HR Management and Self Leadership
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
7 ตุลาคม 2553

จะสำเร็จ หรือล้มเหลว ล้วนอยู่ที่ตัวเราเอง

สัปดาห์นี้เขียนในเรื่องของผลงานมาตลอด ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การพัฒนาผลงานในฐานะที่เราเองก็หัวหน้า และต้องการพัฒนาผลงานของลูกน้องตนเอง แต่วันนี้จะเขียนถึงผลงานของตัวเราเองบ้าง ว่าโดยปกตินั้น การที่เราจะทำผลงานได้ดีนั้น ต้องมีอะไรมาสนับสนุนบ้าง

ผลงานที่ผมพูดถึงในวันนี้นั้น หมายความถึงทุกอย่างที่เป็นความสำเร็จในชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่เพียงผลงานในเรื่องของงานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในชีวิตการเรียน การทำงาน ชีวิตครอบครัว ทางด้านการเงิน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผลงานของตัวเราเองในฐานะที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์คน หนึ่ง

ผมเชื่อว่าทุกคนที่เกิดมาย่อมอยากที่จะประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง บางคนอาจจะต้องการประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งปกติที่ชีวิตคนเราต้องการอยู่แล้ว การที่เราจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ได้นั้น มีเคล็ดลับครับ มีอะไรบ้างลองอ่านดูนะครับ

* เป้าหมาย คน ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องตั้งเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การทำงาน หรือการเงิน ฯลฯ เราจะต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน สร้างภาพให้ชัดว่า เราต้องการจะเป็น จะได้ จะทำอะไรในอนาคตข้างหน้า เมื่อเห็นภาพนั้นชัดแล้ว สิ่งที่จะให้ดีสำหรับการตั้งเป้าหมายก็คือ เขียนลงมาในหน้ากระดาษเลยครับ ว่ามีเป้าหมายอะไรบ้าง และแต่ละเป้าหมายนั้นให้เวลาในการบรรลุยาวนานสักเท่าไร สิ่งสำคัญอีกอย่างในการตั้งเป้าหมายก็คือ จะต้องเขียน หรือตั้งเป็นประโยคบอกเล่า ไม่ใช่ประโยคปฏิเสธนะครับ เพราะว่ามีผลต่อจิตใต้สำนึกครับ เช่น “เราจะไม่สูบบุหรี่” แบบนี้จิตใต้สำนึกจะบอกเราว่า เราจะต้องสูบบุหรี่ ดังนั้นตั้งใหม่ให้เป็นประโยคบอกเล่า เช่น “เราจะสูบบุหรี่ให้น้อยลง” หรือ “เราจะเลิกบุหรี่” เป็นต้นครับ มีนักวิชาการฝรั่งเขาวิจัยไว้เยอะนะครับ ว่าการที่เราไปไม่ถึงเป้านั้น มีส่วนมาจากการที่เราตั้งเป้าหมายไม่ถูกต้องด้วยครับ

* วางแผนไปสู่เป้าหมาย หลัง จากที่เรามองเห็นภาพเป้าหมายของเราในแต่ละด้านแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อก็คือ วางแผนไปสู่เป้าหมายแต่ละตัวว่าเราจะต้องมีวิธีการ มีแผนงานต่าง ๆ ที่จะเดินไปสู่เป้าหมายได้อย่างไร ไม่ใช่กำหนดเป้าหมายแล้วรอให้ความสำเร็จเดินเข้ามาหา โดยที่ไม่มีการวางแผนทำอะไรใหม่ๆ แบบนี้ตั้งเป้าหมายง่ายสักแค่ไหน ก็ไปไม่ถึงครับ เวลาวางแผนเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น คำถามง่ายๆ ที่จะต้องถามตัวเองก็คือ “จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้บรรลุผลสำเร็จในเวลาที่กำหนด” หรือ “มีวิธีการอะไร อย่างไร บ้าง ที่ทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้” สิ่งสำคัญก็คือ อย่าเพิ่งมองไปถึงความเป็นไปได้มากนัก คิดออกมาให้ได้ก่อนว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าเราอยากจะบรรลุเป้าหมายนั้น มันก็เกิดความเป็นไปได้ขึ้นมาเองครับ ไม่ใช่มัวแต่คิดว่า ต้องทำแบบที่เราไม่เคยทำ ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ฯลฯ แบบนี้ก็จบแล้วครับ เป้าหมายที่วางไว้ยังไงก็ไม่บรรลุได้เลยครับ ดังนั้นคิดก่อนว่า “ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้” จากนั้นถ้าเราคิดหนทางออกมาแล้วก็ถามว่า หนทางนี้เป็นทางที่ดีหรือไม่ ถ้าดี ก็หาวิธีการทำเลยครับ

* ลงมือทำซะตั้งแต่วันนี้ เมื่อ เรามีเป้าหมายและมีแผนงานแล้ว สิ่งสำคัญถัดไปก็คือ “การลงมือทำตามแผนงาน” ที่เรากำหนดไว้นั่นเอง หลายๆ คนมาตกม้าตายก็ตรงนี้แหละครับ กล่าวคือ เป้าหมายชัดเจนมาก รวมทั้งแผนงานก็ออกมาอย่างรัดกุม เป็นขั้นเป็นตอน แต่ไม่ยอมลงมือทำซะที มัวแต่นั่งฝัน นั่งมองเป้าหมาย และภูมิใจในแผนงานที่ตนวางไว้อย่างดี แบบนี้ฝันที่เราวาดไว้ ก็ไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้เลยครับ จะว่าไปขั้นตอนนี้แหละครับ ที่ยากที่สุด เพราะจะต้องมีการกระตุ้นจากตัวเราเอง มีการควบคุมตนเอง มีวินัยในตนเอง ต้องไม่ถูกจูงใจไปในทางที่ผิดโดยความอยาก หรือความเคยชินในตัวเอง แก้ได้โดยการนำเอาเป้าหมายที่เราฝันไว้ มาอ่านบ่อยๆ และนึกภาพตามบ่อยๆ ถ้าเรายังมีความอยากบรรลุเป้าหมายนั้นอยู่ เราจะเริ่มลงมือทำเอง แต่ก็ขอให้เริ่มแบบเบาไปหาหนักนะครับ อย่าเริ่มแบบหนักเลย เพราะเราจะเริ่มได้ไม่นานครับ แล้วก็จะเลิกไปเอง

ผมคิดว่า 3 ปัจจัยข้างบนนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ในลักษณะที่เรียกกว่าเป็นขั้นตอนไปสู่ความสำเร็จเลย แต่อย่างไรก็ดีขั้นตอนหรือสูตรสำเร็จเหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ลงมือทำมันตามแผนที่เราตั้งไว้

ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ซึ่งผมเองก็รู้สึกแย่กับตัวอย่างนี้นะครับ เพียงแต่มันเห็นภาพชัดมาก เนื่องจากผมเป็นอาจารย์พิเศษสอนนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ หลายมหาวิทยาลัย สิ่งที่ผมมักจะโดนเข้ากับตัวเองก็คือ ช่วงใกล้ๆ สอบ ก็มักจะมีนักศึกษามาสอบถามเรื่องของข้อสอบว่าออกอะไร หรือไม่ก็ขอให้ผมบอกข้อสอบเลย เพื่อเขาจะได้ทำได้ (คิดได้ไง) ผมคิดเอาเองว่า แบบนี้ไม่ต้องมาเรียนหนังสือดีกว่ามั้งครับ

ถ้าถามว่าเด็กเหล่านี้ทราบหรือไม่ว่า การที่จะเรียนให้ได้เกรดดีๆ (เป้าหมาย) นั้นจะต้องทำอย่างไร (แผนงาน) ตอบได้เลยว่าเขารู้ เป้าหมายคือผลคะแนนการสอบ เราก็สามารถกำหนดได้ชัดเจนว่าวิชาใด อยากได้ผลอย่างไรบ้าง เกรดอะไรบ้าง จากนั้นก็มากำหนดแผนงานกันว่า จะไปสู่คะแนนนั้นได้อย่างไร สมมติแผนงานก็คือ ทุกเย็นกลับถึงบ้านแล้วจะต้องทบทวนวิชาที่เรียนมาในวันนั้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมงและทำบันทึกสรุปไว้ และเวลาเรียนในห้อง ก็ต้องตั้งใจเรียน สงสัยอะไรให้ถามผู้สอนทุกครั้ง โดยจะต้องได้ความรู้ใหม่ๆ ในแต่ละครั้งที่เข้าเรียน ฯลฯ

เชื่อมั้ยครับ ว่าเด็กกลุ่มนี้มองเห็นเป้าหมายว่าอยากได้อะไร และรู้ว่าแผนงานที่จะต้องทำนั้นคืออะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ทำครับ เวลาเรียนก็ไม่ตั้งใจเรียน(ไม่ทุกคนนะครับ) คุยกัน เล่นบีบี นั่งเหม่อลอย ฟังเพื่อนมากกว่าฟังผู้สอน หรือมานั่งเฉยๆ แต่ไม่มีใจมาเรียนเลย พอถึงบ้านก็เล่นเน็ตต่อ คุยโทรศัพท์กับเพื่อน ดูทีวี แชท ฯลฯ แบบนี้จะได้เกรดดีได้อย่างไรจริงมั้ยครับ เด็กกลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็นเด็กที่เรียนไม่ค่อยดีอยู่แล้ว แปลกนะครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราเรียนไม่ดี แต่กลับไม่ตั้งใจ กลับทำตัวให้แย่ลงไปกว่าเดิมอีก

แล้วพอช่วงสอบ ก็จะมาร้องโอดโอยครวญครางว่า ผู้สอนใจร้าย ไม่บอกข้อสอบบ้าง ไม่ยอมให้แนวทางบ้าง ผมถามเด็กที่ตั้งใจว่าเข้าใจมั้ย กลัวข้อสอบมั้ย เขาตอบอย่างมั่นใจว่า “เรียนเข้าใจแล้ว จะออกข้อสอบอย่างไรมา ก็น่าจะทำได้”

ระบายซะยาวเลย ที่จะบอกก็คือ ความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้น มันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้นครับ ถ้าเราอยากสำเร็จ ก็ทำตัวให้ไปสู่ความสำเร็จ ถ้าเราอยากล้มเหลว เราก็ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งฝันไปวันๆ แล้วก็ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไปเถอะครับ แต่อย่ามาเรียกร้องทีหลังแล้วกันนะครับว่า “รู้งี้ทำแบบนั้นซะตั้งนานแล้ว” เพราะพูดไปมันก็ไม่มีประโยชน์ครับ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร อยู่ที่ว่าเราจะลงมือทำมันเมื่อไรครับ


Create Date : 07 ตุลาคม 2553
Last Update : 7 ตุลาคม 2553 7:01:17 น. 1 comments
Counter : 738 Pageviews.  

 


โดย: หน่อยอิง วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:21:01:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]