Group Blog
 
<<
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 
ลาวใต้ - อุบลราชธานี ~~~ ตะวันขึ้นที่ผาแต้ม

ทริปลาวใต้ - อุบลราชธานี 27 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2562

ตอนที่ 5 แล้วเน้อ...

ออกจากน้ำตกคอนพะเพ็ง น้อง poongie ปักหมุดเส้นทางกลับจำปาสัก ไม่ใช่เลียบริมโขง แต่เราจะเอารถลงแพข้ามโขงกันเลยค่ะ 117



ภูเกล้าหรือลึงคบรรพต 
 
       คำว่า ภูเกล้า เป็นคำที่ชาวลาวลุ่มเรียก ภูเขาที่มีสัณฐานส่วนยอดมีรูปทรงของการเกล้ามวยผมไว้เป็นกระจุกบนศีรษะ จึงถูกเรียกว่า ภูเกล้า ตราบจนปัจจุบัน แต่สำหรับอารยธรรมเขมร ที่มาสร้างเมืองและสร้างปราสาทหินเรียกเขาลูกนี้ว่า ลึงคบรรพต ด้วยลักษณะพิเศษของภูเขา ที่นอกจากจะมีส่วนยอดเป็นปุ่มจอมขนาดใหญ่ มองเห็นเหมือนจอมปลวกที่ตั้งอยู่บนยอดภูแล้ว บนส่วนยอดของปุ่มใหญ่นั้น จะเป็นลานกว้าง ที่ส่วนกลางของลานหินมีแท่งหินธรรมชาติขาดใหญ่สูง 11 เมตร งอกขึ้นมาจากลานหิน ตั้งตระหง่านติดเป็นเนื้อเดียวกันกับฐานพื้นแท่งหินหรือจอม จอมนี้มีรูปทรงเป็นแท่งกลม ส่วนยอดสุดโค้งแหลมนิดหน่อยชาวลาวลุ่มเรียกว่า จอมเกล้า แต่สำหรับอารยธรรมขอมเรียกสิ่งเดียวกันนี้ว่า ลึงคะปาระวะตะ ซึ่งเป็นที่มาของลึงคบรรพตหรือภูเขาแห่งศิวลึงค์ เมื่อผสานรวมกันกับเบื้องหน้าด้านทิศตะวันออกของลึงคบรรพตมีแม่น้ำโขงไหลผ่าน จึงถูกตีความว่าเป็นท้องมหาสมุทรอันไพศาล เสริมความเชื่อว่า บริเวณลึงคบรรพตแห่งนี้ เป็นอีกสถานที่สิงสถิตของพระศิวะ และได้กลายเป็นสถานที่เคารพสักการะของผู้นับถือศาสนาฮินดูโดยทั่วไปจนส่งผลต่อการสร้างเมืองและสร้างปราสาทหินขึ้น

จอมเกล้า หรือ ลึงคะปาระวะตะ เป็นจุดสูงสุดของภูเกล้าทั้งหมด มีความสูงที่ 1,416 เมตร จากระดับน้ำทะเล มองเห็นได้ก็ต่อเมื่ออยู่ระยะห่างไกลจากเขา เช่น การมองขณะอยู่บนแผ่นดินฝั่งโขง ด้านซ้ายหรือบนแพขนานยนต์ ขณะข้ามกำลังข้ามแม่น้ำโขง หรือบนถนน จากท่าบักบ้านพะพีนไปยังเมืองจำปาสัก แต่เมื่อเข้าไปใกล้เขตวัดพูแล้วจะมองไม่เห็น ด้วยระยะใกล้ทำให้มุมมองแคบลง ลึงคะปาวะระตะซึ่งเป็นยอดแหลมเล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับจอมเกล้าทั้งหมด จึงถูกบดบังมองเห็นได้เพียงส่วนฐานที่มีลักษณะ คล้ายเกล้ามวยผม ซึ่งมีความเชื่อสืบมาแต่โบราณว่า หากใครก็ตามได้ขึ้นไปสัมผัสกับลึงคะปาระวะตะบนจอมเกล้าได้ จะมีอายุยืนยาวกว่าคนทั้งปวง

*** ขอบคุณ พี่ตุ๊ก - tuk-tuk@korat สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ 



เส้นทางนี้ เพราะเรากำลังจะไปแพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำโขง เลยมองเห็นภูเกล้า

ตาม google map มาเรื่อย ๆ ที่นี่ค่ะ ບ້ານພະພີນ ເມືອງຈຳປາສັກ ແຂວງຈຳປາສັກ




ข้างหน้านั่นค่ะ poongie จะต้องขับรถลงแพไป มีไม้วางรองล้อ 2 ข้าง 



ผ่านฉลุยค่ะ 



รอคนขับเรือ



4 โมงเย็นค่ะ ฟ้าดำเลย ฝนทำท่าจะตก





เป็นแม่น้ำโขงช่วงที่ไม่กว้างมาก



สวยดีนะ นี่ขนาดฟ้าไม่เป็นใจ





บนฝั่ง ที่ poongie ขับรถลุยทรายลงมา





แพข้าง ๆ รอออกจากฝั่ง



บนแพที่เรามา



พร้อมแล้วค่ะ



แพเล็ก ๆ บรรทุกมอเตอร์ไซด์, เรือหาปลาของชาวบ้าน



แสงลอดเมฆ...แต่ฟ้าดำ 121









ค่าลงเรือ 150,0000 กีบ  รวมทั้งรถทั้งคนค่ะ







แพบริการหลายลำอยู่ค่ะ



มองกลับไปฝั่ง...มีท่าลงแพ หลายท่า 



ฝั่งที่เราจะขึ้น

















ขึ้นฝั่งแล้ว...มีค่าผ่านด่านอีก 15,000 กีบ



*** มาถึงด่านช่องเม็ก แลกเงินไทยคืนได้ 50 บาท
*** sim net ลาว unitel ค่าซิม 100 บาท เติมเงิน 40 บาท เล่นเน็ตได้ 4 วัน 2 GB (เหลือเฟือ)
*** ซื้อซิม แลกเงินทั้งขาไปขากลับ ตรงด่านเลย มีคนขายเยอะแยะ

18.44 น. ที่พักคืนนี้ บ้านสวนพีรดา อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

https://www.bannsuanpeerada.com/



พับโปรแกรมวัดสิรินธรภูพร้าวไป มาถึงฟ้าก็มืดแล้ว หนีฝนมาจากจำปาสัก (ตกจริง ๆ)  107



ห้องพัก ห้องน้ำ กว้างขวางค่ะ 



....เช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 เราจะไปรอตะวันขึ้นกันที่ อช.ผาแต้มค่ะ



05.48 น. 





อุทยานแห่งชาติผาแต้ม 

เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยูทางตะวันออกสุดของประเทศไทย สามารถรับชมพระอาทิตย์ขึ้นได้เป็นจุดแรกของประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี จุดที่น่าสนใจคือภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ผาแต้ม ผาหมอน ผาลาย ประติมากรรมธรรมชาติเสาเฉลียง และจุดชมพระอาทิตย์แสงแรกแห่งสยาม อุทยานแห่งชาติผาแต้มมีพื้นที่ราว 340 ตารางกิโลเมตร (212,500 ไร่)

ข้อมูลจากวิกิพีเดีย



ได้เห็นแม่น้ำโขงจากหลาย ๆ มุม



ไม่นานเกินรอ...









06.01 น. แสงเรื่อ ๆ มาแล้ว คิดว่าไม่มาแบบไข่แดงแน่















ดีใจที่คนไม่เยอะมาก นั่งมุมใครมุมมัน ซึมซับบรรยากาศไปเนาะ



06.17 น. เจิดจ้ามาเลยค่ะ





ชอบตรงที่เป็นลานกว้าง ๆ ถึงจะคนเยอะคงกระจาย ๆ กันยืน 











พี่เค้ามาโพสต์ท่าถ่ายกับจักรยาน เลยขออนุญาตถ่ายด้วย

มากันเป็นทีมคาราวาน ถามพี่เค้าแล้วว่ามาจากที่ไหน จะไปไหน ... แต่เราลืมไปแล้วค่ะ 121







เราเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่ไปดูภาพเขียนสีก็กระไรอยู่เนาะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มาอีก



3.4 กม. เดินไม่ครบหรอกค่ะ ... ต่อตอนหน้านะคะ



 ความเดิม 

ปราสาทวัดพู
น้ำตกตาดฟาน น้ำตกตาดเยือง
ปากซองไฮแลนด์ สวนดอกไม้มนตรา
น้ำตกคอนพะเพ็ง



Create Date : 07 มีนาคม 2563
Last Update : 9 มีนาคม 2563 16:40:45 น. 0 comments
Counter : 1391 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณJinnyTent, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเริงฤดีนะ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณเนินน้ำ, คุณTui Laksi, คุณmcayenne94, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณKavanich96, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกะว่าก๋า, คุณชีริว, คุณtuk-tuk@korat, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณschnuggy, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**, คุณวลีลักษณา, คุณmariabamboo, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณกาบริเอล, คุณทนายอ้วน, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณInsignia_Museum, คุณnewyorknurse


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.