปกปิดและรับเป็นพ่อเด็กที่ไอ้น้องเลวมันไข่ทิ้งไว้... คือคิดอะไรกันอยู่...
สายไปไหมที่จะรักเธอ, #2
it was amazing
ใจไม่แข็งพอ อย่าอ่าน... ก็ว่าเล่มนี้ไม่เห็นมีอะไร แต่ทำไมน้ำตาต้องไหล บอกได้แค่ว่านี่เป็นแค่นิยายน้ำเน่าเรื่องนึง ที่ไม่ใช่แค่นิยายน้ำเน่า...ดาดดื่นธรรมดาแน่นอน หลังจากงงกับเล่มหนึ่งว่าจะไปต่อได้ยังไง มาเล่มนี้อารมณ์ไม่เห็นจะบีบใจกันเท่...

goodreads.com
New Comments